วันพุธ, มีนาคม 11, 2563

เห็นท่าคง "ปล่อยให้คนกักตุนลอยนวลไปเฉย ๆ" อีกแน่ แม้แต่วงใน พปชร.มีไล่ลาออกกันแล้ว

เล่นได้หลายบทอย่างนี้เขาถึงให้เป็นนายกฯ นาน วันก่อนอ้างมาตามรัฐธรรมนูญ ในพระปรมาภิไธยฯ วันวานเล่นบทหมอง หน้ามุ่ย สบัดใส่นักข่าว ส่ายหัว “ถามให้มันมีสาระหน่อย” พูดผิดมั้ย ถามให้มี สิระ มั้ง เพราะสิระนี่กล้างัดกับ ธรรมนัส นะ

เมื่อ สิระ เจนจาคะ แท้คทีม ปารีณา ไกรคุปต์ ลุกล้ำ “ตะเพิดให้ ร.อ.ธรรมนัส (พรหมเผ่า) ลาออก” จากกรณีคลิปโจ๋งครึ่มขายหน้ากากอนามัย ๔-๕ ล้านชิ้นที่อัตรธานเกลี้ยงตลาด ซึ่ง ซีเอสไอ แอล.เอ.รับไม้ต่อจากเพจ แหม่มโพธิ์ดำ แฉใหม่

(หมายเหตุ ความเกี่ยวเนื่องของปารีณาตรงนี้มีแค่ เคยพ้อต่อเศรษฐีแป้งมันส่งออกออสเตรเลียว่า “พี่ไม่ช่วยหนูเลย” เรื่องคดี หนู ฮุบที่ป่าจอมบึง ราชบุรี กว่า ๗๐๐ ไร่ ซึ่งเริ่มวันนี้เมื่อจำเลยไปฟังข้อกล่าวหาและปฏิเสธทุกกระทง)

ข่าวว่าเกิดการตอบโต้กันในกลุ่มไลน์ พปชร. ถึงขั้นเด็กของธรรมนัส ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ท้าให้สิระลาออกพร้อมกันแล้วไปแข่งเลือกตั้งใหม่ จน “ได้มีผู้ใหญ่ในพรรคโทรศัพท์พูดคุยกับสองคนแล้ว ให้ยุติเรื่องดังกล่าว”
 
โดยที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเช่นประธานกรรมาธิการปราบคอรัปชั่น เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จี้บั้นท้าย ประยุทธ์ จันทร์โอชา “จะทำเป็นเรื่องล้อเล่น ปล่อยให้คนกักตุนลอยนวลไปเฉย ๆ ไม่ได้” ขณะที่ “มีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ว่าเป็นการกระทำความผิดเพียง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”

เสี่ยบอยศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ชายเสื้อขาวในคลิป ทำท่าจะหลุดง่ายๆ เพราะเส้นสายในวงตำรวจไม่เบา ขนาดไปให้ปากคำกับกองบัญชาการภาค ๒ มี พล.ต.ต.นายหนึ่งมาจูงมือออกประตูหลังส่งขึ้นรถกลับเฉย และการตรวจค้นที่บ้านเขาโดยตำรวจก็ไม่พบอะไร

แต่รายการ โหนกระแส สัมภาษณ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ ผู้ทำธุรกิจส่งขายหน้ากากให้จีนตั้งแต่ต้นปีแล้ว ยอมรับว่าสถานที่ถ่ายคลิปอวดลังหน้ากากอนามัยกองพะเนินนั่น เป็นโรงเก็บของที่บ้านเขาเอง

ส.ส.พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ บอกว่านายบอยนี่เป็นนายหน้าของตน กินค่าคอมมิชชั่น พร้อมปฏิเสธจำนวนหน้ากากที่ในคลิปอ้าง ๒๐๐ ล้านชิ้นนั้น ที่จริงแค่หมื่นไม่ถึงแสนด้วยซ้ำ แต่เพจดีเอสไอฯ ลงภาพย้ำว่ามีการโพสต์ขายตั้งแต่ ๑๔ กุมภาถึง ๘ มีนา
 
โดยเฉพาะในวันที่ ๑๔ กุมภานั้น “มีการโพสต์ขายหน้ากากอนามัย จำนวน ๔.๕ ล้านชิ้น” ทำให้หลักฐานที่แพร่หลายในทางสาธารณะนี้ชี้ว่า นายบอยซึ่งนัดหมายพูดคุยกับผู้ช่วยของธรรมนัสเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยมีมลทินแน่นอน

อันทำให้ธรรมนัสต้องปลด พิตตินันท์ รักเอียด ออกจากคณะทำงานส่วนตัวของ รมช.เกษตรฯ แต่ตัวเองยังยันไม่ลาออกตามที่มีเสียงเรียกร้อง อ้างแบบเดิมๆ “ขอสื่ออย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง” และใช้ความด้าน อันเคยชิน บอกว่าคลิปเป็นการตัดต่อ

แล้วพอนักข่าวถามตู่ว่าธรรมนัสจะลาออกไหม นายกฯ เจ้าบทบาทเมินหน้าไม่ตอบ แต่ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ต้องเหน็บนักข่าว นิดนึงก็เอา หลังจากเมื่อวันก่อนโอด “เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมางอมเต็มที ใจผมก็แย่ไปทุกวัน”

สมแล้วที่ Ghost Writer@RITT41 อัดใส่ทวี้ต “จนถึงนาทีนี้ ยังไม่มีข่าว จนท.รัฐ หน่วยใดๆ นำกำลังเข้าบุกตรวจค้น สถานที่กักตุน หรืออายัด #หน้ากากอนามัย ตามข่าวที่ปรากฏ ทั้งที่มีทั้งภาพถ่าย คลิป และสถานที่ชัดเจน

แล้วมึงจะมานั่งบ่น มีเรื่องไม่สบายใจ แต่ไม่อยากพูด...ทำเฮียอะไรครับ” จริงของเค้า ประชาชนสิจะต้องไม่สบายใจมากกว่า เพราะขณะที่ความหวาดหวั่นกับการระบาดของไวรัสจากจีนยังฮึ่มกระหึ่มอยู่นี้ ปัญหาฝุ่นจิ๋วในอากาศกำเริบอีกแล้ว
 
“ไวรัส #โควิด19 ก็ต้องกลัว ฝุ่นพิษก็ต้องระวัง เศรษฐกิจก็ไม่ดี นี่มันประเทศอะไร” บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย โวยอีกครั้งทางทวิตเตอร์เมื่อเห็นตัวเลข “ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่เชียงใหม่เช้านี้ พุ่งอันดับหนึ่งของโลกแล้วครับ อันที่จริงก็สูงมาหลายวันแล้ว แต่ยังไร้มาตรการรับมือที่ดีจากรัฐ”

(https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3729915, https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3726641, และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2042624)