วันศุกร์, กรกฎาคม 17, 2563

“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” แต่ “เมื่อไหร่พี่จะหลุดพ้นจากวงจรนี้สักที”


“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” คำนี้สุดซึ้งนะ ถ้าหากลูก ๑๐ ขวบไม่ได้ถามว่า “รอบนี้กี่ปี” และผู้เป็นภริยาไม่ได้พ้อว่า “เมื่อไหร่พี่จะหลุดพ้นจากวงจรนี้สักที” นั่นจากเหตุหมาดๆ แกนนำ นปช. ๖ คน โดน ๒ ปี ๘ เดือน ใส่ชุดส้ม โซ่ตรวนคล้องข้อเท้า

โทษของการไปชุมนุมหน้าบ้านประธานองคมนตรี (คนที่ย้ายออกไปสัมปรายภพแล้ว) เป็นเวลาสี่ชั่วโมง ขณะที่อีกฝ่ายผู้ต้องโทษยึดทำเนียบรัฐบาล ๘ เดือน โดนโทษ ๘ เดือนแต่ติดจริงแค่ ๓ เดือน สีแดงที่ไปบุกโรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา โดนคุก ๔ ปีเต็มถ้วนหน้า

อีกคู่เปรียบเทียบ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม. ถูกพิพากษาจำคุก ๒๐ ปี (แม้นี่คดีฉ้อโกง) ติดจริงแค่ ๓ ปี ออกมาจัดรายการท้อคโชว์ออนไลน์ สบายแล้ว ส่วน สมยศ พฤกษาเกษมสุข ติดคุกฐานเป็นบรรณาธิการนิตยสารซึ่งมีบทความหมิ่นเจ้า เต็ม ๗ ปี

ความต่างอย่างนั้นสำหรับคนที่เคยติดแล้ว ออกมาแล้วไม่จองเวรกันก็น่าสาธุ แต่มันยังมีพวกที่ตายไปแล้ว หรือยังอยู่ในคุกและเข้าข่ายร้ายแรงมาก เช่นที่มีการแสดงความเห็นไว้ว่าไม่ควรนิรโทษ ได้แก่คดีทุจริตคอรัปชั่นและคดีหมิ่นกษัตริย์

ถ้าถามความเห็น ศรีอู๊ด โกสุโท แกบอก พระคุยหฐาน สิครับท่าน (เขาใช้ศัพท์พยางค์เดียว แต่เราแปลงให้มันเยิ่นเย้อซะงั้น) “คนเสื้อแดงติดคุกไปหมดแล้ว หรือไม่ก็ตาย มีแต่ กปปส. พวกมึงนั่นแหละที่ช่วยกันยื้อคดี จนไม่มีทางไป ทีงี้อยากให้มีนิรโทษกรรม”

สำหรับ independence @redbamboo16 ลงละเอียดเข้าไปหน่อย “ที่เสนอก็เพราะตอนนี้ คดีส่วนใหญ่เหลือแต่ พธม. กปปส. และอภิสิทธิ์ สุเทพ กองทัพ ที่มีส่วนฆ่าเสื้อแดงเกือบ ๑๐๐ ศพ บาดเจ็บ ๒ พัน และคดีวัดปทุม

ส่วนเสื้อแดงติดคุกหมดแล้ว เหลือแต่คุณจตุพร ซึ่งก็ติดมา ๔ รอบแล้ว” ซึ่ง Yaowalak Anuphan แห่งศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนว่าใช่ เสื้อแดงติดคุกไปหมดแล้ว เธอมีเพิ่มเติมนิด “เค้ากลัวติดคุก...มันไม่ได้คิดปรองดองห่าเหวอะไรหรอก”

ข้อเสนอใหม่นี้มาจาก สว.คนดัง เมื่อก่อนเคยด่าเสื้อแดงไว้เยอะ หลังๆ ได้ดีเป็น สว.ตู่ตั้ง ชักสูงวัยไอเดียเริ่มบรรเจิดมั้ง คำนูณ สิทธิสมาน อภิปรายเรื่องแผนแม่บทความมั่นคงว่าต้องเริ่มด้วย การปรองดอง ก่อน ขอให้นายกฯ รับพิจารณาหน่อย

จะได้สมปรารถนา “รวมไทยสร้างชาติได้...จะเป็นการสร้างบารมีให้นายกฯ” และ “ถึงเวลาแล้ว...เมื่อคนกลุ่มหนึ่งถูกทิ้งให้ขึ้นศาลทุกสัปดาห์ จะไปต่างประเทศต้องรายงานต่อศาล หลายคนถูกยึดทรัพย์” (พูดอย่างนี้พอรู้กันนะว่าพวกไหนที่ยังต้องไปศาลอยู่)

รายละเอียดข้อเสนอก็ตามสูตร “เฉพาะผู้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว” ใครที่หนีคดีไป “ถ้ากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม...ย่อมได้สิทธินี้” ก่อนอื่นขอให้นายกฯ เสนอเป็น พรบ.นิรโทษกรรมประชาชน “อาจเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญ” ก็ได้

สว. ตู่ตั้งอีกคน ที่ดูจะมองเรื่องกีฬาสีแผกไปจากอดีต พธม.ตัวต้นไอเดีย กลับแย้งว่าถ้าออกเป็น พรบ.จะ “เสียหลักการทางกฎหมาย” เนื่องจากเห็นว่า “เมื่อมีการกระทำผิดแล้วมานิรโทษกรรม ทำให้การเมืองไม่สงบ”

เสรี สุวรรณภานนท์ เสนอใหม่ “ให้ผู้กระทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วได้รับบทลงโทษไปสักระยะ ก่อนที่จะใช้วิธีพักโทษ ดูแล้วน่าจะเป็นวิธีเหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา” ตนเป็นประธานกรรมาธิการการเมือง จะนำเรื่องเข้าไปหารือ

ส่วน สว.สายทหาร มาตามยศตำแหน่งเพื่อยกมือให้หัวหน้าคณะรัฐประหารได้เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งโดยแท้ กระโดดค้านทันที อดีต ผบ.ทอ. ว่าเรื่องปากท้องสำคัญกว่า “ดังนั้นเอาความอยู่รอดก่อน ส่วนเรื่องการเมืองค่อยๆ แก้กันไป

เพราะเป็นปัญหาหมักหมมหลายปี” พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ว่าไปโน่น ตอนนี่ต้อง “แก้ปัญหาเรื่องของภัยแล้ง...น่านฟ้าโมเดล เชียงใหม่โมเดล ทำฝนหลวง แผนที่เส้นทางน้ำ” เสียก่อน “เพราะเป็นปัญหาที่ซ้ำซาก” เรื่องปากท้องทั้งน้าน

เอ่อ ดูเหมือนทั่นรู้ภาษาเหมือนกันว่า ๕-๖ ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ถึงอยากให้ “เมื่อตรงนี้เสร็จ แล้วค่อยว่ากัน” คง ไม่ประมาณเดียวกับให้ถนนลูกรังหมดไปเสียก่อนค่อยว่าเรื่องรถไฟเร็วสูงนะ จะอย่างไรก็แล้วแต่ เห็นมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยโดดงับแล้วนิ

สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้านเอาทางพระเข้าขย่ม “การนิรโทษกรรมต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่มีเลศนัย ต้องอภัยกันจริงๆ” และ “รัฐบาลควรเป็นผู้ดำเนินการ” แล้ว “ฝ่ายค้านยินดีสนับสนุน ไม่ว่าจะเหลืองหรือแดง

ก็ขอให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน...จะสุดซอยหรือกลางซอยก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาต้นเหตุของปัญหา” น่าจะเพราะเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบะท่าไว้เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง จากที่ ฐานเศรษฐกิจอ้าง

“ได้มอบหมายให้ ทีมปฏิบัติการลับ ไปรวบรวมรายชื่อบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีการเมือง ทั้งในชั้นศาล และการดำเนินคดีทั้งหมดเพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการนิรโทษกรรม” เฮ้ย จะปรองดองทั้งที ทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ ด้วยล่ะ

อ๋อ ข่าวบอกว่า “อาจจะดำเนินการในช่วงกลางปี หรือไม่ก็ปลายปีนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตแกนนำ กปปส.แล้ว” มันเป็นเช่นนี้นี่เอง