“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร”
คำนี้สุดซึ้งนะ ถ้าหากลูก ๑๐ ขวบไม่ได้ถามว่า “รอบนี้กี่ปี”
และผู้เป็นภริยาไม่ได้พ้อว่า “เมื่อไหร่พี่จะหลุดพ้นจากวงจรนี้สักที”
นั่นจากเหตุหมาดๆ แกนนำ นปช. ๖ คน โดน ๒ ปี ๘ เดือน ใส่ชุดส้ม โซ่ตรวนคล้องข้อเท้า
โทษของการไปชุมนุมหน้าบ้านประธานองคมนตรี (คนที่ย้ายออกไปสัมปรายภพแล้ว)
เป็นเวลาสี่ชั่วโมง ขณะที่อีกฝ่ายผู้ต้องโทษยึดทำเนียบรัฐบาล ๘ เดือน โดนโทษ ๘
เดือนแต่ติดจริงแค่ ๓ เดือน สีแดงที่ไปบุกโรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา โดนคุก ๔
ปีเต็มถ้วนหน้า
อีกคู่เปรียบเทียบ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ
พธม. ถูกพิพากษาจำคุก ๒๐ ปี (แม้นี่คดีฉ้อโกง) ติดจริงแค่ ๓ ปี
ออกมาจัดรายการท้อคโชว์ออนไลน์ สบายแล้ว ส่วน สมยศ พฤกษาเกษมสุข ติดคุกฐานเป็นบรรณาธิการนิตยสารซึ่งมีบทความหมิ่นเจ้า
เต็ม ๗ ปี
ความต่างอย่างนั้นสำหรับคนที่เคยติดแล้ว
ออกมาแล้วไม่จองเวรกันก็น่าสาธุ แต่มันยังมีพวกที่ตายไปแล้ว
หรือยังอยู่ในคุกและเข้าข่ายร้ายแรงมาก
เช่นที่มีการแสดงความเห็นไว้ว่าไม่ควรนิรโทษ
ได้แก่คดีทุจริตคอรัปชั่นและคดีหมิ่นกษัตริย์
ถ้าถามความเห็น ศรีอู๊ด
โกสุโท แกบอก ‘พระคุยหฐาน’ สิครับท่าน (เขาใช้ศัพท์พยางค์เดียว แต่เราแปลงให้มันเยิ่นเย้อซะงั้น)
“คนเสื้อแดงติดคุกไปหมดแล้ว หรือไม่ก็ตาย มีแต่ กปปส.
พวกมึงนั่นแหละที่ช่วยกันยื้อคดี จนไม่มีทางไป ทีงี้อยากให้มีนิรโทษกรรม”
สำหรับ independence @redbamboo16 ลงละเอียดเข้าไปหน่อย “ที่เสนอก็เพราะตอนนี้ คดีส่วนใหญ่เหลือแต่ พธม.
กปปส. และอภิสิทธิ์ สุเทพ กองทัพ ที่มีส่วนฆ่าเสื้อแดงเกือบ ๑๐๐ ศพ บาดเจ็บ ๒ พัน
และคดีวัดปทุม
ส่วนเสื้อแดงติดคุกหมดแล้ว
เหลือแต่คุณจตุพร ซึ่งก็ติดมา ๔ รอบแล้ว” ซึ่ง Yaowalak Anuphan
แห่งศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนว่าใช่ เสื้อแดงติดคุกไปหมดแล้ว เธอมีเพิ่มเติมนิด “เค้ากลัวติดคุก...มันไม่ได้คิดปรองดองห่าเหวอะไรหรอก”
ข้อเสนอใหม่นี้มาจาก สว.คนดัง
เมื่อก่อนเคยด่าเสื้อแดงไว้เยอะ หลังๆ ได้ดีเป็น สว.ตู่ตั้ง
ชักสูงวัยไอเดียเริ่มบรรเจิดมั้ง คำนูณ สิทธิสมาน
อภิปรายเรื่องแผนแม่บทความมั่นคงว่าต้องเริ่มด้วย ‘การปรองดอง’ ก่อน ขอให้นายกฯ รับพิจารณาหน่อย
จะได้สมปรารถนา “รวมไทยสร้างชาติได้...จะเป็นการสร้างบารมีให้นายกฯ”
และ “ถึงเวลาแล้ว...เมื่อคนกลุ่มหนึ่งถูกทิ้งให้ขึ้นศาลทุกสัปดาห์
จะไปต่างประเทศต้องรายงานต่อศาล หลายคนถูกยึดทรัพย์” (พูดอย่างนี้พอรู้กันนะว่าพวกไหนที่ยังต้องไปศาลอยู่)
รายละเอียดข้อเสนอก็ตามสูตร “เฉพาะผู้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว”
ใครที่หนีคดีไป “ถ้ากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม...ย่อมได้สิทธินี้”
ก่อนอื่นขอให้นายกฯ เสนอเป็น พรบ.นิรโทษกรรมประชาชน “อาจเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ
ตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญ” ก็ได้
สว. ‘ตู่ตั้ง’
อีกคน ที่ดูจะมองเรื่องกีฬาสีแผกไปจากอดีต พธม.ตัวต้นไอเดีย กลับแย้งว่าถ้าออกเป็น
พรบ.จะ “เสียหลักการทางกฎหมาย” เนื่องจากเห็นว่า “เมื่อมีการกระทำผิดแล้วมานิรโทษกรรม
ทำให้การเมืองไม่สงบ”
เสรี สุวรรณภานนท์ เสนอใหม่ “ให้ผู้กระทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วได้รับบทลงโทษไปสักระยะ
ก่อนที่จะใช้วิธีพักโทษ ดูแล้วน่าจะเป็นวิธีเหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา”
ตนเป็นประธานกรรมาธิการการเมือง จะนำเรื่องเข้าไปหารือ
ส่วน สว.สายทหาร มาตามยศตำแหน่งเพื่อยกมือให้หัวหน้าคณะรัฐประหารได้เป็นนายกฯ
หลังเลือกตั้งโดยแท้ กระโดดค้านทันที อดีต ผบ.ทอ. ว่าเรื่องปากท้องสำคัญกว่า “ดังนั้นเอาความอยู่รอดก่อน
ส่วนเรื่องการเมืองค่อยๆ แก้กันไป
เพราะเป็นปัญหาหมักหมมหลายปี” พล.อ.อ.มานัต
วงษ์วาทย์ ว่าไปโน่น ตอนนี่ต้อง “แก้ปัญหาเรื่องของภัยแล้ง...น่านฟ้าโมเดล
เชียงใหม่โมเดล ทำฝนหลวง แผนที่เส้นทางน้ำ” เสียก่อน “เพราะเป็นปัญหาที่ซ้ำซาก” เรื่องปากท้องทั้งน้าน
เอ่อ ดูเหมือนทั่นรู้ภาษาเหมือนกันว่า ๕-๖
ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ถึงอยากให้ “เมื่อตรงนี้เสร็จ แล้วค่อยว่ากัน” คง ‘ไม่’ ประมาณเดียวกับให้ถนนลูกรังหมดไปเสียก่อนค่อยว่าเรื่องรถไฟเร็วสูงนะ
จะอย่างไรก็แล้วแต่ เห็นมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยโดดงับแล้วนิ
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้านเอาทางพระเข้าขย่ม “การนิรโทษกรรมต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ
ไม่มีเลศนัย ต้องอภัยกันจริงๆ” และ “รัฐบาลควรเป็นผู้ดำเนินการ” แล้ว “ฝ่ายค้านยินดีสนับสนุน
ไม่ว่าจะเหลืองหรือแดง
ก็ขอให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน...จะสุดซอยหรือกลางซอยก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาต้นเหตุของปัญหา”
น่าจะเพราะเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบะท่าไว้เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง
จากที่ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ อ้าง
“ได้มอบหมายให้ ‘ทีมปฏิบัติการลับ’
ไปรวบรวมรายชื่อบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีการเมือง ทั้งในชั้นศาล
และการดำเนินคดีทั้งหมดเพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการนิรโทษกรรม” เฮ้ย
จะปรองดองทั้งที ทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ ด้วยล่ะ
อ๋อ ข่าวบอกว่า “อาจจะดำเนินการในช่วงกลางปี
หรือไม่ก็ปลายปีนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
อดีตรองนายกฯ และอดีตแกนนำ กปปส.แล้ว” มันเป็นเช่นนี้นี่เอง