เรื่องการถูกแบนเพราะ "ทารุณสัตว์" เช่น ผลิตผลจากมะพร้าวที่ใช้ลิงมาช่วยเก็บมะพร้าว ไม่ต่างอะไรกับการถูกขึ้นบัญชีดำเพราะ "แรงงานทาส" Suspected child labor on a Thai fishing boat? จนสินค้าทะเลแช่แข็งไม่สามารถวางตลาดในต่างประเทศได้
เรื่องระดับนี้ ต้องเป็นเรื่องเป็นงานระดับชาติ ระดับรัฐบาลที่จะต้องออกมาแก้ไข แก้กฏหมายการทารุณสัตว์ และมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มแข็ง
เมื่อรัฐบาลได้ทำตามกฏหมายสากลแล้ว รัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจงตามข้อมูลและแนวทางการดำเนินงานด้วย...ปัญหาก็จะได้รับการแก้ตามขบวนการอย่างถาวร
บทเรียนเรื่องแรงงานทาส เป็นบทเรียนที่ไทยได้รับและไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เขาจึงยังขึ้นบัญชีดำให้กับสินค้าที่ผลิตมาจากแรงงานทาส
สินค้าอีกชิ้นหนึ่งที่โดนบัญชีดำคือการผลิตเสื้อผ้าจากแรงงานเด็กและแรงงานทาส เขาเรียกว่า Sweat shop...เรื่องนี้ได้ถูกกำจัดอย่างเด็ดขาดในอเมริกา เจ้าของโรงงานไทยที่เอาคนไทยไปนั่งเย็บผ้าส่งตลาดเพราะเสื้อสำเร็จรูปจากไทยไม่สามารถส่งเข้าอเมริกาได้จากเหตุผลของ "โควต้า"...เจ้าของโรงงานจึงได้นำคนไทยเข้ามาประกอบชิ้นส่วนออกมาเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปในอเมริกา พวกเขาต้องติดคุก เสียค่าปรับ และต้องจ่ายเงินเดือนส่วนต่างที่ไม่ได้ให้เขาตามกฏหมายค่าแรง...นี่คือตัวอย่างที่บอกว่า "เอาเรื่องอย่างจริงจัง" ส่วนที่ไทยบอกว่า "ทำแล้วบ้าง แต่ทำไม่ได้มากนัก"
เราคนไทยจำเป็นต่องศึกษาเรื่องราวและต้องเข้าใจถึงเหตุผล ต้องเข้าใจว่าใครควรมีหน้าที่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และการแก้ปัญหาควรต้องแก้กันอย่างไร....การพูดเสียดสี ดูถูก ดูหมิ่น สนุกสนานเฮฮา และคุกคามชนชาติอื่นในหน้าสื่อ ไม่ได้ช่วยให้มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้ ปัญหายังคงมีอยู่เหมือนเดิม และเราก็ยังเป็นผู้ได้รับผลความเสียหายนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมเกิดจากเหตุ มองหาเหตุผลที่เกิดขึ้นให้ได้ หาทางแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม แล้วเราก็จะได้ไม่ถูกแบน...หากจะให้เหตุผลว่า "นี่คือวิถีชีวิตแบบไทยๆ เราทำมาครั้งปู่ย่าตายาย มายุ่งอะไรกับเราล่ะ" ถ้าเราให้เหตุผลอย่างนี้ เราก็ต้องไม่เดือดร้อนที่สินค้าจากไทยไม่ได้วางในตลาดต่างประเทศ
ด้วยความปรารถนาดี จากป้าแพม
...
Gosolsirisukkun Chomchoun
ป้าแพมค่ะฝรั่งจะรู้ไหมว่าเราแย่งกางเกงลิงมาใส่ แถมยังใช้กระต่ายขูดมะพร้าวด้วย
Jaroon Nakronfank
แก้แรงงานทาสในค่ายทหารให้ได้ก่อนไหม..555
แก้แรงงานทาสในค่ายทหารให้ได้ก่อนไหม..555