วันเสาร์, เมษายน 13, 2567

แรงกระเพื่อมการกลับมาเยือนบ้านเกิดของคุณอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ของชาวราชภักดิ์ ล่าสุด เพิ่มมากขึ้น ชาวราชภักดิ์ทั้งหลายเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า อดีตท่านชายกลับมาทำไม และมีจุดประสงค์ที่แท้จริงอันใดหรือไม่ จนเริ่มแสดงความคิดเห็นเชิงเหน็บแนมถึงขั้นด่าทอในสื่อสังคมออนไลน์ไม่ต่างจากกลุ่มไม่นิยมสถาบันฯ


Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
13h
·
เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่แรงกระเพื่อมมากกว่าครั้งก่อนๆที่เคยกลับมาเยือนบ้านเกิดของคุณอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งครั้งนี้ได้เยี่ยมเยียนองค์กรและโครงการต่างๆทั่วประเทศ ที่มีคนรอต้อนรับมากมาย แต่แน่นอนว่า ทุกอย่างมีขาวและมีดำ เมื่อมีคนที่ต้อนรับและสนับสนุน ก็ย่อมมีคนที่ต่อต้านและเกิดกระแสลบอยู่เสมอ
นอกเหนือจากกลุ่มผู้ไม่นิยมสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ไม่นิยมในตัวคุณอ้นเนื่องจากไม่นิยมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่แล้ว ทว่ามีกลุ่มผู้จงรักภักดีจำนวนไม่น้อย ที่เริ่มก่อกระแสตีกลับ ตั้งข้อกังขาและไม่พอใจในตัวคุณอ้น ในฐานะที่ยังเป็น "พระหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์" เช่นกัน กลายเป็นการรับศึกจากทั้งสองด้านไปแล้ว เพราะเหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้?
ชาวราชภักดิ์ทั้งหลายเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า อดีตท่านชายกลับมาทำไม และมีจุดประสงค์ที่แท้จริงอันใดหรือไม่ จนเริ่มแสดงความคิดเห็นเชิงเหน็บแนมถึงขั้นด่าทอในสื่อสังคมออนไลน์ไม่ต่างจากกลุ่มไม่นิยมสถาบันฯ จนลามไปถึงการจุดไฟเรื่องอื้อฉาวเก่าๆในอดีตกับชีวิตอภิเษกสมรสของทูลกระหม่อมพ่อและ(อดีต)หม่อมแม่ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ต่างจากเมื่อครั้งกลุ่มจงรักภักดีที่แสดงความไม่พอใจ เหน็บแนม และด่าทอทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯที่เกิดขึ้นเรื่อยมาเช่นกัน
ทำให้เกิดพฤติกรรมของกลุ่มที่จงรักภักดีที่ปฏิบัติตนไม่ต่างจากกลุ่มไม่นิยมสถาบันฯ ด้วยการขุดเรื่องฉาวเม้ามอยอย่างสนุกปาก รู้ไส้รู้พุงทุกพระองค์และความเคลื่อนไหวประดุจแอบอยู่ใต้พระราชบรรจถรณ์ เพียงอ้างเหตุเพราะว่าไม่อยากให้กระทบต่อพระบรมเดชานุภาพ และด้วยความกลัวที่ไม่อยากให้มีมหาอำนาจต่างชาติก้าวก่ายเรื่องภายในประเทศดังที่เป็นกระแสในกลุ่มผู้จงรักภักดี จึงอาจเป็นเหตุผลที่ชาวราชภักดิ์หันมา “ด่าหมดไม่สนลูกใคร”
ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากการที่มีคนจับผิดและจุดประเด็นขึ้นมา หลังจากคุณอ้นได้โพสต์พระฉายาลักษณ์ถวายพระพรชัยมงคล ถูกตั้งข้อสังเกตในการใช้พระฉายาลักษณ์ขาวดำที่คนไทยหลายคนไม่พอใจอันเป็นไปตามความเชื่อที่ถือกันว่าการโพสต์ภาพขาวดำในวันดีถือว่าไม่เป็นมงคล
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นว่าด้วยการสถาปนารัชทายาท เมื่อกลุ่มคนสนับสนุนและต่อต้านจำนวนไม่น้อยที่เห็นพ้องต้องกันว่า อดีตท่านชายกลับมาได้จังหวะที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่ทรงประชวรหนัก ทำให้ขาดกำลังสำคัญของพระราชสำนักในเวลานี้ ประกอบกับการที่ยังไม่มีการสถาปนาพระองค์ใดขึ้นเป็นผู้สืบทอดรัชบัลลังก์ จึงไม่พ้นการเป็น “องค์เต็ง” ในการรับช่วงต่อทูลกระหม่อมพ่อในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หากอิงหลักความเป็นจริงและกฎมณเฑียรบาลแล้วนั้น ผู้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในเวลานี้ คือสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งอาจต้องรอเมื่อทรงบรรลุนิติภาวะก่อนจึงถึงเวลาที่ต้องจับตาดูกันอีกครั้ง ชาวราชภักดิ์จึงออกมาสนับสนุนทูลกระหม่อมชายอย่างเปิดเผยมากขึ้น แต่กว่าจะถึงเวลานั้น หากคุณอ้นได้รับโอกาสที่สองในกลับสู่เส้นทางพระเกียรติยศอีกครั้ง ก็ต้องจับตาดูเช่นกันว่า “เกมจะเปลี่ยนเล็กน้อย” หรือไม่
และประเด็นใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้ เมื่ออดีตท่านชายได้ก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทย โดยได้ลงประวัติส่วนตัวด้วยคำนำหน้า “Prince” ทำให้ถูกวิจารณ์พอสมควรถึงการใช้พระสกุลยศแม้จะถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว คุณอ้นจึงถูกมองว่าใช้ความเป็น “พระราชโอรส” แสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจส่วนตัวหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อครั้งเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงเคยถูกวิจารณ์เรื่องเช่นเดียวกันนี้มาแล้ว
รวมไปถึงเรื่องราวส่วนตัวด้านอื่นๆที่ถูกขุดดังที่เคยเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ อาทิ เรื่องหนี้บัตรเครดิต และชีวิตสมรส สำหรับคุณอ้นเองใช่ว่าจะลอยตัว ย่อมรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าอาจกำลังรับศึกจากทั้งสองด้าน คือจากฝั่งไม่นิยมสถาบัน หรือฝั่งสาธารณรัฐนิยม และจากฝั่งที่จงรักภักดีต่อสถาบันที่กำลังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเองเช่นกัน ระหว่างกลุ่มสนับสนุนและไม่สนับสนุนอดีตท่านชาย
ภายใต้ความคลุมเครือหลายอย่างที่สร้างความฉงนสนเท่ห์แก่คนจำนวนไม่น้อย ซึ่งกำลังคอยจับผิดหรือจับตามองตลอดเวลา คุณอ้นยังใช้โอกาสที่มีอยู่ในการสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ สร้างผลงานและภาพลักษณ์ที่ดีโดยการเยี่ยมเยียนที่ต่างๆ รวมถึงการรับตำแหน่งสำคัญในองค์กรระดับประเทศด้วย ถึงกระนั้น ยังมีเวลาในการจัดการเรื่องส่วนตัวให้เสร็จสรรพอย่างสมบูรณ์ และพ้นจากการมีมลทินแมวเหมียว เพราะหากเวลาอันสำคัญมาถึงในกาลข้างหน้าดังที่คนคาดการณ์ไว้นั้น จึงจะสามารถยืนอย่างสง่างามและเต็มภาคภูมิ
แน่นอนว่าการที่ถูกกังขาและแสดงความเห็นเชิงลบจากกลุ่มผู้รักสถาบันเองที่บางครั้งอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากเกรงการกระทบไปถึงพระบรมเดชานุภาพ ไม่ต่างจากสิ่งที่กลุ่มปฏิกษัตริย์นิยมได้ทำเอาไว้ แต่ยังแอบเฝ้ามองอยู่ห่างๆด้วยความตื่นเต้น หรือตื้นตัน หรือหวาดระแวง ว่าหากเวลานั้นมาถึงจริงๆจะเป็นอย่างไรต่อไป พรุ่งนี้ตอนเที่ยงจะได้เอาชื่อคุณอ้นขึ้นหน้าจอหรือไม่ จึงต้องติดตามกันต่อไปเช่นกัน #Whiteholeพรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่
----
The latest return of Vacharaesorn Vivacharawongse, the former Prince and estranged son of His Majesty King Vajiralongkorn of Thailand is now more frequently talked about than his previous ones. Though he is seen largely received and greeted by Thais and royal supporters, positive must be put aside negative as always.
Besides having negative perspectives from anti-monarchist movements, as they are displeased with the current Monarch, like father like son, more royalists have also started expressing negative flows and suspicions towards the ex-Prince who now handles battles from both sides.
Many royal supporters now also interrogate on the real or hidden purpose of the ex-Prince’s return, with sarcastic or even condemned words on social media similarly to what the anti-royals do. Royal supporters also talked about the old scandalous marriage life of his parents, same as what they did to The King’s elder sister Princess Ubolratana Rajakanya.
It has happened from various factors occurred in recent days. Vacharaesorn (a.k.a. Than Aon) posted a photo of his aunt wishing for her birthday. The Princess’s black and white photo posted on his Facebook received unsatisfied feedback due to the Thais’ traditional belief about having a black and white photo on good occasion would be brought to misfortune.
Also the topic of discussion on the future heir to the throne, when some of both anti-royals and royalists similarly agree that he would highly possibly be reinstated into the royal pathway to the future heir when he made his first return in an exact time as his half-sister, who is considered a very potential future successor is still hospitalised.
According to the Palace Law of Succession, the most possible heir in the future at the moment is still Prince Dipangkorn Rasmijoti, The King’s youngest son who is the only one holding a royal title. Increasing royalists now openly turn out to support the young Prince though they still wait if he will be designated heir when the Prince reaches his majority when he turns 20. Until then, Thais need to wait and keep an eye on if “Than Aon” finally received his second chance to is ‘royal future’.
The latest issue becomes viral after Vacharaesorn established his own company on business and investment consultant. He is heavily criticised after referring himself as “Prince” on his company’s profile webpage. He is questioned if he seeks his own profit by using his royal profile, similarly to what happened to The Prince Edward, the youngest son of Queen Elizabeth II of the United Kingdom.
Including his personal life and other private financial issues which were recently leaked on social media, the ex-Prince himself might acknowledge well that he confronts battles from both sides, from anti-royals or republicans, and from royal supporters who now split up with different views towards the former Prince and the crown.
With such ambiguity and scepticism expressed from the public, “Than Aon” still has time to modify himself into the public sphere by visiting various places or projects and receiving positions working in national organisations. He still has time to completely finish off his obscurity, preparing for himself if “the chance” is finally handed to him.
Many royalists still keep an eye on the ex-Prince without any criticism towards him. They are aware of negative criticism expressed towards The King as he receives so from the republicans. Still, they are eager to wait and see what would happen to the still-stabilised throne in the future, with excitement, or delightfulness, or even paranoia.

https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/823862726441347?ref=embed_post