วันเสาร์, มิถุนายน 15, 2562

คลังแอบยัด 'งบลับ' ใส่พกให้ คสช.๒ จ่ายคล่อง ๕ หมื่นล้าน

การที่กระทรวงการคลังเตรียมงบประมาณลับวงเงิน ๕ หมื่นล้านบาทไว้ให้รัฐบาลใหม่ใช้ ส่อให้เห็นว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีความหมายในทางประชาธิปไตยเลยแม้แต่นิด มันชี้ชัดถึงการสืบทอดอำนาจเผด็จการโดยประยุทธ์ จันทร์โอชาและสมุน

อีกทั้งพวกลิ่วล้อในพรรค คสช.และพวกสื่อที่นิยมคณะยึดอำนาจ กลับมาสร้างบรรยากาศของการ ล่าแม่มด และ ขวาพิฆาตซ้าย ต่อฝ่ายที่เชิดชูหลักประชาธิปไตยและต่อต้านการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร โดยโหมโจมตีอย่างหนักด้วยข้อหา ไม่จงรักภักดีต่อระบอบกษัตริย์

แถลงการณ์โดยคณาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสัญญานให้เห็นว่าการลุกล้ำคุกคามต่อสิทธิพลเมืองโดยสื่อสายเผด็จการเข้าขั้น เหลืออดกันแล้ว อาจารย์สี่คนของ มช.จึงพร้อมกันประกาศ “จะดำเนินการทางทั้งกฎหมายและทางสังคมต่อสำนักข่าวทีนิวส์อย่างถึงที่สุด”

อันเนื่องมาจากสำนักข่าวแห่งนั้นตีพิมพ์บทความชื่อ “เบ้าหลอมความคิด ปฏิกษัตริย์นิยม” ที่กล่าวถึง “นักวิชาการสาย ช่อ มีในมหาลัยฯ ไหนบ้าง” โดยอ้างชื่อและสถานที่ทำงานของนักวิชาการ ๖๙ คน ซึ่งร่วมกันลงชื่อเรียกร้องเรื่อง “การแทรกแซงการเลือกตั้งและการคุกคามพรรคการเมือง คือการบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย”

แถลงการณ์คณาจารย์ชี้ว่าการกระทำของ ทีนิวส์ นอกจากจะ “เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะการกล่าวหาโดยปลุกกระแสว่าบุคคลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็น ปฏิปักษ์ กับสถาบันพระมหากษัตริย์” แล้วยัง “หาใช่วิสัยของสื่อมวลชน

เพราะขาดมาตรฐานทั้งทางวิชาชีพและมนุษยธรรม ด้วยการใช้ข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง เลื่อนลอย และผิดกฎหมายต่อบุคคลอื่นโดยขาดการตรวจสอบข้อเท็จจริง” ด้วย อันจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่โต้แย้งอำนาจเผด็จการ แบบเดียวกับหนังสือพิมพ์ดาวสยามในอดีต อันนำไปสู่การเข่นฆ่าหมู่ชนอย่างโหดเหี้ยม


ท่ามกลางบรรยากาศเลวร้ายในสังคมนี้เอง แม้แต่กรณีที่เด็กมัธยมใช้ความคิดสร้างสรรทางอุดมการณ์ประชาธิปไตยผลิตพานพุ่มไหว้ครูประกวด เป็นที่แสลงต่อคณะยึดอำนาจ เกิดเป็นปฏิกิริยาอย่างไร้วุฒิภาวะแห่งความรอบรู้จากพี่ใหญ่ คสช. อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
 
พูดได้ไม่ต้องคิดว่าเด็กมัธยมเหล่านั้นต้องมีคนเสี้ยมสอนอยู่เบื้องหลัง “คิดเองกันไม่ได้” หรอก นอกจากหยามเหยียดสติปัญญาของนักเรียนมัธยมที่ไม่เชิดชูอำนาจเผด็จการแล้ว ยังฉวยโอกาสป้ายสีกล่าวหากลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างด้านๆ

ขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งรัฐบาล คสช.เดินต่อตั้งหน้ากอบโกยสินทรัพย์ของชาติอย่างมูมมามไม่หยุดยั้ง กระทรวงการคลังเผยว่าขณะนี้กำลังดำเนินการจัดทำ งบประมาณลับในวงเงิน ๕ หมื่นล้านบาท สำหรับรัฐบาล คสช.๒ ได้ใช้จับจ่ายอย่างสะดวกคล่องมือ

งบดังกล่าวเรียกเป็นทางการว่า เงินทุนสํารองจ่าย ที่คณะรัฐมนตรีสามารถนำไปใช้โดยไม่ต้องผ่านกรรมวิธีตามกฎหมายงบประมาณ ด้วยเหตุง่ายๆ เพียงว่า “กรณีมีความจําเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการแผ่นดิน” ให้ถือว่า “เข้าข่ายสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วน”

ทั้งนี้โดยยุทธวิธีแผลงกฎหมาย ปรับใหม่จาก พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ เพิ่มวงเงินจากเดิมกำหนดให้สั่งจ่ายเพียง ๑๐๐ ล้านบาท เป็น ๕ หมื่นล้านบาท อ้างว่า “เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันเข้าสู่ภาวะถดถอย

อีกทั้งยังมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี ๒๕๖๓ ล่าช้าออกไปอีก ๓ เดือน” รวมถึงต้องการจ่ายเพื่อผลักดันนโยบายของพรรค คสช. ที่หาเสียงไว้ ว่าจะทุ่มงบประมาณอัดฉีดโครงการต่างๆ ทั้งสิ้นราว ๒ แสนล้านบาท


อย่างไรก็ดี ไม่รู้ว่ารัฐบาล คสช.อัดฉีดอีท่าไหน กรณีการแก้ปัญหาราคาปาล์ม ปรากฏข่าวแชร์กันกระหึ่มบนหน้าสื่อโซเชียลว่าห้างบิ๊กซีติดป้ายขึ้นราคาน้ำมันปาล์มอีกขวดละ ๑๐ บาท “เพื่อสนับสนุนนโยบายของกรมการค้าภายใน”
 
เป็นเหตุให้อธิบดีกรมการค้าภายในต้องแถลงแก้ตัว ชี้แจงว่าไม่ได้สั่งให้ห้างเลิกจัดโปรโมชั่นลดราคาน้ำมันปาล์มขวดเสียหน่อย เพียงแต่ได้แสดงความเห็น ขอความร่วมมือเพื่อให้ช่วยเหลือในมาตรการดึงราคาผลปาล์มที่ตกต่ำให้สูงขึ้น

ย้ำราคาปาล์มขวดเหมาะสมไม่ควรต่ำกว่า ๓๔ บาท” นายวิชัย โภชนกิจ คงจะอยู่กับระบอบ คสช. มานานเสียจนซึมซับทั่วสมอง จนคิดว่าชาวบ้านคงจะว่าง่าย บอกอะไรได้แต่ผงกหัว ยอมรับความต่างของการ สั่ง กับ ขอความร่วมมือ

(ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวไทย อสมท. @TNAMCOT)