โหนสูงไปลงไม่ได้เสียแล้วมัง เรื่องระเบิด
๕ จุดกลางกรุง ที่ลุกลี้ลุกลนออกมาแจงล่วงหน้าว่า พวกเดิมๆ ก่อกวน แถมด้วยหน่วยโหนรัฐประหารออกอาการด่าทออดีตนายกฯ
ฝ่ายตรงข้ามไว้ก่อน พอเป็นข่าวว่าสองผู้ต้องหาที่จับได้สารภาพ
กลับรีบปฏิเสธเสียยกใหญ่
ทั้งที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม
หมาดๆ เปิดเผยตามรายงานของผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสว่า “ผล DNA วัตถุต้องสงสัย-ระเบิด กทม. อาจโยงผุ้ก่อเหตุ ๓
จังหวัดชายแดนภาคใต้...ขอให้ข้อมูลชุดนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นจากทางราชการ”
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกคนใหม่รัฐบาล คสช.๒
รีบแจ้ง “ที่มีสื่อบางสำนักระบุว่าชาย ๒ คนที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้
รับสารภาพว่ากระทำไปเพราะมีเหตุจูงใจสำคัญเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้”
ไม่เป็นความจริง
รายงานข่าวที่ ‘โปรเฟ็สเซ่อ’ โฆษกปฏิเสธ
เล่าละเอียดสมจริงยิ่งว่าข่าว ‘อีจัน’ ว่าสองคนนั่นนั่งรถทัวร์ขึ้นมาจากหาดใหญ่เมื่อ
๓๑ ก.ค.เพื่อวางระเบิดวันรุ่งขึ้นพฤหัส เสร็จแล้วจับแท็กซี่ไปแม็คโคร พูดภาษายาวี
เปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากาก แล้วขึ้นรถทัวร์กลับ แต่ถูกจับได้เสียก่อนที่ชุมพร
“ตอนวางระเบิดปิดหน้า ปิดผม
หลบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสองรอบ เปลี่ยนหน้าอีกหนึ่งรอบ
แต่ดูแค่กล้องวงจรปิดแล้วหาเจอใน ๑ วันที่จังหวัดชุมพร เออ
แต่โดนจับแล้วยังมีบึ้มวันนี้ต่อได้อีก ๓ ที่ แปล๊กแปลก” 𝓹𝓸𝓻𝓬𝓱𝓸𝓻𝓴𝓸𝓻
@9irlPt ทวิตเตอร์รายหนึ่งมีความเห็น
“สื่ออาจลงข่าวโดยสรุปกันเอง
แต่ตำรวจยังไม่ได้สรุปเลย และขณะนี้ทีมสอบสวนยังอยู่ระหว่างดำเนินการ” โดยเฉพาะประเด็นผู้ต้องหาสารภาพว่าทำไปเพราะต้องการแก้แค้น
“เนื่องจากไม่พอใจที่ก่อนหน้านี้กองทัพภาค ๔ ได้คุมตัวแนวร่วมรายหนึ่งไปสอบสวนและเสียชีวิตในค่ายทหาร”
นั่นก็เป็นเรื่อง ‘sensitive’
ล่อแหลมต่อชื่อเสียงของรัฐบาลใหม่อย่างยิ่ง พวกรัฐมนตรีต่างประเทศที่ไปร่วมประชุมในกรุงเทพฯ
ระหว่างเหตุการณ์วางบอมบ์พอดี กลับไปบ้านแล้วตำหนิได้ว่าเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลที่แล้วมาโดยไม่เคลียร์ข้อหาให้เรียบร้อย
ทั้งที่ข่าวที่สื่อหลายแหล่งเสนอตรงกันว่าเป็นการสารภาพของสองผู้ต้องหา
ซึ่งระเบิดที่วางกู้ได้ก่อน ว่าร่วมกันกับพวกทั้งหมด ๘ คนแยกกันทำ แต่กรณีระเบิดที่พระราม
๙ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช.บอกว่าสอบปากคำ ๗ เยาวชนชาย
“ทั้งหมดรับสารภาพเป็นเจ้าของระเบิดปิงปองที่นำไปซุกไว้ที่ถนนพระราม
๙ ซอย ๕๗/๑ จนเกิดระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ ๒ คน...ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับระเบิดที่จุดอื่นๆ
ใน กทม. และยังไม่ขอยืนยันเรื่องการจับกุม ๒
ผู้ต้องหาจากภาคใต้เมื่อวานนี้ว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิดหน้า สตช.”
อ้าว ไหงโอละพ่อไปคนละเรื่อง
สำนักข่าวจะกล้าปั้นรายละเอียดไปเป็นคุ้งเป็นแควขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าไม่ได้เบาะแส
(tips) มาจากแหล่งข่าวภายในหน่วยงานตำรวจและความมั่นคง
ซ้ำมีกระเส็นกระสายเพิ่มเติมว่าญาติของผู้ต้องหาร้องว่าผุ้ถูกจับทั้งสองเงียบหายไปสองวันแล้ว
เป็นห่วงว่าจะโดนซ้อม
ทำให้ ยิ่งชีพ (เป๋า) แห่ง ‘ไอลอว์’ ตั้งข้อสังเกตุว่า “ผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดถูกจับที่ชุมพรดึกคืนวันพฤหัส
ตามกฎหมายปกติตำรวจควบคุมตัวได้ ๔๘ ชั่วโมงแล้วต้องพาไปศาล”
ป่านนี้ยังไม่มีการปล่อยตัว อ้างว่าดำเนินการไม่เสร็จ
“แปลว่าไม่ใช่ตำรวจธรรมดา
มีกองกำลังพิเศษที่กำลังอ้างอำนาจพิเศษ คงต้องอ้างคำสั่งหัวหน้า คสช. อีกนั่นแหละ
นี่ไง อำนาจพิเศษยังอยู่” มิใยที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เตือนว่า ““อย่าให้สถานการณ์ระเบิดในวันนี้
ลุกลามบานปลายไปจนเป็นข้ออ้างในการเข้ามาใช้อำนาจพิเศษใดๆ อีก”
หนำซ้ำ Sa-nguan Khumrungroj ผู้สื่อข่าวอิสระเล่าถึงการเปิดเผยของทีวีช่องหนึ่งที่ว่า “สมัย คสช.
มีระเบิดหลายครั้งแต่ถูกสั่งให้ปิดข่าว นักข่าวไม่กล้าเสนอกลัวสถานีถูกปิด” อันเป็นการแย้งคำพูดของ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่าผ่านมา ๕ ปีเงียบสงบไม่มีเหตุการณ์แบบนี้
เพิ่งมาเกิดตอนเก็บหมวก คสช. ทำให้ประชากรออนไลน์ออกมาโต้ลุงตูบกันขรม
“ทำไมสังคมไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้าม ทำไมสังคมไม่เชื่อคำพูดนายกฯ และผบ.ทบ.”
@phoom91 แนะ “เชื่อว่าเป็นระเบิดกลบข่าวเรื่องคำถวายสัตย์ฯ
ไม่ครบของรัฐบาล” เสียมากกว่า