คุมตัว “ทิวากร วิถีตน” ใน ร.พ.จิตเวช จ.ขอนแก่นยังไร้วี่แววปล่อยตัว
15/07/2020
The Isaan Record
ขอนแก่น – สำหรับความเคลื่อนไหวของการคุมตัวผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tiwagorn Withiton ผู้สวมเสื้อ “เราหมดศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุคลากรทางแพทย์นำตัวมาที่โรงพยาบาลขอนแก่นจิตเวชราชนครินทร์ จ.ขอนแก่นตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 จนถึงวันนี้ (15 กรกฎาคม 2563) ถือเป็นการควบคุมตัวเป็นวันที่ 6 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลภายในและภายนอกอาคารที่รับการรักษาตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีทีท่าว่าจะมีการปล่อยตัว
เจ้าหน้าที่ภายในตึกชงโคคนหนึ่งให้ข้อมูลหลังจากแจ้งความประสงค์ขอเยี่ยมทิวากรว่า “ผู้ป่วยคนนี้ เจ้าหน้าที่ให้ใครเข้าพบหรือเข้าเยี่ยมไม่ได้ แม้แต่ญาติก็ห้ามเยี่ยม” เมื่อขอตรวจสอบข้อมูลทิวากรตามสารบบของโรงพยาบาลก็ไม่ปรากฎชื่อในหนังสือรายชื่อผู้ป่วย
เมื่อสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณภายในสวนหย่อมของอาคารชงโคทราบว่า ตำรวจกว่า 10 นาย ถูกสั่งให้มาทำหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ป่วยในคดีความมั่นคงของรัฐที่อยู่ระหว่างการพักรักษาตัวในอาคารแห่งนี้
สำหรับความเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊ก Tiwagorn Withiton นั้น มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 3563 ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลจิตเวชจำนวน 6 คนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมาพูดคุยที่บ้าน พร้อมตรวจความผิดปกติของสุขภาพประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะควบคุมตัวมายังโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์
“ผมเข้าใจดีว่า นี่คือการเมืองที่ต้องการจะทำให้คนเข้าใจว่าผมเป็นบ้า ผมจะไม่ตำหนิเจ้าหน้าที่ ถ้าหากมีคำวินิจฉัยว่าผมเป็นบ้า เพราะถือว่าต้องทำตามคำสั่ง” เขาระบุบนเฟซบุ๊กส่วนตัว
ตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามความเคลื่อนไหวผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tiwagorn Withiton ขณะถูกควมคุมตัวที่อาคารชงโค โรงพยาบาลขอนแก่นจิตเวชราชนครินทร์ จ.ขอนแก่น
สุณัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำชี้แจงจากทางการว่าใช้กฎหมายข้อไหนในการควบคุมตัวทิวากร ซึ่งการอ้างมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.สุขภาพจิตแห่งชาติ พ.ศ. 2551 เกี่ยวกับการบังคับให้เข้ารับการรักษา ก็ไม่ถือว่าเข้านิยามเรื่องภาวะอันตรายและภาวะที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา
“การควบคุมตัวแบบนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจบังคับหรือ arbitrary detention ต่อทิวากร ทำให้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองต่อสาธารณะได้อีกต่อไป” สุณัยกล่าว
ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำประเทศไทยกล่าวอีกว่า การกระทำแบบนี้ทำให้นึกถึงฉากนวนิยายเรื่อง 1984 ของ จอร์จ ออร์เวลล์ นักเขียนชาวอังกฤษ ที่คนเห็นต่างถูกรัฐทำให้เป็นคนบ้าด้วยการนำไปอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิต แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง การกระทำแบบนี้พบเห็นได้ในระบอบเผด็จการ เช่น ในยุคสตาลินของสหภาพโซเวียต เป็นต้น
“ผมเห็นว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างสันติไม่ควรถูกรัฐถือว่าเป็นความผิดปกติในเชิงอาชญกรรม” สุณัยกล่าว
ข้อมูลจากเว็บไซต์ประชาไทรายงานว่า ทิวากรถูกควบคุมตัวโดยใช้ พ.ร.บ.สุขภาพจิตแห่งชาติ ซึ่งจะถูกตรวจรักษาและประเมินอาการทางจากจิตโดยละเอียดภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน หากมีการดำเนินคดี แพทย์จะต้องประเมินความสามารถในการต่อสู้คดีและแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบภายใน 45 วัน นับตั้งแต่ได้รับตัว
ทิวากร วิถีตน อายุ 47 ปี เป็นชาวจังหวัดขอนแก่นและเคยเข้าร่วมกิจกรรมการทางเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงหลายครั้ง ล่าสุดหลังการอุ้มหายของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ประเทศกัมพูชา ทิวากรได้โพสต์ภาพตัวเองสวมใส่เสื้อที่มีข้อความว่า “เราหมดศรัทธาต่อสถาบันกษัตริย์” บนเฟซบุ๊กส่วนตัว จนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมในที่สุด
...
แถลงการณ์กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย
กษัตริย์ก็อยู่ในสัจธรรมตามคำสอนพุทธศาสนา คือ เกิดขึ้น มีอยู่ ดับไป อดีตเคยมีอำนาจใหญ่สุดก็ถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญ อดีตกาลเก่าก่อน เป็นดั่งสมมุติเทพ ต่อมาคนจำนวนมากไม่เชื่อด้วยความรู้วิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าขึ้น ศรัทธาเรื่องสมมุติเทพก็หมดไป มุมมองของผู้คนในเรื่องศรัทธาต่อสถาบันกษํตริย์จึงเป็นสิทธิมนุษยชนและเป็นเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น ซึ่งในปัจจุบันมุมมอง ความเชื่อและความศรัทธาต่อสถาบันกษัตริย์ก็เปลี่ยนไปได้เช่นกัน
การจับกุมนายทิวากร วิถีตน (นามสกุลเดิม โสภา) ชายวัย 47 ปี ที่ใส่เสื้อ เราหมดศรัทธาต่อสถาบันกษัตริย์ ไปขังไว้ที่สถาบันจิตเวช เพื่อยัดเยียดความบ้าให้เขา เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนโหดร้ายและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาปล่อยตัวนายทิวากร วิถีตน ทันที และขอเรียกร้องต่อ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กมธ.ยุติธรรมและกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร มูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์การนิรโทษกรรมสากล (AI) ฯลฯ ให้เข้าไปคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของทิวากร วิถีตน อย่างเร่งด่วน จริงจัง
กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย
14.7.63