วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 05, 2566
พระพยอมไม่เคยได้รางวัลดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนเหมือน ว. วชิรเมธี แต่ก็เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนผู้ถูกกดขี่
สุรพศ ทวีศักดิ์
8h
พระพยอมไม่เคยได้รางวัลดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนเหมือน ว. วชิรเมธี แต่ก็เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนผู้ถูกกดขี่
ขณะที่ ว. วชิรเมธีไม่เคยเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนผู้ถูกกดขี่เลย ว. แสดงทั้งภาพและข้อเขียนชื่นมชมทะไลลามะที่ตีความพุทธธรรมสนับสนุนสิทธิมนุษยชน แต่ตัว ว.เองกลับไปออก "รายการเดินหน้าประเทศไทย" สนับสนุนเผด็จการและบอกว่า "ค่านิยม 12 ประการคล้ายธรรมะในพุทธศาสนา" ว่าซั้น
ที่คนเขาวิจารณ์ ว. เขาวิจารณ์จากการกระทำของ ว. เองไม่ใช่เขาหาเรื่องหรืออิจฉาอะไรหรอก
(ดูข่าว https://www.matichon.co.th/politics/news_3806735)
.....
(4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถาม พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ที่ผ่านมาอาตมาได้เคยบิณฑบาตขอชีวิตใครไปก็เยอะ ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ปะปนกันไป เพราะอาจจะจี้ไปไม่ตรงจุด แต่เมื่อไม่นานมานี้อาตมาได้พบกับเพนกวินที่วัด ทำให้อาตมาเห็นสภาพร่างกายเขาดูทรุดโทรมไปเยอะ เหมือนกับว่าสารอาหารไม่ได้เข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายเลย แม้ว่าเขาจะใช้เวลารักษาตัวมาเกือบปีก็ตาม
ทำให้อาตมาคิดได้ว่าระหว่างอุดมการณ์กับชีวิตที่น้อง 2 คนกำลังทำอยู่ ควรจะหาวิธีการต่อสู้ใหม่ เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าเคยทดลองมาแล้วว่าการอดอาหารไม่ได้ช่วยให้บรรลุ ท่านจึงเปลี่ยนความคิดกลับมาเสวยอาหารตามเดิม เพื่อให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง จากนั้นก็ตั้งใจเดินหน้าใหม่จนประสบความสำเร็จพบอริยสัจ 4 อาตมาจึงคิดว่าถ้าน้องทั้ง 2 คน ยอมถอยออกมาเสียหน่อยเพื่อที่จะก้าวต่อไปใหม่ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เห็นหน้าพ่อแม่ ครอบครัวและเพื่อนต่อ แต่ถ้าจะเอาแต่เดินหน้าต่อโดยไม่ยอมถอยเลย แต่ร่างกายไม่เอาด้วย แม้ว่าใจกับอุดมคติจะเดินต่อมันก็กลายเป็นว่าอุดมคติกัดกินชีวิต กัดกินร่างกายให้หมดสภาพลง
พระพยอมกล่าวอีกว่า เรื่องนี้อาตมาต้องขอบิณฑบาตไปทางผู้ใหญ่ด้วยว่า ช่วยถนอมชีวิตของเด็กๆ ที่มีความคิดโลดแล่นด้วย อย่าปล่อยเขาไปตามยถากรรม ช่วยประคับประคองผ่อนหนักเบาให้กับเขา ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรม 4 ประการ คือ มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ขอให้เป็นข้อสุดท้ายสุดที่ผู้ใหญ่ควรจะมี ส่วนทางน้อง 2 คน อาตมาอยากให้ฉุกคิดว่า ระหว่างอุดมคติกับชีวิต ควรเลือกอะไรไว้ก่อน อาตมาขอให้น้องทั้ง 2 คนปลอดภัย เพราะอย่าลืมว่าอาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์ แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงตรัสไว้ ชีวิตประกอบได้ธาตุทั้ง 4 ธาตุ ซึ่งอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญของธาตุทั้ง 4
“ดังนั้น ถ้าหากน้องทั้ง 2 คน อยากอยู่เพื่อดูความสำเร็จในวันข้าง ก็ไม่ควรเอาชีวิตมาทุ่มกับเหตุการณ์ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว เพราะมันยังมีหนทางอื่นๆ ให้ต่อสู้ การทรมานร่างกายตนเองแบบนี้เป็นการทรมานวิถีชีวิต ถ้าถึงแก่ชีวิตก็เป็นบาปในรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจใช้อาวุธทิ่มแทง หรือฟันร่างกายตนเอง แต่ก็ทำให้สิ้นชีวิตลงด้วยวิถีของตัวเอง ถือเป็นบาปเช่นกัน และนอกจากนี้ เหตุการณ์อาจลุกลามกลายเป็นน้ำผึ้งเพียงหยดเดียว ที่ทำให้ประเทศชาติลุกเป็นไฟขึ้นมาอีกครั้ง” พระพยอมกล่าว