ทำเป็นเล่นไป ‘เฮียป้อม’ เห็นงุ่มง่าม ย่องแย่ง
สยบปัญหาทุกอย่างด้วยคำ “ไม่รู้” เนี่ยนะ พอขึ้นแท่นพลังประชารัฐเปิดวิสัยทัศน์ไปโน่นเลย
‘อวกาศ’ เมื่อวานเสนอ ครม. “ต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศของประเทศ” เริ่มด้วยออกกฎหมาย ‘กิจการอวกาศ’
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รายงานผลประชุมกรรมการนโยบายอวกาศว่าต้องมี “กฎหมายและหน่วยงานรับผิดชอบเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม...เพื่อให้เกิดการกำกับดูแล
เกิดการส่งเสริมกิจการอวกาศ ที่ครอบคลุมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน”
เมื่อปลายปีที่แล้ว (๑๑ ธันวา ๖๒) ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
๗ คนขึ้นมา แล้ว ส.ส.รายชื่อพรรคภูมิใจไทยแถลงต่อสภาดันโครงการ ‘อวกาศเชิงพาณิชย์’
ว่าไม่เพียงดาวเทียมสื่อสารเท่านั้น
ต้องขยายไปยัง ‘ธุรกิจด้านอวกาศ’ อื่นๆ ทั้งในด้านยานอวกาศสำหรับมนุษย์โลก
การทำเหมืองในอวกาศ และการท่องเที่ยวอวกาศ เป็นต้น พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
กลับมาดันอีกครั้งหลังจากกลาโหมสหรัฐใช้โดรนฆ่านายพลผู้บัญชาการของอิหร่านในอาฟกานิสถาน
คราวนั้นเขาจี้ให้รัฐบาลประยุทธ์ใส่ใจเรื่อง
‘ความมั่นคงในอวกาศ’ “รัฐบาลจะมองข้ามเรื่องกิจการอวกาศ
กิจการดาวเทียม เรื่อง Cyber security และ Space
security ที่มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมดไม่ได้”
เขาว่าหากไม่มีหน่วยงานด้านนี้โดยตรงจะมีปัญหาได้
คราวนั้น ‘พันเอกด็อกเต้อ’ แนะว่าประเทศที่มีการพัฒนาด้านอวกาศอย่างจริงจัง นอกจากสหรัฐแล้ว ในเอเชียก็มีประเทศจีนที่เอาจริงเรื่องนี้
มาวันนี้เฮียใหญ่ของคณะยึดอำนาจอยู่ยาวบอกว่า ‘กิจการอวกาศแห่งชาติ’
จะช่วยพัฒนา ‘โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล’
อีกด้วย
(https://www.thairath.co.th/news/politic/1742553?cx, https://www.thairath.co.th/news/politic/1729688?cx และ https://www.thairath.co.th/news/politic/1889443)
ปะเหมาะพอดี วันนี้ (๑๕ ก.ค.)
น้องใหญ่นายกรัฐมนตรีต่อสายคุยกับประธานาธิบดี ‘สีจิ้นผิง’
ของจีน ได้รับคำมั่นตอกย้ำ “สนับสนุนนโยบาย ‘Thailand 4.0’ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และพร้อมที่ร่วมขับเคลื่อนไปพร้อมกับไทย”
จะมาจริงเมื่อไรไม่รู้นะ
เพราะเรื่องรถไฟเร็จสูง-เร็วกลางที่ดีลกันนานแล้ว ป่านนี้เส้นทดลองปากช่องแค่ ๓.๕
กิโลยังอ้อยอิ่ง แต่ก็เนอะ ด้วยความที่ไทยกับจีนเป็นมหัตมิตร (ศัพท์ใหม่เลียนแบบ ‘ข้อมูลมหัต’ ของราชบัณฑิต) ชนิด
“มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทั้งในระดับราชวงศ์
รัฐบาล และประชาชน” จึงต้อง “มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทั้งในระดับราชวงศ์ รัฐบาล
และประชาชน” นายกฯ ไทยเลยถือโอกาส “ขอให้จีนได้พิจารณารับซื้อผลิตผลทางการเกษตรของไทยให้มากขึ้น”
ฮ่องเต้ยุคใหม่ของจีนก็เออออ ฮ่อๆ
แต่ไม่มีรายละเอียดจะเอาอะไรจะให้อะไรบ้าง มีแต่คำนิยม “ชื่นชมแนวทาง ‘เราไม่ทิ้งกัน’
ของไทยในการช่วยเหลือกันเพื่อสู้กับโควิด ๑๙”
และพูดถึงการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ชนิดนี้ว่าจีนกำลังทำอยู่แล้ว
ความสัมพันธ์ที่ว่าแนบสนิทนี้ก้าวต่อไปจะเป็นเช่นไร
มิอาจประเมินได้ ดูเหมือนว่าไทยก็ขอกับจีนมาแล้วก่อนโควิด
ลองดูสิว่าโควิดไปแล้วจีนจะมาไหม แต่ว่าแม่สายบัวคงไม่แต่งตัวเก้อหรอกเนอะ
เพราะอีกหนุ่มก็ยิกๆ เข้ามาเหมือนกัน
‘ถ่านไฟเก่า’ แหยมๆ ไว้ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนนี้ ยินดีช่วยตั้ง ‘ซิลิคอนแวลลี่ย์’
ของไทยในโครงการเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก
บอกว่าอเมริกาอยากช่วยอย่างยิ่งเพราะตรงกับความปรารถนาจะเปิดแหล่ง ‘supplies
chain’ ห่วงอุปทานของสหรัฐในไทยพอดี
ก็ให้ 'บังเอิญ' หรือ 'ทันท่วงที' ก็สุดแท้
ทูตอเมริกันคนนี้ ซึ่งนัยว่าช่ำชองเรื่องจีนเพราะเป็นซีอีโอบริษัทกวาดซื้อสินทรัพย์และเคยอยู่ฮ่องกงมานาน
ภรรยาเป็นจีน เขียนบทความเชิงวิชาการ (ตีพิมพ์ภาษาไทยใน ‘ข่าวสด’) ถึง “การกระทำรุกราน...
ยุทธวิธีการบีบบังคับ บ่อนทำลาย และให้ข้อมูลบิดเบือนในทะเลจีนใต้”
ว่ามีการ “เสริมกำลังของฐานทัพหลายแห่งรอบหมู่เกาะสแปรตลี (Spratly
Islands) ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท ด้วยการส่งเครื่องบินเข้าไปประจำการเพิ่ม”
ไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี
สับแหลกตามนโยบายเป็นศัตรูกับจีนของรัฐบาลทรั้มพ์ว่าจีน “กระทำบุ่มบ่ามเพื่อแสดงสิทธิควบคุมทะเลจีนใต้
“ และนี่ “เป็นสัญญาณของการบั่นทอนเสถียรภาพของภูมิภาค
และจำกัดเสรีภาพในการเดินเรือ ซึ่งเป็นหนึ่งแรงผลักดันหลักในการเติบโตของไทยและภูมิภาคนี้”
ทั้งยังเอ่ยถึง “ภัยแล้งที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์ในแม่น้ำโขง”
ว่าเป็นเพราะจีนสร้างเขื่อนมากมายที่ต้นน้ำ ทำให้ “บริษัทผลิตไฟฟ้าพลังน้ำสามารถควบคุมการไหลของน้ำมายังปลายน้ำเพื่อผลประโยชน์”
ได้มากขึ้น จึงขอให้รัฐบาลไทย “เรียกร้องความโปร่งใสและความรับผิดชอบจากจีน”
(https://th.usembassy.gov/…/upholding-the-sovereign-rights-…/
และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2266734)
อย่างนี้ ถ้าเป็น ‘สลิ่ม’ ต้องว่า โห รัฐบาลลุงตูบโคตรเจ๋ง มีอเมริกามาจีบใหม่แล้วยังจีนไม่ยอมตัดเยื่อใย
ตอนนี้ไทยภายใต้รัฐบาล ‘คอสเพลย์ประชาธิปไตย’ ของคณะยึดอำนาจเลยตกที่นั่ง ‘วันทอง’ จะเอาทั้งขุนช้างตาหยีหรือขุนแผนตาสีฟ้าดีล่ะ