“สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการเดินทางไปจีนเมื่อ ๒๖ มีนาคมที่ผ่านมา ว่าไปพูดคุยเจรจาเรื่องเรือดำน้ำ เพราะอยากให้จบ เป็นความตั้งใจแต่ต้นเมื่อเข้ารับตำแหน่ง” แถมมีแนวโน้มดีว่าจะเป็นไปตามแผนที่กองทัพเรือวางไว้
นั่นคือ “ขอยกเลิกเรือดำน้ำ เปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต หรือ OPV” ทัพเรือพอใจ เงินที่จ่ายไปก่อนแล้วนั้นก็ไม่เสียเปล่า “เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว ก็ให้กองทัพเรือไปทำการบ้าน ซึ่งทางฝั่งจีนก็กลับไปทำการบ้านเช่นกัน” แต่การบ้านของจีนดูเหมือนจะโจทย์ยาก
เนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมของจีนออกมาว่า ทางเขาไม่พอใจที่ไทยจะเปลี่ยนจากเรือดำน้ำไปเป็นเรือบนน้ำ อ้างว่าจีนลงทุนลงแรงจัดสร้างให้ไปแล้วกว่า ๕๐% เขาไม่มองประเด็น “เรือดำน้ำไร้เครื่อง” อย่างที่คนไทยมองเห็น
นี่จะเป็นบทเรียนสำหรับรัฐบาลภายภาคหน้า ว่าคบค้ากับจีนอย่าว่าแต่มีกำไร แค่เท่าทุนจะยังไม่ได้ ทางเขาไม่คิดว่าประกอบเรือไม่มีเครื่อง เพียงแต่เครื่องที่เคยใช้ ถูกเจ้าของห้าม ใช้ไม่ได้ เขาก็หาเครื่องอื่นมาใส่แทน แต่คุณภาพเหมือนกันหรือเปล่าอีกเรื่อง
สำหรับนักข่าวสายทหาร Wassana Nanuam รายนี้กลับมองต่างมุมจากคำของพ่องหย่ายสุทิน ที่บอกว่า เรื่องเรือฟริเกตของ ทบ.จะเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ ๒ เมษายน “เพื่อบรรจุในงบประมาณปี ๒๕๖๘” หรือไม่ ต้องไปถามนายกฯ
“กระทรวงกลาโหมไม่ขัดข้อง เป็นดุลพินิจนายกฯ เพราะเกี่ยวข้องกับตารางงบประมาณ ถ้ามีเรือฟริเกตและมีเรือดำน้ำ จะจัดงบอย่างไรเพื่อไม่ให้งบพอกมากเกินไปในแต่ละปี” ก็นี่ละที่ทำให้ Deep Blue Sea แซะว่า “ส่อเค้า โดนจม”
(https://www.facebook.com/story=7522149971176729&id=100001454030105PAyuE)
