ที่มา เพจ ILAW
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10155616060725551?pnref=story
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่พันผ้าลายพรางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้รัฐเคารพสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน
8 มิถุนายน 2558 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นัด 7 นักศึกษากลุ่มดาวดินที่ฝ่าฝืนประกาศห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 เข้ารายงานตัว แต่กลุ่มดาวดินเห็นว่าการถูกจับกุมและดำเนินคดีดังกล่าวเป็นไปโดยไม่ชอบธรรม จึงประกาศจะอารยะขัดขืนต่อการจับกุมดำเนินคดี และจัดกิจกรรมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น แทนการเข้ารายงานตัว
การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของนักศึกษากลุ่มดาวดิน และชาวบ้านที่นักศึกษากลุ่มนี้เคยรวมการเคลื่อนไหวรณรงค์ด้วย เช่น ชาวบ้านวังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ ชาวบ้านนามูล-ดูนสาด จ.ขอนแก่น และชาวบ้านหนองแซง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะปิโตรเลียม ทั้งหมดรวมตัวกันในชื่อกลุ่มประชาธิปไตยใหม่
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่รวมตัวกันที่บ้านดาวดิน เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น ก่อน 10.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเคลื่อนขบวน ปรากฏว่ารถบัสของชาวบ้าน อ.วังสะพุง จ.เลย ถูกทหารกักไว้ที่บริเวณค่ายสีหราชเดโชไชย เมื่อรถบัสถูกกัก รถคันอื่นๆ ที่กำลังมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจึงต้องหยุดเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาสถานการณ์คลี่คลายเมื่อมีการเจรจา และทหารอนุญาตให้รถบัสเคลื่อนต่อไปได้
ประมาณ 11.00 น. ขบวนรถซึ่งเคลื่อนมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นก็ต้องหยุดลงอีกครั้ง เพราะทหารเข้ามากักรถบัสคันเดิม ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เคลื่อนขบวนผ่านหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นไปประมาณ 500 เมตร ก็หยุดรถและเดินเท้ากลับมารับชาวบ้านที่อยู่บนรถบัสซึ่งถูกกักไว้ที่หน้ามหาวิทยาลัย เมื่อเห็นชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งเดินมารับ ชาวบ้านที่อยู่บนรถบัสจึงลงจากรถบัสก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเท้าไปด้วยกัน
เมื่อขบวนเดินมาถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพ จังหวัดขอนแก่น ชาวบ้านก็ต่อรองกับทหารที่เดินตามมาว่าขอขึ้นรถไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งทหารก็ไม่ได้ขัดขวาง ขบวนของชาวบ้านและนักศึกษามาถึงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นประมาณ 12.00 น. เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงก็พบว่ามีทหารในเครื่องแบบ 30-40 นาย ตรึงพื้นที่รออยู่แล้ว
ชาวบ้านรวมตัวกันรอบๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีการหยิบป้ายผ้าออกมา ทหารเห็นว่ามีการหยิบป้ายผ้าออกมาจึงพยายามที่จะใช้กำลังยื้อแย่ง แต่กลุ่มนักศึกษาที่อยู่ตรงนั้นก็คล้องแขนกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแย่งป้ายผ้าจนท้ายที่สุดทหารต้องยอมถอยออกไป
ระหว่างนั้นมีทหารระดับสูงคนหนึ่งเข้ามาขอเจรจา แต่เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆ ก็ปรากฏว่าฝ่ายนักศึกษาและชาวบ้านยังไม่ส่งตัวแทนขึ้นมา จนสถานการณ์ตรึงเครียดไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะมีการส่งนักศึกษาหญิง 2 คนออกมาเจรจา ซึ่งนักศึกษาแจ้งกับทหารว่านอกจากนักศึกษาแล้วก็มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในประเด็นทรัพยากรออกมาทำกิจกรรมด้วย เพราะปัญหาของเขายังไม่ได้รับการแก้ไข และหลังรัฐประหารสถานการณ์ในพื้นที่ก็เลวร้ายลงเมื่อทหารเข้ามาในพื้นที่ แต่ทหารที่เจรจาด้วยบอกว่าไม่เกี่ยวกัน และบอกกับนักศึกษาว่า หากจัดกิจกรรมทำบายศรีก็ไม่เป็นไรแต่การโชว์ป้ายผ้าอาจจะไม่เหมาะสม
หลังการเจรจา ทหารยอมให้นักศึกษาและชาวบ้านทำกิจกรรมที่เตรียมมา มีการร้องเพลง แสดงละครสะท้อนปัญหาของชาวบ้าน รวมทั้งทำพิธีช้อนขวัญและผูกข้อมือบายศรีให้นักศึกษา 7 คนที่ถูกดำเนินคดี ต่อมามีการอ่านแถลงการณ์โดยมีใจความสำคัญว่า ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มคนอ้างตัวว่าจะมาแก้วิกฤตให้ประเทศ แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง นักศึกษาและประชาชนในนามกลุ่มประชาธิปไตยใหม่จึงมีข้อเรียกร้อง ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญชั่วคราว ยุติการร่างรัฐธรรมนูญที่อาจนำไปสู่การสืบทอดอำนาจ และรัฐต้องเคารพสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน
หลังการอ่านแถลงการณ์ก็มีการคลี่ป้ายผ้าที่มีข้อความ เช่น "หยุดเผาก๊าซ" หรือ "หยุดเหมืองทองคำ" และมีการนำผ้าลายพรางไปพันรอบอนุสาวรีย์ กิจกรรมของนักศึกษาและชาวบ้านดำเนินไปถึงประมาณ 13.00 น. จึงยุติลง นักศึกษาและชาวบ้านเกาะกลุ่มกันเดินออกจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อขึ้นรถไปยังมหาวิทยาลัยขอนแก่น เท่าที่ทราบไม่มีรายงานการจับกุมผู้ร่วมกิจกรรม ขณะที่นักศึกษาที่ต้องไปรายงานตัวที่ สภ.ขอนแก่นก็ยังไม่ได้เดินทางไปรายงานตัวแต่อย่างใด
ขบวน 'ประชาธิปไตยใหม่' ให้กำลังใจ 'ดาวดิน' ถูกดำเนินคดีกรณีรำลึก 1 ปีรัฐประหาร
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่พันผ้าลายพรางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้รัฐเคารพสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน
8 มิถุนายน 2558 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นัด 7 นักศึกษากลุ่มดาวดินที่ฝ่าฝืนประกาศห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 เข้ารายงานตัว แต่กลุ่มดาวดินเห็นว่าการถูกจับกุมและดำเนินคดีดังกล่าวเป็นไปโดยไม่ชอบธรรม จึงประกาศจะอารยะขัดขืนต่อการจับกุมดำเนินคดี และจัดกิจกรรมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น แทนการเข้ารายงานตัว
การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของนักศึกษากลุ่มดาวดิน และชาวบ้านที่นักศึกษากลุ่มนี้เคยรวมการเคลื่อนไหวรณรงค์ด้วย เช่น ชาวบ้านวังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ ชาวบ้านนามูล-ดูนสาด จ.ขอนแก่น และชาวบ้านหนองแซง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะปิโตรเลียม ทั้งหมดรวมตัวกันในชื่อกลุ่มประชาธิปไตยใหม่
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่รวมตัวกันที่บ้านดาวดิน เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น ก่อน 10.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเคลื่อนขบวน ปรากฏว่ารถบัสของชาวบ้าน อ.วังสะพุง จ.เลย ถูกทหารกักไว้ที่บริเวณค่ายสีหราชเดโชไชย เมื่อรถบัสถูกกัก รถคันอื่นๆ ที่กำลังมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจึงต้องหยุดเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาสถานการณ์คลี่คลายเมื่อมีการเจรจา และทหารอนุญาตให้รถบัสเคลื่อนต่อไปได้
ประมาณ 11.00 น. ขบวนรถซึ่งเคลื่อนมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นก็ต้องหยุดลงอีกครั้ง เพราะทหารเข้ามากักรถบัสคันเดิม ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เคลื่อนขบวนผ่านหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นไปประมาณ 500 เมตร ก็หยุดรถและเดินเท้ากลับมารับชาวบ้านที่อยู่บนรถบัสซึ่งถูกกักไว้ที่หน้ามหาวิทยาลัย เมื่อเห็นชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งเดินมารับ ชาวบ้านที่อยู่บนรถบัสจึงลงจากรถบัสก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเท้าไปด้วยกัน
เมื่อขบวนเดินมาถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพ จังหวัดขอนแก่น ชาวบ้านก็ต่อรองกับทหารที่เดินตามมาว่าขอขึ้นรถไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งทหารก็ไม่ได้ขัดขวาง ขบวนของชาวบ้านและนักศึกษามาถึงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นประมาณ 12.00 น. เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงก็พบว่ามีทหารในเครื่องแบบ 30-40 นาย ตรึงพื้นที่รออยู่แล้ว
ชาวบ้านรวมตัวกันรอบๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีการหยิบป้ายผ้าออกมา ทหารเห็นว่ามีการหยิบป้ายผ้าออกมาจึงพยายามที่จะใช้กำลังยื้อแย่ง แต่กลุ่มนักศึกษาที่อยู่ตรงนั้นก็คล้องแขนกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแย่งป้ายผ้าจนท้ายที่สุดทหารต้องยอมถอยออกไป
ระหว่างนั้นมีทหารระดับสูงคนหนึ่งเข้ามาขอเจรจา แต่เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆ ก็ปรากฏว่าฝ่ายนักศึกษาและชาวบ้านยังไม่ส่งตัวแทนขึ้นมา จนสถานการณ์ตรึงเครียดไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะมีการส่งนักศึกษาหญิง 2 คนออกมาเจรจา ซึ่งนักศึกษาแจ้งกับทหารว่านอกจากนักศึกษาแล้วก็มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในประเด็นทรัพยากรออกมาทำกิจกรรมด้วย เพราะปัญหาของเขายังไม่ได้รับการแก้ไข และหลังรัฐประหารสถานการณ์ในพื้นที่ก็เลวร้ายลงเมื่อทหารเข้ามาในพื้นที่ แต่ทหารที่เจรจาด้วยบอกว่าไม่เกี่ยวกัน และบอกกับนักศึกษาว่า หากจัดกิจกรรมทำบายศรีก็ไม่เป็นไรแต่การโชว์ป้ายผ้าอาจจะไม่เหมาะสม
หลังการเจรจา ทหารยอมให้นักศึกษาและชาวบ้านทำกิจกรรมที่เตรียมมา มีการร้องเพลง แสดงละครสะท้อนปัญหาของชาวบ้าน รวมทั้งทำพิธีช้อนขวัญและผูกข้อมือบายศรีให้นักศึกษา 7 คนที่ถูกดำเนินคดี ต่อมามีการอ่านแถลงการณ์โดยมีใจความสำคัญว่า ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มคนอ้างตัวว่าจะมาแก้วิกฤตให้ประเทศ แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง นักศึกษาและประชาชนในนามกลุ่มประชาธิปไตยใหม่จึงมีข้อเรียกร้อง ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญชั่วคราว ยุติการร่างรัฐธรรมนูญที่อาจนำไปสู่การสืบทอดอำนาจ และรัฐต้องเคารพสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน
หลังการอ่านแถลงการณ์ก็มีการคลี่ป้ายผ้าที่มีข้อความ เช่น "หยุดเผาก๊าซ" หรือ "หยุดเหมืองทองคำ" และมีการนำผ้าลายพรางไปพันรอบอนุสาวรีย์ กิจกรรมของนักศึกษาและชาวบ้านดำเนินไปถึงประมาณ 13.00 น. จึงยุติลง นักศึกษาและชาวบ้านเกาะกลุ่มกันเดินออกจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อขึ้นรถไปยังมหาวิทยาลัยขอนแก่น เท่าที่ทราบไม่มีรายงานการจับกุมผู้ร่วมกิจกรรม ขณะที่นักศึกษาที่ต้องไปรายงานตัวที่ สภ.ขอนแก่นก็ยังไม่ได้เดินทางไปรายงานตัวแต่อย่างใด
นักศึกษาและประชาชนอ่านคำประกาศที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น |
ที่มาภาพ ประชาไท
คำประกาศขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (Neo Democracy Movement)
นับเป็นเวลากว่าทศวรรษที่สังคมไทยได้เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง ที่นับวันจะมีความร้ายแรงและอันตรายมากยิ่งขึ้น เพราะ ได้ปรากฏว่ามีคณะบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าตนสามารถนำสังคมไทยฝ่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อหนทางพิสูจน์ม้าฉันใด กาลเวลาย่อมพิสูจน์คนฉันท์นั้น ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาวิกฤตสังคมไทยหาได้ลดลงไม่ แต่กลับยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิม เพราะได้ปรากฏว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง มีการกระทำที่เป็นการทำลายความสงบสุขของชุมชน มีการยกยอปอปั้นกลุ่มทุนไม่กี่ครอบครัวให้สูงส่งกว่าคนไทยคนอื่นๆ และยังบริหารประเทศชาติล้มเหลวในทางเศรษฐกิจจนยากจะเห็นแสงสว่างได้ ทั้งหมดนี้คณะบุคคลดังกล่าวล้วนแต่ล้มเหลวนับแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่สนใจในหลักการที่สำคัญที่จะเป็นหลักการในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ หลักการที่สำคัญที่ว่านี้ คือ
- หลักประชาธิปไตยที่จะทำให้คนไทยมีสิทธิเสรีภาพเสมอหน้าอย่างเท่าเทียมกัน
- หลักความยุติธรรมที่จะช่วยลดความขัดแย้งของคนในสังคม เมื่อกระบวนการยุติธรรมในสังคมเข้มแข็ง สังคมก็จะเชื่อถือในกฎหมาย ความสงบสุขของสังคมก็ย่อมตามมา
- หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดชีวิตของตนเอง
- หลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลทุกคนต้องเคารพและไม่กระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสิทธิดังกล่าว สิทธิมนุษยชนจึงเป็นเหมือนเสาค้ำยันความเป็นมนุษย์ แต่เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ซึ่งการมีอยู่ของสังคมใดสังคมหนึ่งล้วนต้องได้รับความเคารพ และจะมีผู้ใดกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคมนั้นมิได้ รวมถึงการตัดสินใจของชุมชนซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิกในชุมชน ซึ่งบุคคลทุกคนในสังคมต้องเคารพ
- หลักสันติวิธี โดยทั่วไปแล้วสังคมย่อมมีความขัดแย้ง แต่การใช้ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ข้อพิสูจน์นี้คือ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้ปรากฏความรุนแรงหลายระลอกในสังคมไทย แต่ปัญหายังดำรงอยู่
ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วยนักศึกษาและประชาชน ไม่อาจจะอดทนให้ประเทศชาติจมจ่อไปกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวต่อไปอีกได้ และเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างแท้จริง จึงมีข้อเสนอต่อประชาชนดังต่อไปนี้
- ยกเลิกรัฐธรรมนูญชั่วคราว ยุติกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจและยกเลิกประกาศที่เป็นผลพวงของรัฐประหาร รวมถึงยกเลิกกฎอัยการศึกและกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมตลอดทั่วราชอาณาจักร
- ยุติการคุกคามและการดำเนินคดีกับประชาชน
- คืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งตามปกติโดยเร็ว
- รัฐต้องหยุดละเมิดสิทธิชุมชน และต้องเคารพในสิทธิชุมชน การใดๆที่เกี่ยวข้องกับชุมชนต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ปัญหา
ขบวนการประชาธิปไตยใหม่
8 มิถุนายน 2558
คำประกาศขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (Neo Democracy Movement)
นับเป็นเวลากว่าทศวรรษที่สังคมไทยได้เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง ที่นับวันจะมีความร้ายแรงและอันตรายมากยิ่งขึ้น เพราะ ได้ปรากฏว่ามีคณะบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าตนสามารถนำสังคมไทยฝ่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อหนทางพิสูจน์ม้าฉันใด กาลเวลาย่อมพิสูจน์คนฉันท์นั้น ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาวิกฤตสังคมไทยหาได้ลดลงไม่ แต่กลับยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิม เพราะได้ปรากฏว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง มีการกระทำที่เป็นการทำลายความสงบสุขของชุมชน มีการยกยอปอปั้นกลุ่มทุนไม่กี่ครอบครัวให้สูงส่งกว่าคนไทยคนอื่นๆ และยังบริหารประเทศชาติล้มเหลวในทางเศรษฐกิจจนยากจะเห็นแสงสว่างได้ ทั้งหมดนี้คณะบุคคลดังกล่าวล้วนแต่ล้มเหลวนับแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่สนใจในหลักการที่สำคัญที่จะเป็นหลักการในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ หลักการที่สำคัญที่ว่านี้ คือ
- หลักประชาธิปไตยที่จะทำให้คนไทยมีสิทธิเสรีภาพเสมอหน้าอย่างเท่าเทียมกัน
- หลักความยุติธรรมที่จะช่วยลดความขัดแย้งของคนในสังคม เมื่อกระบวนการยุติธรรมในสังคมเข้มแข็ง สังคมก็จะเชื่อถือในกฎหมาย ความสงบสุขของสังคมก็ย่อมตามมา
- หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดชีวิตของตนเอง
- หลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลทุกคนต้องเคารพและไม่กระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสิทธิดังกล่าว สิทธิมนุษยชนจึงเป็นเหมือนเสาค้ำยันความเป็นมนุษย์ แต่เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ซึ่งการมีอยู่ของสังคมใดสังคมหนึ่งล้วนต้องได้รับความเคารพ และจะมีผู้ใดกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคมนั้นมิได้ รวมถึงการตัดสินใจของชุมชนซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิกในชุมชน ซึ่งบุคคลทุกคนในสังคมต้องเคารพ
- หลักสันติวิธี โดยทั่วไปแล้วสังคมย่อมมีความขัดแย้ง แต่การใช้ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ข้อพิสูจน์นี้คือ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้ปรากฏความรุนแรงหลายระลอกในสังคมไทย แต่ปัญหายังดำรงอยู่
ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วยนักศึกษาและประชาชน ไม่อาจจะอดทนให้ประเทศชาติจมจ่อไปกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวต่อไปอีกได้ และเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างแท้จริง จึงมีข้อเสนอต่อประชาชนดังต่อไปนี้
- ยกเลิกรัฐธรรมนูญชั่วคราว ยุติกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจและยกเลิกประกาศที่เป็นผลพวงของรัฐประหาร รวมถึงยกเลิกกฎอัยการศึกและกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมตลอดทั่วราชอาณาจักร
- ยุติการคุกคามและการดำเนินคดีกับประชาชน
- คืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งตามปกติโดยเร็ว
- รัฐต้องหยุดละเมิดสิทธิชุมชน และต้องเคารพในสิทธิชุมชน การใดๆที่เกี่ยวข้องกับชุมชนต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ปัญหา
ขบวนการประชาธิปไตยใหม่
8 มิถุนายน 2558