Voravuj Sujjaporamest
6 hours ago·
วันนี้เห็นดราม่าเรื่องเพนต์ติ้งของกษัตริย์ Charles แห่งอังกฤษ โดย Jonathan Yeo เมื่อ 2-3 เดือนก่อนว่า ภาพไม่สวย ที่ Jonathan ได้วาดภาพ official ของเชื้อพระวงศ์เพราะ Jonathan มี connection ดีกว่าศิลปินคนอื่น (เมื่อปีที่แล้ว เราเคยเชียนเกี่ยวกับ Johanathan แต่ถูก facebook แบนและห้ามโพสท์ไป 1 อาทิตย์ เพราะเขาเอารูปผู้หญิงโป๊มาคอลลาจจนเป็นหน้าบุคคลสำคัญของโลกหลายคน ในสาย portrait painting เขาก็ขึ้นชื่อเรื่องความฉาวโ่ฉ่อยู่ระดับหนึ่ง)
ก็ขออยากย้อนไปที่เพนต์ติ้งของ Queen Elizabeth ที่สอง ที่วาดโดย Lucien Freud เป็นแม่แบบด้วย
คือ Charles รู้อยู่แล้วว่า Jonathan Yeo นั้นเป็นซ้าย และเกลียดเจ้า แต่ยังจ้างให้วาดรูปเขา ลองคิดดูดีๆ ว่า ฝ่ายเจ้าของอังกฤษเขาก็เล่นการเมืองกันเก่งขนาดไหน เขาต้องหาพื้นที่สื่อขนาดไหนเพื่อจะบอกว่าเขา tolerance กับโลกปัจจุบัน และปรับตัวกับโลกได้ขนาดไหน เขาไม่อยากให้โลกมองว่าฝ่ายเจ้าเป็นสิ่งกีดขวางพัฒนาการของประเทศ
ทั้ง King Charles และ Queen Elizabeth II ก็เคยมีรูปถ่ายและเพนต์ติ้งอมาจำนวนหลายชิ้น ตลอดชีวิตของตัวเอง แต่ official portrait painting มันคือเรื่องของการเมืองอย่างแท้จริง (ไม่เหมือนประเทศเผด็จการที่ไม่อาจยอมรับจุดด่างพร้อยใดใดได้ จนทำให้จิตรกรกลายเป็นทาสของความอนุรักษ์นิยม)
แต่วัฒนธรรมของอังกฤษนั้นอยู่บนการพัฒนาไปข้างหน้า ถ้าเขาจะจ้างให้ใครวาดรูปให้ ถึงแม้เขาจะไม่ชอบ แต่ถ้างานไม่ห่วยกว่ามาตรฐานของศิลปิน เขาก็จะไม่เซ็นเซอร์นะ
...
อยากให้ลองคิดตามว่า ศาสตร์ของ Portriat Painting ในโลกปัจจุบัน นั้นมี 60% Content/Aestheic และ 40% คือ Context
https://www.facebook.com/Melanchoholics/posts/7771061279618872?ref=embed_post
