วันอาทิตย์, สิงหาคม 04, 2562

คดีบึ้มกรุงฟังใครดี 'โปรเฟ็สเซ่อโฆษก' หรือว่า รมว.ยุติธรรม ซ้ำมีปม "แนวร่วมเสียชีวิตในค่ายทหาร"


โหนสูงไปลงไม่ได้เสียแล้วมัง เรื่องระเบิด ๕ จุดกลางกรุง ที่ลุกลี้ลุกลนออกมาแจงล่วงหน้าว่า พวกเดิมๆ ก่อกวน แถมด้วยหน่วยโหนรัฐประหารออกอาการด่าทออดีตนายกฯ ฝ่ายตรงข้ามไว้ก่อน พอเป็นข่าวว่าสองผู้ต้องหาที่จับได้สารภาพ กลับรีบปฏิเสธเสียยกใหญ่

ทั้งที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หมาดๆ เปิดเผยตามรายงานของผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสว่า “ผล DNA วัตถุต้องสงสัย-ระเบิด กทม. อาจโยงผุ้ก่อเหตุ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้...ขอให้ข้อมูลชุดนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นจากทางราชการ”

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกคนใหม่รัฐบาล คสช.๒ รีบแจ้ง “ที่มีสื่อบางสำนักระบุว่าชาย ๒ คนที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ รับสารภาพว่ากระทำไปเพราะมีเหตุจูงใจสำคัญเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้” ไม่เป็นความจริง

รายงานข่าวที่ โปรเฟ็สเซ่อ โฆษกปฏิเสธ เล่าละเอียดสมจริงยิ่งว่าข่าว อีจันว่าสองคนนั่นนั่งรถทัวร์ขึ้นมาจากหาดใหญ่เมื่อ ๓๑ ก.ค.เพื่อวางระเบิดวันรุ่งขึ้นพฤหัส เสร็จแล้วจับแท็กซี่ไปแม็คโคร พูดภาษายาวี เปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากาก แล้วขึ้นรถทัวร์กลับ แต่ถูกจับได้เสียก่อนที่ชุมพร

“ตอนวางระเบิดปิดหน้า ปิดผม หลบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสองรอบ เปลี่ยนหน้าอีกหนึ่งรอบ แต่ดูแค่กล้องวงจรปิดแล้วหาเจอใน ๑ วันที่จังหวัดชุมพร เออ แต่โดนจับแล้วยังมีบึ้มวันนี้ต่อได้อีก ๓ ที่ แปล๊กแปลก” 𝓹𝓸𝓻𝓬𝓱𝓸𝓻𝓴𝓸𝓻 @9irlPt ทวิตเตอร์รายหนึ่งมีความเห็น

“สื่ออาจลงข่าวโดยสรุปกันเอง แต่ตำรวจยังไม่ได้สรุปเลย และขณะนี้ทีมสอบสวนยังอยู่ระหว่างดำเนินการ” โดยเฉพาะประเด็นผู้ต้องหาสารภาพว่าทำไปเพราะต้องการแก้แค้น “เนื่องจากไม่พอใจที่ก่อนหน้านี้กองทัพภาค ๔ ได้คุมตัวแนวร่วมรายหนึ่งไปสอบสวนและเสียชีวิตในค่ายทหาร”

นั่นก็เป็นเรื่อง ‘sensitive’ ล่อแหลมต่อชื่อเสียงของรัฐบาลใหม่อย่างยิ่ง พวกรัฐมนตรีต่างประเทศที่ไปร่วมประชุมในกรุงเทพฯ ระหว่างเหตุการณ์วางบอมบ์พอดี กลับไปบ้านแล้วตำหนิได้ว่าเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลที่แล้วมาโดยไม่เคลียร์ข้อหาให้เรียบร้อย
 
ทั้งที่ข่าวที่สื่อหลายแหล่งเสนอตรงกันว่าเป็นการสารภาพของสองผู้ต้องหา ซึ่งระเบิดที่วางกู้ได้ก่อน ว่าร่วมกันกับพวกทั้งหมด ๘ คนแยกกันทำ แต่กรณีระเบิดที่พระราม ๙ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช.บอกว่าสอบปากคำ ๗ เยาวชนชาย

 “ทั้งหมดรับสารภาพเป็นเจ้าของระเบิดปิงปองที่นำไปซุกไว้ที่ถนนพระราม ๙ ซอย ๕๗/๑ จนเกิดระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ ๒ คน...ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับระเบิดที่จุดอื่นๆ ใน กทม. และยังไม่ขอยืนยันเรื่องการจับกุม ๒ ผู้ต้องหาจากภาคใต้เมื่อวานนี้ว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิดหน้า สตช.”

อ้าว ไหงโอละพ่อไปคนละเรื่อง สำนักข่าวจะกล้าปั้นรายละเอียดไปเป็นคุ้งเป็นแควขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าไม่ได้เบาะแส (tips) มาจากแหล่งข่าวภายในหน่วยงานตำรวจและความมั่นคง ซ้ำมีกระเส็นกระสายเพิ่มเติมว่าญาติของผู้ต้องหาร้องว่าผุ้ถูกจับทั้งสองเงียบหายไปสองวันแล้ว เป็นห่วงว่าจะโดนซ้อม

ทำให้ ยิ่งชีพ (เป๋า) แห่ง ไอลอว์ตั้งข้อสังเกตุว่า “ผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดถูกจับที่ชุมพรดึกคืนวันพฤหัส ตามกฎหมายปกติตำรวจควบคุมตัวได้ ๔๘ ชั่วโมงแล้วต้องพาไปศาล” ป่านนี้ยังไม่มีการปล่อยตัว อ้างว่าดำเนินการไม่เสร็จ

“แปลว่าไม่ใช่ตำรวจธรรมดา มีกองกำลังพิเศษที่กำลังอ้างอำนาจพิเศษ คงต้องอ้างคำสั่งหัวหน้า คสช. อีกนั่นแหละ นี่ไง อำนาจพิเศษยังอยู่” มิใยที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เตือนว่า ““อย่าให้สถานการณ์ระเบิดในวันนี้ ลุกลามบานปลายไปจนเป็นข้ออ้างในการเข้ามาใช้อำนาจพิเศษใดๆ อีก

หนำซ้ำ Sa-nguan Khumrungroj ผู้สื่อข่าวอิสระเล่าถึงการเปิดเผยของทีวีช่องหนึ่งที่ว่า “สมัย คสช. มีระเบิดหลายครั้งแต่ถูกสั่งให้ปิดข่าว นักข่าวไม่กล้าเสนอกลัวสถานีถูกปิด” อันเป็นการแย้งคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่าผ่านมา ๕ ปีเงียบสงบไม่มีเหตุการณ์แบบนี้

เพิ่งมาเกิดตอนเก็บหมวก คสช. ทำให้ประชากรออนไลน์ออกมาโต้ลุงตูบกันขรม “ทำไมสังคมไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้าม ทำไมสังคมไม่เชื่อคำพูดนายกฯ และผบ.ทบ.” @phoom91 แนะ “เชื่อว่าเป็นระเบิดกลบข่าวเรื่องคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบของรัฐบาล” เสียมากกว่า