วันศุกร์, มีนาคม 10, 2566

หมอพรทิพย์โวย รู้เป็นใคร “ในวง ป.ป.ช....อยู่เบื้องหลังและต้องการจัดการตน”

เป็นอันว่า ที่หมอพรทิพย์ต้องคดีทุจริต จีที-๒๐๐ นี่เป็นเรื่องการเมืองตามที่แทบทุกคนคาดหมาย เจ้าตัวบอกเองวันนี้ เชื่อว่า รอดยาก มีคนใน ปปช.จ้องงับมานานแล้ว แม้นว่า “ปปช.เขาชี้มูลความผิดคดี GT200 คุณหญิงหมอตั้งแต่ปีที่แล้ว”

Jessada Denduangboripant ให้ความเห็น “อย่าไปมองในแง่ดีกันว่า คุณหญิงหมอทำท่าเหมือนจะเปลี่ยนขั้ว ส.ว. แล้วก็เลยถูก ป.ป.ช.เล่นงาน” เหตุที่ ปปช.เพิ่งมาฟันตอนนี้ ใกล้จะถึงเลือกตั้ง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนผ่าน ไม่สะดวกโยธินดังหวัง

“ส่วนของหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายสิบหน่วยงาน (ซึ่งรวมถึงเหล่าทัพต่างๆ) และผู้ที่ถูกชี้มูลไปอีกหลายร้อยคนนั้น ก็ดำเนินการฟ้องศาลไปตามปกติ ที่ต้องลุ้นกันก็มีแค่ step ว่าศาลจะรับฟ้องกรณีคุณหญิงหมอหรือเปล่า” หรือถ้าศาลรับ คดีจะไปถึงที่สุดไหม

เหตุที่ล่าช้ามาเป็นปี “เนื่องจากคุณหมอไม่ได้เป็นกรรมการจัดซื้อ กรรมการตรวจรับกับเขาด้วย แต่มีรองผู้อำนวยการสถาบันฯ เซ็นแทน เลยทำให้กระบวนการส่งคดีนี้ไปยังศาลผ่านอัยการสูงสุด เกิดการชะงักงันขึ้น” แต่กระนั้นปมวิจารณ์อำนาจ สว. ก็ยังฟังขึ้น

วันนี้คุณ (หญิง) หมอให้สัมภาษณ์ เจาะลึกทั่วไทยท้าวความไปถึงปี ๕๘ ตอนที่มีการเสนอร่าง พรบ.นิติวิทยาศาสตร์เข้าสภา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.กระทรวงยุติธรรมขณะนั้นเป็นผู้เสนอ ก็ยังโดน สนช.ปักหลักขวางเต็มที่

คุณหมอพูดถึงสมาชิก สนช.คนหนึ่ง “ลุกขึ้นกล่าวหาให้ร้าย” เป็นเหตุผลที่เธอบอกว่าคดีของตนรอดยาก “มีคนอยู่เบื้องหลังและต้องการจัดการตน ซึ่งตนรู้ว่าเป็นใคร” เสียด้วย “ปัจจุบันบุคคลนี้ก็อยู่ในวง ป.ป.ช.” เธอว่าการสั่งฟ้อง ปปช.ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมเลย

นอกจากปล่อยให้เลื่อนลอยมาตั้งนาน มาฟ้องตอนนี้ล่าช้าเกินไปแล้ว ยัง “ไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจง” เลยสักนิด ทั้งที่สามารถชี้แจงได้ทุกข้อกล่าวหา เช่นราคาแพงกว่าที่ทหารซื้อ ก็เพราะทหารสามารถซื้อได้ในแบบ จีทูจีขณะสถาบันฯ ทำไม่ได้

ส่วนประเด็นไม่ได้รับความเป็นธรรม คุณหญิงบอกว่า “เวลาผ่านมา ๑๐ ปีแล้ว ทำให้ยากต่อการหาเอกสารหลักฐานที่ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง” ข้อสำคัญตนเคยเสนอขอนำหลักฐานเข้าชี้แจง ก็ไม่ได้รับโอกาส “อ้างว่าเป็นช่วงโควิด-19

...สุดท้ายใช้สิทธิ์ขอความเป็นธรรมผ่านกระทรวง และส่งหลักฐานใหม่ไปให้อัยการและ ป.ป.ช. กลายเป็นว่าอัยการสูงสุดเห็นว่าไม่ควรฟ้อง แต่ ป.ป.ช.มีมติยื่นฟ้อง” เธอว่าสององค์กรนี้วินิจฉัยเรื่องเดียวกันไปคนละทาง “น่าจะใช้หลักคิดคนละระบบ”

ท้ายที่สุดอาจเป็นดัง ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ว่า “สงสารหมอพรทิพย์ ต้องมาติดคุกตอนแก่”

(https://www.pptvhd36.com/news/WovYDkjWcvHk, https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3865470 และ https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/0pZYSjpUiT)