.jpg)
47m ·
นี่คือข้อความในแชทล่าสุดที่เรากับเอินคุยกัน ที่เรามาโพสต์เพื่อยืนยันว่าเรารู้เห็นกับเรื่องนี้มาโดยตลอด และเราจะอยู่เคียงข้างน้องของเรา เราจะไม่ทิ้งให้น้องของเราต้องเจอกับอะไรแบบนี้เพียงลำพัง
เรากับเอินคือพี่น้อง เอินมีภาวะ Major Depressive Disorder ส่วนเรามีภาวะ Post Traumatic Stress Disorder ซึ่งเราทั้งสองคนมีความผิดปกติทางสุขภาพจิตที่เกิดจากสาเหตุเดียวกัน คือความรุนแรงจากระบบสังคมอำนาจนิยมที่ลุแก่อำนาจจนไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ของคนบางกลุ่ม
เราสองคนเคยคุยกันถึงขั้นว่า เราจะทำอะไรที่สุดโต่งแบบที่ทุกคนคาดไม่ถึงเมื่อเวลาที่เหมาะสมด้วยกัน แล้วก็ตายจากโลกนี้ไป
ที่ผ่านมาเอินเคลื่อนไหวผ่านผลงานศิลปะของเอิน ถ้าใครติดตามจะรู้สไตล์ของเขา และเราเองก็ชื่นชอบ และซัพพอร์ตน้องมาโดยตลอด
สิ่งที่น้องทำในวันนี้ ไม่ได้ทำเพราะความบ้าคลั่งไร้สติ แต่เขาได้คิดและปรึกษาพูดคุยกับเรามาระยะแล้ว และเขาพร้อมที่จะจ่ายราคาของมัน เพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพที่เขาต้องการจะสื่อสาร ซึ่งแต่ละคนอาจจะตีความหมายต่างกันไป สำหรับเราคำว่ากาละเทศะมันไม่มีอยู่ในเหตุผลของการต่อสู้ในสังคมที่มันผิดปกติ ดังนั้นไม่ต้องถามหา
เรายึดมั่นและให้ความเคารพในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตราบเท่าที่ไม่ไปละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้น การที่น้องบอกว่าจะพ่นสีกำแพงวัง ผมจึงไม่ห้ามแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของพฤติการณ์ในคดี เราขอเสนอตัวเป็นหนึ่งในนั้น ในฐานะพี่ชายที่มันคุยได้ทุกเรื่อง
คุณอาจจะรู้อะไรในความคิดของพวกเรามากขึ้น เพื่อคุณจะได้รับมือกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างมีชั้นเชิง แต่เราขออย่างเดียว ขอให้มีการพูดคุยกันดีๆ ไม่ใช้วิธีการที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย
ย้ำอีกทีนะครับ มันจะไม่มีแค่เอินคนเดียว มันมีคนที่พร้อมจะทำอะไรที่ “เกินความคาดคิด” อีกมาก
กำแพงนั่นสร้างมา 200 กว่าปี มีรอยก็ทาสีใหม่ได้ ชำรุดทรุดโทรมก็บูรณะใหม่ได้ตลอดไปนับพันนับหมื่นปี
แต่ความคิดที่มันเปรอะเปื้อน มันทาสีใหม่ไม่ได้ หัวใจที่แตกสลาย ก็ไม่สามารถบูรณะได้เหมือนกำแพง
เอาเป็นว่า มีข้อหาอะไรก็จัดมา กูเปิดหน้าพร้อมเผชิญหน้าสู้ขนาดนี้แล้ว ถ้ามึงไม่กล้า มึงแม่งโคตรใจหมา
กูจะยืนอยู่ข้างมึงนะเอิน
1d
อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็จะได้เห็น
เพราะไม่ว่า “กำแพง” ใดๆ ก็ไม่เคยปิดกั้นความคิดและอิสระของเสรีชนได้
