วันศุกร์, มีนาคม 24, 2566

6 สิ่งที่โทนี่เข้าใจผิดเกี่ยวกับยูเครน


Don Plooksawasdi

6 สิ่งที่โทนี่เข้าใจผิดเกี่ยวกับยูเครน
.
1. รัสเซียมีประชากรมหาศาล 200 กว่าล้าน ไม่แพ้หรอก
.
คุณโทนี่น่าจะไม่ได้อัพเดทข้อมูลเลยสับสนระหว่างสหภาพโซเวียตกับรัสเซีย โซเวียตมีประชากร 200 กว่าล้านจริง แต่รัสเซียมีประชากร 143 ล้านและลดลงอย่างรวดเร็วเพราะอัตราการเกิดต่ำอันดับต้นๆ ของโลก
.
2. อเมริกาใช้ยูเครนเป็น Proxy War (สงครามตัวแทน)
.
ถ้าอย่างนั้นเราเรียกว่าอิหร่านที่ส่งโดรนพลีชีพให้ปูตินกำลังใช้รัสเซียเป็น Proxy War ได้หรือไม่? การเรียกสงครามนี้ว่าเป็น Proxy War คือการมองข้าม Agency หรืออำนาจในการตัดสินใจของรัสเซียที่จะบุก และยูเครนที่จะสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยเกินไป
.
อันนี้ผมรู้สึกว่าไม่ใช่ความผิดของโทนี่ เเต่เป็นปัญหาของการศึกษาไทยที่มักเน้นการสอนเรื่องอำนาจนำมากจนล้น ยกการตัดสินใจในประวัติศาสตร์ต่างๆ ว่าเป็นของพระมหากษัตริย์องค์นั้น,ประธานาธิบดีคนนี้ จนไม่ค่อยเข้าใจว่า Agency ในระดับรากหญ้าจากประชาชน เช่นคุณพ่อชาวยูเครนที่เป็นอาสาส่งข้าวของแล้วตัดสินใจผันตัวเป็นทหารเพราะรู้สึกอยากช่วยชาติกว่านี้ ไม่ใช่เพราะเซเลนสกี้สั่งให้รบ
.
อ้อ ถ้าลองไปอ่านประวัติการรบช่วง 2014 จริงๆ จะมองว่าตะวันตกเกรงใจรัสเซียมากจนขัดขายูเครนเพื่อให้ยอมเจรจาด้วยซ้ำ อาวุธต่อต้านรถถังก็ไม่ขายให้, ภาพถ่ายดาวเทียมก็ส่งช้าจนทหารโดนถล่มตายเป็นกองพัน,สัญญา Minsk ก็เขียนมาแบบรู้ทั้งรู้ว่ายังไงรัสเซียก็ไม่ทำตาม
.
3. กลุ่ม BRICS ไม่ปล่อยรัสเซียหรอก
.
ไม่มีกลุ่ม BRICS สักชาติที่ส่งอาวุธให้รัสเซีย ทุกคนต่างหาประโยชน์จากรัสเซียในยามไร้เพื่อนให้มากที่สุด และไม่มีใครใน BRICS ที่มีรัสเซียเป็นชาติคู่ค้าติด Top-5 สักรายนอกจากอินเดียที่ Import อาวุธรัสเซียเยอะ แต่ทุกวันนี้รัสเซียผลิตใช้เองยังไม่ทันเพราะจำนวนการสูญเสียสูงจัดจนต้องเข็นรถถัง T-54 ผลิตสมัยจอมพล ป. ไปรบในยูเครน
.
กลุ่ม BRICS ไม่มีทางพัฒนาไปเป็นพันธมิตรทางทหารต่อต้านตะวันตกได้เลย เพราะ I (India) กับ C (China) เกลียดกันชิบหาย ถึงขั้นปีที่แล้วสหรัฐให้ข่าวกรองอินเดียจนได้ชัยชนะในการประลองวรยุทธกับจีนที่พรมแดน ที่อินเดียซื้ออาวุธรัสเซียเยอะๆ ก็คือเอาไปฆ่าจีนนี่แหละ
.
ส่วน B (Brazil) และ S (South Africa) ด้านเศรษฐกิจยังเป็นคนป่วย ยิ่งแอฟริกาใต้นี่หนักแบบถ้าใครชอบด่าว่า Paris เละแล้ว ขอให้ไปเดินเล่นใน Joberg แล้วรอดกลับมาให้ได้ดู ผมโดนขโมย Laptop มาแล้วสามเครื่อง 555
.
ความจริง BRICS เป็นแค่ Buzzword ที่คิดขึ้นในปี 2001 โดย Goldman Sachs ว่าประเทศเหล่านี้น่าลงทุนเพราะอนาคตมีอัตราการเจริญเติบโตสูง ทุกวันนี้ 21 ปีผ่านไป หลายชาติก็ไม่ได้โตเร็วเท่าที่คาด ชาติจนบางชาติก็ก่อสงครามทำลายตัวเอง หรือละเลยเศรษฐกิจด้านที่ไม่ใช่ขายทรัพยากรพอจะโตอย่างยั่งยืนได้ ชาติที่น่าจะกลายเป็นมหาอำนาจได้จริงๆ คงมีแค่อินเดีย (กับจีนซึ่งเป็นอยู่แล้ว)
.
4. ถ้า Democrat แพ้เลือกตั้งปีหน้า อาจเกิดความปลี่ยนแปลง
.
อันนี้จริง แต่ก็ไม่ใช่ Republican ทั้งหมดเช่นกันที่ต่อต้านการให้ความช่วยเหลือยูเครน
.
ในสภา Congress มี สส ฝั่ง Republican แค่ 1/3 เท่านั้นที่โหวต No กับการช่วยเหลือยูเครน ส่วน Democrat โหวต Yes หมด
.
ใน Senate ก็เหมือนกัน คือ วุฒิสมาชิก Republican แค่ 1/4 ที่โหวต No ส่วน Democrat คือ Yes หมด
.
Republican บางคนขอปลดล็อคอาวุธที่รัฐบาลไบเดนยังไม่กล้าให้ด้วยซ้ำ
.
สำหรับประชาชนอเมริกันจาก Poll ทั้ง Gallup,AP ส่วนใหญ่ก็ยังสนับสนุนยูเครนอยู่ดี รัสเซียเองก็ชอบทำอาชญากรสงครามฉาวโฉ่ให้ขึ้นหน้าหนึ่งบ่อยๆ ด้วย
.
5. ยูเครนซวย ได้ ปธน เป็นตัวตลก
.
เอาจริงแล้วเรื่องนี้โทนี่ไม่ควรด้อยค่าเซเลนสกี้เลย เพราะเส้นทางการเมืองของทั้งสองคนคล้ายกันมาก เป็นแฝดคนละฝาของนักการเมืองในประเทศโลกที่สามที่ประชาชนผิดหวังกับนักการเมืองแบบเดิมๆจนเคยชิน
.
ทั้งคู่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน เซเลนสกี้มาจากสายบันเทิง คุณโทนี่มาจากโทรคมนาคม ซึ่งเป็นธุรกิจยุคใหม่ทั้งคู่ โดนโจมตีว่าเส้นผู้มีอำนาจในประเทศจนได้ดี (โทนี่-บิ๊กจ๊อด,เซเลนสกี้-โคโลมอยสกี้)
.
ทั้งสองเข้ามาในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ คิดใหม่ทำใหม่ โดยเฉพาะเซเลนสกี้ที่ขึ้นเวที Debate ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มองหน้าคู่แข่งแล้วบอกว่า "ผมคือบทลงโทษของคุณจากประชาชน"
.
ทั้งคู่หาเสียงด้วย Platform เน้นปากท้องเป็นหลัก ทั้งด้านพัฒนาเศรษฐกิจ, การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ บริการประชาชน (Super App ของรัฐบาลยูเครนดีมากๆๆ นะเออ), ต่อต้าน Corruption, เอาคนหนุ่มสาวเข้ามาทำงานรับใช้ประเทศ
.
สิ่งที่คุณโทนี่ในยุคนั้นเหนือกว่าน่าจะเป็นทีมงานที่ผลักดันโครงการเปลี่ยนประเทศอย่าง 30 บาทออกมาได้ ด้านทีมเซเลนสกี้บางส่วนยังประสบการณ์น้อยเกินไปทำให้ผลงานหลายด้านยังไม่เข้าเป้า
.
สรุปคือทั้งคู่คล้ายกันมาก ต่างกันตรงการตัดสินใจในวิกฤติบางจุดเท่านั้น
.
6. เซเลนสกี้ควรเจรจาแต่ต้น
.
คุณโทนี่ไม่รู้ว่าสงครามมันเริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว และเซเลนสกี้ก็หาเสียงว่าจะจบสงครามดอนบาสด้วยการเจรจา แต่มันล้มเหลวเพราะปูตินถือว่าตัวเองมีไพ่เหนือกว่ามาตลอด แถมฝรั่งเศส,เยอรมันยังไงก็เกรงใจรัสเซีย ขนาดยิงเครื่องบินโดยสาร MH17 ร่วงยังหยวนๆ ให้เลย
.
คุณโทนี่ไม่รู้ว่ากับบางคนมันสู้ไปกราบไปไม่ได้ โดยเฉพาะรัสเซียที่คิดว่ายูเครนเป็นแคว้นนอกคอก, ชาวยูเครนไม่มีจริง, ความเป็นยูเครนคือ"รัสเซีย"ที่ถูกแปดเปื้อนด้วยความคิดตะวันตก
.
คำว่าประเทศยูเครนไม่มีจริงมันออกมาจากปากปูตินเองด้วยซ้ำ
.
อันนี้ก็ชี้ปัญหาการศึกษาไทยอีกเรื่อง คือเวลาเราสอนเกี่ยวกับยุคล่าอาณานิคม จะบอกว่าชาติไหนล่าอาณานิคม ไม่ค่อยสอนว่า การล่าอาณานิคม การทำลายวัฒนธรรมของคนท้องถิ่น มันทำกันยังไง เพราะมันมีส่วนที่กระอักกระอ่วนสำหรับเราเองเหมือนกันกระมัง
.
ฉะนั้นเวลาเราเลยไม่เข้าใจบริบทของสงครามล่าอาณานิคมแบบที่รัสเซียทำสักเท่าไหร่
.
คุณโทนี่เลยไม่เข้าใจประเด็น ถ้ารัสเซียหยุดสู้ สงครามก็หยุด ถ้ายูเครนหยุดสู้ก็สิ้นชาติ มันเลยลามมาเป็นความเชื่อว่าสู้ไปกราบไปกับรัสเซียจะได้ผล
.
คุณโทนี่เป็นคนฉลาด เรื่องเทคโนโลยีและธุรกิจนี่คมกริบเลย แต่เรื่องประวัติศาสตร์หรือความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศยังคิดในแบบนักธุรกิจ (คือรู้จักใคร ชื่นชมใครก็เข้าข้างคนนั้น) เมื่อประกอบกับพื้นฐานการศึกษาประวัติศาสตร์ห่วยๆ ที่คนไทยโดนกันทุกคน มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมา
.
เอาเข้าจริงผมยังสงสัยก้าวไกลเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะคุณทิมโปรยูเครน แต่อาจารย์ปิยบุตรมีความสมเจียมเฟส 2 อยู่ ไม่รู้รักษาหายยัง
.
การแก้จังหวะนรกของโทนี่ไม่ยาก แค่ให้คนรุ่นใหม่ๆอย่างคุณอุ๊งอิ๊งออกมาแสดงจุดยืนของรัฐบาลเพื่อไทยกับยูเครนก็พอแล้ว ผมค่อนข้างเชื่อว่าไม่เหมือนโทนี่แน่ๆ
.
เอาเข้าจริง ยังไม่มีใครไปถามผู้สมัครนายกสักคนเลยนะ ว่าเรื่องต่างประเทศนี่มีจุดยืนยังไง ไม่ใช่แค่ยูเครน แต่ในเรื่องของสงครามการค้าเมกา-จีน, ความสัมพันธุ์กับอินเดียก็ด้วย
.
Campaign การเลือกตั้งตะวันตก มันจะมี Debate ส่วนที่เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศโดยเฉพาะเลย ไทยก็ควรให้ความสนใจบ้าง เพราะประเทศนี้ไม่ได้เป็นเกาะอยู่เพียงลำพัง และความพ่ายแพ้ของปูตินจะเป็นประโยชน์ต่อประชาธิปไตยไทยแน่ๆ เพราะจะทำให้พวกกลุ่มขนมหลายๆ สีขาดทั้งโมเดลและไอดอลไปอีกราย
.
ฟังมาจากในนี้ : https://twitter.com/oonginlave.../status/1638365235294908417 
.....
Theerapat Charoensuk
9h
คนยูเครน 100% ที่ผมเจอ ทั้งในไทย ในเอสโตเนีย ในโปแลนด์ ที่อื่นในยุโรป เขาสู้หมด ไม่อยากเจรจาตอนนี้ เพราะรัสเซียมันทำโหดร้ายรุกราน ข่มเหงย่ำยีเกินไป
ทำกับข้าว นั่งกินข้าวกับเพื่อนสาวๆ ยูเครน พอดื่มกันไปหน่อยเขาก็ร้องไห้ คิดถึงแฟนที่อยู่แนวหน้า แต่เขาก็ยังมีใจจะสู้
ปิดเทอมเขากลับไปกรุงคีฟ เสี่ยงกับจรวดรัสเซียถล่ม ไฟดับรายวัน เขาก็ยังกลับ
แล้วปัญหาคือรัสเซียไม่ยอมหยุดเอง ต่อให้เจรจาจบวันนี้ ห้าปีสิบปีหน้า มันก็จะมาอีก ถ้าไม่ทำลายศักยภาพรัสเซียให้พ่ายแพ้หมดก่อน
รัสเซียถอนทหารถอยกลับ รัสเซียไม่เสียอะไร
ยูเครนถอนทหารยอมถอย ยูเครนสิ้นชาติ อย่างน้อยก็กลายเป็นหุ่นเชิดให้มอสโก
ชาติบอลติกรู้ โปแลนด์รู้ เพราะพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดเขาเคยโดนมาก่อน
โดนบังคับใช้แรงงาน อพยพ เกณฑ์ไปรบกับคนอื่น สุดท้ายก็ไม่ได้สันติภาพหรือความสงบอยู่ดี
ทหารรัสเซียที่ตายมากที่สุดในสงคราม คือทหารชนเผ่าจากแคว้นยาคูเตีย ผิวเหลืองตาตี่แบบเอเชียเราๆ ไม่ใช่พวกผิวขาวตาโตในมอสโก
ถ้ายอมให้รัสเซียได้ไปสักครั้ง มันก็จะคืบมากินเพิ่มอีกเรื่อยๆ
เชเชน อับคาเซีย เซาธ์ออสเซเตีย ไครเมีย ดอนบาส จนถึงบุกคีฟ ไม่มีอะไรรับประกันว่าถึงวันหนึ่งรัสเซียจะไม่เคลมไอดา-วิรู ของเอสโตเนีย, ภาคตะวันออกของลัทเวียและลิทัวเนีย, คาเรเลียของฟินแลนด์อีก
การสนับสนุนยูเครนไม่ใช่การสร้างวิกฤตสงครามให้ยาวนานต่อไป
การสนับสนุนรัสเซียต่างหากที่ทำให้สงครามไม่สิ้นสุด!