อ่านนโยบายเรื่องแก้ปัญหาฝุ่นควันของแต่ละพรรคแล้ว เลื่อนลอยมากอย่างน่าตกใจ - อ.ปิ่นแก้ว

ภาพจาก Work Point Today
.....
Pinkaew Laungaramsri
15h
อ่านนโยบายเรื่องแก้ปัญหาฝุ่นควันของแต่ละพรรคแล้ว เลื่อนลอยมากอย่างน่าตกใจ ทุกพรรคล้วนมองปัญหาจากกรุงเทพฯเป็นศูนย์กลาง
ก้าวไกลไปโฟกัสที่เกษตร อย่างเดียว ทั้งที่งานวิจัยในภาคเหนือระบุชัดมานานแล้วว่า จุดความร้อนส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ป่า ชัดเจนว่า ไม่เคยคุยกับนักวิชาการที่ทำวิจัยเรื่องนี้ และไม่เคยอ่านงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ทุกพรรคสนใจแต่เรื่องฝุ่นจากการคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของกทม. นอกกทม. ปัจจัยนี้ เป็นปัจจัยรองมากๆ
เพื่อไทย บอกว่า ห้ามเผาป่า เผาไร่ อย่างจริงจัง โทษเหอะ อันนี้แย่กว่าประกาศของจังหวัดเชียงใหม่อีกนะคะ เขา "ห้าม" มาเป็นชาติแล้วค่ะ จนเปลี่ยนจาก "ห้าม" แบบเลื่อนลอย เดี๋ยวนี้ พัฒนาไปทำระบบ "ไฟดี" กันแล้ว ยังเอาไม่อยู่เลย
นี่แสดงว่า ไม่เคยลงคุยกับกลุ่มที่ทำงานด้านฝุ่นควัน ทั้งนักวิชาการ ทั้งองค์กรในระดับท้องถิ่นกันเลยว่าปัญหา อุปสรรค มันอยู่ที่ไหน
มีการพูดถึงพรบ.อากาศสะอาด แต่ไม่มีพรรคไหนอธิบายได้ว่า มีกม.เพิ่มมาอีกฉบับ จะนำไปสู่การทำให้อากาศสะอาดขึ้นยังไง? อย่าว่าแต่พรบ.อากาศสะอาดเลย กะอีแค่ประกาศให้เป็นเขตควบคุมสิ่งแวดล้อม ตามกม.ที่มีอยู่แล้ว ยังไม่ทำ/ทำกันไม่ได้เลย จนคนลุกขึ้นมาฟ้องศาลปกครอง ไม่เห็นหรือ
ชาติพัฒนากล้า ยิ่งไปใหญ่ เล่นจะเพิ่มพื้นที่ป่า เอาพันธบัตรป่าไม้มาใช้ คือทุกวันนี้ แย่งที่ดินจากชาวบ้านจนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ยังไม่พออีกหรือคะ นี่ไปฟังมูลนิธิอะไรนั่น ที่ไม่เคยมีบทบาทแก้ปัญหาฝุ่นควัน มีแต่มาเสนอแนวทางหายนะเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญ ไม่มีพรรคไหน พูดเกี่ยวกับสวัสดิการปอดของประชาชนแม้แต่พรรคเดียว ถ้าแก้ปัญหาฝุ่นควันไม่ได้ รัฐจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงพื้นที่อากาศสะอาดได้อย่างไรบ้าง เข้าถึงเทคโนโลยีการฟอกอากาศได้อย่างไรบ้าง เข้าถึงบริการการแพทย์ที่รักษาความป่วยเจ็บจากฝุ่นควันที่ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
เห็นแล้ววังเวงมาก
.....

ที่มา เพจ Today
February 24

https://www.facebook.com/TODAYth.FB