วันพฤหัสบดี, มีนาคม 02, 2566

มหกรรมแดกส่วนต่าง 68,613 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้ม มองจากดาวอังคารยังรู้ว่าโกง !





พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
16h


โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นเส้นทางที่สำคัญมาก เพราะเชื่อมโยงฝั่งตะวันออก-ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ เส้นทางยาวอย่างน้อย 28 สถานี 36 กิโลเมตร แบ่งเป็นโครงการสายสีส้มฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
.
ถึงโครงการนี้จะสำคัญมาก แต่ที่ยังอนุมัติก่อสร้างกันได้ช้าเพราะแบ่งผลประโยชน์กันยังไม่ลงตัว


ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออกรัฐบาลสร้างเสร็จแล้ว อุดหนุนค่าก่อสร้าง 100%
.
สัมปทานส่วนที่ต้องประมูล มี 2 สัญญา คือ
1. ค่าก่อสร้างฝั่งตะวันตก รัฐอุดหนุนไม่เกิน 91,983 ล้านบาท เอกชนประมูลแข่งกันว่า "ใครขอเงินรัฐน้อยกว่า"


สัญญาก้อนที่ 2 สัมปทานเดินรถ 30 ปี+รายได้พาณิชย์อื่นๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ ค่าโฆษณา รายงานศึกษาบอกว่ามีกำไรประมาณ 128,605 ล้านบาท

ส่วนนี้ต้องประมูลแข่งกันว่าใครจะ "ให้ผลประโยชน์คืนรัฐมากที่สุด"

แต่ถ้าไม่มีคนประมูลแข่ง จะแบ่งผลประโยชน์ให้รัฐฐาล 0 บาท ก็ได้ หรือก็คือประเคนรถไฟฟ้าทั้งสายให้ฟรีๆ


การประกาศประมูล เคยทำมาแล้ว 1 รอบในปี 63 ครั้งนั้นมีเจ้าใหญ่ 2 เจ้า เข้าประมูลแข่งกัน คือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน); BTS และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) ; BEM
.
การประมูลดูเป็นไปด้วยดี มีการแข่งขัน แต่จู่ๆ รฟม. กลับยกเลิกการประมูลเสียดื้อๆ

เรื่องนี้ ศาลปกครองได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่าการล้มประมูลครั้งนั้น "มิชอบด้วยกฎหมาย" กระบวนการยังต่อสู้คดีกันอยู่ในชั้นศาล แต่ รฟม. กลับไม่ฟัง ยังดึงดันเปิดประมูลครั้งใหม่ต่อไป
.
ไม่ว่าผลคดีจะเป็นอย่างไร มีโอกาสสูงมากที่เรื่องนี้จะกลายเป็น "ค่าโง่" ในอนาคต


ในการเปิดประมูลสัมปทานสายสีส้มครั้งใหม่ ปี 2565 เกณฑ์การประมูลเดิมที่เหมือนจะแฟร์ กลับเกิดการ "ฆ่าตัดตอน" BTS ด้วยเกณฑ์การประมูลแบบใหม่ ที่จากเดิมวัดกันที่ราคาและผลประโยชน์ที่จะคืนให้กับรัฐบาลล้วนๆ กลับเปลี่ยนเป็นการให้คะแนน "เทคนิค" ที่ใช้การประเมินโดยผู้ประเมินแบบ "แล้วแต่ท่าน"

ในการประมูล 2565 ยังมีขบวนการตั้งเกณฑ์กีดกัน BTS ไม่ให้เข้าประมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยใช้คุณสมบัติด้านงานโยธา

โดยกำหนดให้ต้องมีผลงานที่ "แล้วเสร็จ" มากกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่ Partner ด้านงานโยธาของ BTS คือซิโน-ไทย มีผลงานที่อยู่ในขั้น "ตรวจรับ" ทำให้ไม่เข้าคุณสมบัติเข้าประมูล






ถ้าคว้าสัมปทานรายเดียวอาจดูน่าเกลียดไป เลยมีขบวนการสร้าง "คู่เทียบหลอก" ที่ทำให้คู่แข่งขันรายที่ 3 คือ อิตัลไทย-บริษัทขนส่งอินชอน (เกาหลีใต้) ...



...ที่จากเดิมมีหลายเรื่องขาดคุณสมบัติ โดยเฉพาะเรื่องที่ผู้นำการประมูลต้องมีประสบการณ์ด้าน "การเดินรถไฟฟ้า" เพิ่มคำว่า "หรืองานโยธา" ทำให้อิตัลไทยที่เป็นบริษัทผู้รับเหมา สามารถเข้าประมูลเป็น "คู่เทียบหลอก" ได้




บทสรุปของการประมูลปี 2565 จึงเปลี่ยนจากการประมูลเป็น "การประเคน" เหลือแค่ BEM เข้าวินรับผลประโยชน์เต็มจำนวนแบบสวยๆ


แต่ BTS ก็แก้เกม ด้วยการเก็บเอกสารสำคัญไว้ นั่นคือ ซองข้อเสนอของ BTS ในการประมูลรอบแรก ปี 2563!


ตามข้อเสนอของ BTS รัฐบาลต้องอุดหนุนเงินเพิ่มเพียง 9,675 ล้านบาท เท่านั้น เพราะ BTS ประมูลจ่ายผลตอบแทนให้รัฐถึง 70,145 ล้านบาท
.
ในขณะที่ข้อเสนอล่าสุดของการประมูลปี 2565 ที่เราทราบจากข่าว รัฐต้องอุดหนุน BEM มากถึง 78,288 ล้านบาท
.
หรือก็คือส่วนต่าง 68,613 ล้านบาท มีจริง!


สรุป... มองจากดาวอังคารยังรู้ว่าโกง!
- เปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ
- ยกเลิกประมูลที่ตัวเองไม่ถูกใจ
- กีดกันไม่ให้ BTS เข้าประมูล
- ตั้งราคากลางเอื้อประโยชน์นายทุน
- ไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐในการเจรจา
- ส่วนต่างที่รัฐเสียประโยชน์ 68,613 ล้านบาท มีจริง!


นี่คือมหากาพย์เมกะดีลที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบาลปรสิตยุคนี้ ถ้าผลการประมูลครั้งนี้ถูกรับรองโดย ครม. นี่จะกลายเป็น "ค่าโกง" ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การคอรัปชั่นของประเทศไทยอย่างแน่นอน
.....
พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
ย้อนชมการอภิปราย รถไฟฟ้าสายสีส้ม เมกะดีลในตำนาน "ประยุทธ์ 2" ที่นี่ https://youtu.be/W2_oOoPk0aI