วันพฤหัสบดี, มกราคม 07, 2559

เลิกส่ะทีวลีที่ว่า "เศรษฐีก็พอเพียงได้" (เรียกดัตจริตได้ไม๊ครับ ดูจากรองเท้าที่ใส่ ไม่เคยแม้จะโดนน้ำ)


ที่มาข่าว
http://board.postjung.com/938098.html


ถ้าพอเพียงจริง กรุณาถอนตัวจากการเป็นผู้บริหารเวิร์คพอยท์ และพิธีกร ขายหุ้นบริษัททิ้งให้หมด แล้วลงมาทำไร่ทำนาอย่างเดียวสิวะครับ ไหนๆ ก็มีเงินเป็นพันล้านแล้วมึงจะหาทำเงินเพิ่มวันละร้อยกว่าล้านอีกทำไม ซึ่งคนแบบนี้ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี หรือคนจนควรจะเลียนแบบเลยนะ

คนไทยหลายคนโง่งมงาย กับคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง มาสร้างภาพวิถีชีวิตมโนตอแหลหลอกให้อวยกันเอง โดยไม่ได้ดูว่า ไอ้ที่พอว่าชีวิตพอเพียงที่สร้างภาพมันเป็นแค่งานอดิเรก ไม่ใช่อาชีพหลักของเค้า ในต่างประเทศเค้าจะมองว่าคนที่พอเพียงจริงๆ นั้นมีอาชีพจริงๆ ว่าแม่งทำรายได้กันเท่าไร เสียภาษีครบถ้วนไหม คืนกำไรอะไรให้สังคมบ้าง ดูเศรษฐกิจอย่างบิลเกตส์ และตระกูลดังในต่างประเทศหลายๆ คนที่ ทิ้งบริษัทพันล้านตัวเอง โดยขายหุ้นที่ตัวเองมีทั้งหมดเอาเงินมาทำมูลนิธิเพื่อสังคม และไม่ได้สร้างมรดกพันล้านให้ครอบครัวกับลูกหลานไว้ถลุงนั่นแหละ คือพอเพียงของแท้ เพราะพ่อแม่สร้างบริษัทพันล้านได้ สุดท้ายคืนให้สังคมหมด ลูกหลานต้องมาเรียนรู้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ พ่อแม่ไม่ได้ให้สมบัติมาผลาญเหมือนลูกคนดังเศรษฐี หรือไฮโซในเมืองไทยที่ออกสื่อบ่อยๆ

แต่ของเสี่ยตานี่แม่ง เวิร์คพอยท์ ยังไงก็คือบริษัที่แม่งยังเป็นเจ้าของที่ได้กำไรเป็นวันละร้อยล้าน ครอบครัว และลูกหลานของเสี่ยตาก็ได้กินผลประโยชน์จากตรงนี้อยู่ ไอ้ทีปลูกผัก สร้างภาพนีก็แค่งานอดิเรก ไม่ใช่อาชีพที่เสี่ยตาใช้เลี้ยงครอบครัว จริงๆ มันก็แค่งานอดิเรกของคนรวยแล้วอยากลองทำตัวจน เพราะเบื่อการเที่ยวต่างประเทศ กับช้อปปิ้งในห้างหรูแล้วเท่านั้น ดังนั้นวลีที่ว่า เศรษฐีก็พอเพียงได้ นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายกย่องอะไรเลย

การจะอ้างใครเป็นตัวอย่างที่ดีในแบบเศรษฐกิจพอเพียงนี่ มันคือความตอแหล ของเศรษฐี และพวกชนชั้นกลางประเทศไทยที่มีมโนคติ ทางสังคมแบบผิดๆ โดยหวังจะอาศัยการทำงานอดิเรกแบบเกษตรกร และชนชั้นล่างมาลบล้างภาพ และความเลวของตัวเองที่ทำธุรกิจ แบบปากกัดตีนถีบ เอากำไรสารพัด เลี่ยงภาษีทุกรูปแบบ ที่ไม่เคยคืนกำไรของตัวเองให้กับสังคม ให้ออกมาให้ดูเป็นคนดีรู้จักพอเพียง และเป็นที่ยอมรับของชนชั้นล่าง ที่ตัวเองเอาเปรียบกดหัวเค้าอยู่ทุกวัน

"To recommend thrift to the poor is both grotesque and insulting. It is like advising a man who is starving to eat less." Oscar Wilde



Wasu Khamhom


ooo


เลิกส่ะทีวลีที่ว่า "เศรษฐีก็พอเพียงได้"

คนรวยทำอะไรแบบนี้ เรียกหาได้ว่าติดดิน-พอเพียง
คนจนทำอะไรแบบนี้เขาเรียกว่าปากกัดตีนถีบ เอาแค่เงินซื้อที่แปลงนี้ก็เกินกำลังแล้ว

อยากรู้ว่าคุณปัญญา ปลูกผัก ฟัก แฟง แตงกว่าพวกนี้ด้วยตัวเองหรือมีลูกจ้างคอยดูแลให้ ไม่มีเงินจะเอาวิถีชีวิตมาพอเพียงแบบติดดินเช่นนี้ได้อย่างไร....

หมายเหตุ คุณปัญญาไม่ได้ผิดอะไร ผิดที่สื่อกระพือโหมแบบดัดจริตบิดเบี้ยวจนเกินพอดี



Arunwatee Kong Li Chattay