วันพุธ, สิงหาคม 07, 2562

ความคิดเรื่อง "กบ" กับ "กะลา" ของ "เบน แอนเดอร์สัน" + Frogs of the world unite!






Japanese Frogs versus Thai Frogs
Same same or different?

ครับ สุชาติ เมื่อ อ.เบน ตีพิมพ์หนังสือ กบ ของเขาครั้งแรก เปนภาษา ญี่ปุ่น
ปกหนังสือ เล่มนั้น มีรูป กบ นั่งอยู่ในกะลา หงาย

ผมทักว่า คงมีอะไร ผิดพลาด แน่ ๆ เขายิ้มแปลก ที่มุมปาก
และอีกนาน กว่าผมจะเข้าใจ อะไรต่อมิอะไร ที่เขาพูด เขาเขียน ทิ้งไว้

Crediit Suchart S.
"ไกลกะลา"
หนังสือเล่มสุดท้ายในชีวิตของ เบน แอนเดอร์สัน

ในงานที่จัดรำลึกถึง เบน แอนเดอร์สัน ครั้งหนึ่งที่ธรรมศาสตร์ มีการพูดถึง "กบ" ในหนังสือเรื่องนี้ของ "เบน"

"เบน" ได้ความคิดเรื่อง "กบ" มาจากการเดินทางไปญี่ปุ่น ผมเคยตั้งข้อสงสัยว่า เพราะ "กบ" ของญี่ปุ่นนั้นอยู่ "นอกกะลา" ดังนั้นจึงเพียงแค่กระโดดจากไปให้ "ไกลกะลา" แต่ทว่าที่สงสัยมาจนบัดนี้ ก็คือ "กบ" ของไทยแลนด์นั้น มันอยู่ "ใต้กะลา" คือมี "กะลา" มาครอบไว้ จนได้ชื่อเรียกกันในจินตนาการว่า "กะลาแลนด์" และอะไรๆที่อยู่ "ใต้กะลา" มาจนชาชินนั้น มันลำบากยิ่งที่จะ "หงายกะลา" เพื่อออกมาอยู่ข้างนอกเหมือน "กบ" ญี่ปุ่น แล้วถ้าจะไปให้ไกลจาก "กะลา" ก็เพียงแค่กระโดดออกไปในโลกกว้าง ( ตั้งแต่สมัยเมจิ ) แต่ส่วน "กบ" ของ "กะลาแลนด์" นั้น มันยังเหมือนถูก "กะลาครอบ" มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และวิธีเดียวที่ "กบแห่งกะลาแลนด์" จะไปให้ "ไกลกะลา" ได้ก็คือต้อง "พลิกกะลา" ให้หงายขึ้นก่อน แล้วจึงจะมีอิสระที่จะกระโดดออกไป

ผมจึงให้ข้อสังเกตว่าจินตนาการเรื่อง "กบ" กับ "กะลา" ของไทยกับญี่ปุ่นมีความต่างกัน

จินตนาการเรื่อง "กบ" ของญี่ปุ่นนั้นอยู่ "นอกกะลา" แต่ "กบ" ของเรานั้น ช่างโชคร้ายนัก เพราะเป็น "กบ" ที่ ( อาจ ) อยู่ "ใต้กะลา" หรือถูกกะลาครอบไว้ -- ตั้งแต่สมัยภูเขาอัลไตก็เป็นได้ !

วิธีเดียวที่ "กบใต้กะลา" จะเป็นอิสระได้ ก็คือต้องช่วยกันผลัก หรือพลิก "กะลา" ให้ตะแคง หรือหงายขึ้น ( ให้สำเร็จก่อน ) แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน ว่าอยากจะไปไกลจาก "กะลา" แบบ "กบญี่ปุ่น" หรือไม่

อยากให้ "เบน" กลับมาเขียนหนังสืออีกเล่มว่าด้วย "กบแห่ง กะลาแลนด์" กบของ "กะลาแลนด์" นั้นเป็นกบพิเศษ เพราะอยเป็น "กบ" อยู่ในกะลา หรือใต้กะลามาช้านาน แตกต่างจาก "กบ" ของญี่ปุ่นที่อยู่ "นอกกะลา" ดังนั้นจึงสามารถกระโด "ไกลกะลา" ออกไปได้เรื่อยๆ - ถ้าต้องการ

ร่วมกัน "พลิกกะลา" "หงายกะลา" "ตะแคงกะลา" ให้สำเร็จก่อน แล้วเมื่อนั้นแหละ "กบ" ทั้งหลายแห่ง "กะลาแลนด์" จึงจะเป็นอิสระ ไกลจากกะลา !


Charnvit Kasetsiri
...

สึกขรรมและสังเวช "ติ่งเพื่อไทย" ที่พออนาคตใหม่เอากษิต ภิรมย์ สมชัย ศรีสุทธิยางกูร มาร่วมเวทีแก้รัฐธรรมนูญ ก็ด่าทอหาว่าลืมอดีต

เป็นติ่งหรือเป็นควาย ถึงไม่รู้ว่าการแก้รัฐธรรมนูญต้องสร้างแนวร่วมให้กว้างขวาง ลำพัง 7 พรรคทำไม่ได้ ลำพังเสื้อแดงเพื่อไทยอนาคตใหม่ทำไม่ได้ ต้องร่วมมือกับทุกฝ่าย ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าเคยขัดแย้งหรือเป็นศัตรูกันแค่ไหน

การเป็นแนวร่วม ไม่ได้แปลว่าต้องคิดเหมือนกัน ไม่ได้แปลว่าต้องลืมอดีต ต้องยกย่อง ต้องเห็นด้วยกันหมด แค่มีจุดร่วมเดียว คือไม่เอาประยุทธ์ ไม่เอารัฐธรรมนูญ 2560 ส่วนอื่นๆ ก็ยังต่างกันยังขัดแย้งกันหรือยังเป็นศัตรูกัน ยังฟัดกันต่อในวันหน้า

เพียงแต่คนที่ทำหน้าที่ประสาน ก็จำเป็นต้องสงวนจุดต่าง เชิญเขามาร่วมเวที ก็ไม่จำเป็นต้องถกเถียงกันเรื่องเป็นอริ ในแนวร่วมต้องมีคนทำหน้าที่ "นักการเมือง" เจรจาหาความร่วมมือ

ขณะที่ฝ่ายประชาชน จะรื้อฟื้นด่าทออย่างไรก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องไปเชื่อว่ากษิตกลับตัวเป็นประชาธิปไตย สมชัยเป็นคนดีคนซื่อ เขาก็เป็นเขา แต่วันนี้เขามีจุดร่วมเดียวกับเรา คือแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เอาประยุทธ์ แต่ทัศนะ "อาหารดีดนตรีไพเราะ" ยังอยู่ ยังไงก็ต้องทะเลาะกันต่อในวันหน้า

คือถึงที่สุด คุณอาจจะได้เห็นอภิสิทธิ์ออกมาร่วมรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญก็ได้ จะเอาหรือไม่เอา

ว่าที่จริง ไม่ต้องอธิบายให้มาก พวกนี้ก็เข้าใจ ถ้าเพื่อไทยทำ ก็ไชโยโห่ร้อง ว่าฉลาดจัง รู้จักดึงคนเห็นต่างมาร่วมมือกัน

แต่พอเป็นอนาคตใหม่ ไหมล่ะ มันร่วมมือกับสลิ่ม


Atukkit Sawangsuk