วันจันทร์, มีนาคม 23, 2563

รัฐบาล 'Covidiot'* มีหลายสรรพคุณ รัฐมนตรีขี้แย 'รัฐมณโฑ' ปากเสีย ปากพล่อย


มันอะไรกันหนา ไอ้พวกรัฐมนตรี รัฐมนจัตวา รัฐมนเอก (พิเศษ) รัฐบาลชุดนี้ บีบน้ำตากันเก่งฉิบ บ้างร้องไห้กลัวไม่สำเร็จ บางคนร้องเพราะบทพาไป คนใหม่นี่พอเข้าตาจนไม่รู้จะออกบทไหนดี ร้องแม่งเลย ล่าสุดนี่ เฮียหนู ไง

อนุทิน ชาญวีรกูล ผู้เดินตามสถานการณ์ไม่ทัน แถลงเรื่องไวรัสโคโรน่าได้หน่อย บอกจะทำเพื่อคนไทย ไหงทำหน้าเบะเสียแล้ว ชาวบ้านเขาจ้องว่าไปถึงไหนไอ้มาตรการไล่เก็บศพน่ะ ดั๊น “มึงมาก๊อปปี้บท ไอ้แดง ทำไม เด๋วโดนตบ”

นั่นนักรบไซเบอร์ เช่น @Papa1Zara เขาว่า เพราะความจำไม่สั้น ไม่นานนี้เองรัฐมนเอก (พิเศษ) เปิดบรรยายเรื่องสงครามโซเชียลมีเดีย เป็นนัยว่าที่ประชาชนจับได้ทหารทำ ไอโอ กิจการใหญ่ มันมีที่มาและที่จะไป

อีกคนที่เขาพากันนึกได้ ผู้มาก่อนกาล เรื่องเล่นบทโศรกบนเวทีปราศรัย หลังจากเคี้ยวกระท่อมได้ที่ก็ต้องมีตะเลงเต่งตุมน้ำตาไหลย้อย คนนี้โชคไม่ดีไม่ได้เป็นรัฐมนตรีเพราะมีแผลเยอะ เลยเป็นแค่รัฐมนจัตวา ออกมาขานรับผู้มีพระคุณเป็นครั้งคราว

ส่วนที่เป็น รัฐมณโฑออกไปคนละแนว คนนี้ไม่เล่นแต่เป็นเพราะสันดอน สอนสั่งกันมาแต่อ้อนแต่ออกอย่างนั้น พอนักข่าวถามเรื่องมาตรการปิดเมืองที่ค่อยๆ ออกมากระปริบๆ เนี่ย ทำให้คนตกงานเป็นล้านแล้ว ไม่มีมาตรการช่วยเหลือบ้างหรือ
 
เท่านั้นแหละ รองเลขาฯ นายกฯ กอปศักดิ์ สภาวสุ ‘snapped’ เหน็บกลับทันที (ถามอย่างนี้) “นักข่าวอยากได้เงิน” กันเหรอ นักข่าวอย่าง @Ping_VoiceTV แค่ย้อนว่า “นี่โกรธนะ” แต่ผู้ประกาศข่าวอย่าง sirote klampaiboon @sirotek ซัดแรง

“รัฐบาลปากเสีย...กอปศักดิ์ ก็ปากพล่อยแดกดัน” พร้อมเสร็จสรรพคุณรัฐมณโฑ “กอปศักดิ์เป็นรัฐมนตรีที่ทำเศรษฐกิจพังมาห้าปี ตอนนี้เป็นรองเลขานายก ถ้าทำเพื่อประชาชนไม่ได้ก็ออกไป” ปัญหาหนักหนาบนหลังบนบ่าประชากรอยู่ที่

รัฐมนตรีมาช้า มาไม่ทันกันประจำ เช่นกรณีวานนี้วันเดียว จำนวนคนติดเชื้อเพิ่มอีก ๑๘๘ ราย ทำให้ยอดสะสมขึ้นมาระดับ ๖๐๐ ทั้งนี้เพราะเกิดจากการแพร่เชื้อที่สนามมวยลุมพิณีเมื่อ ๖ มีนาคม “เซียนมวยติดไวรัสมาจากคนในครอบครัวซึ่งกลับจากอิตาลี

แพร่ต่อในสนามมวยกว่า ๕๐ คน” ซึ่งกลายเป็น ‘Super Spreaders’ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ แฟนคลับเผยด้วยว่า โควิดสายพันธุ์ย่อยที่อิตาลี่นี่ “ดุร้ายกว่าประเทศอื่นในเอเชีย สามารถเพิ่มจำนวนในปอดได้รวดเร็ว ทำให้แพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นมากขึ้น

และเชื้อนี้เล่นงานปอดอย่างหนัก ทำให้ปอดอักเสบอย่างรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว อัตราการเสียชีวิตจึงสูงมาก” @joe_black317 ช่วยอธิบายสรุปจากที่หมอมนูญชี้ไว้ว่า “ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อ ๔๗,๐๒๑ คน ยอดเสียชีวิต ๔,๐๓๒” เท่ากับอัตราตาย ๘.๖%

แล้วผลของวิธีการแก้ไขแบบไล่ตามหลัง บางทีก็ไล่ไม่ทัน “ปิดเมืองโดยไม่เตรียมพร้อม...พอไม่ปิดประเทศ คนติดเชื้อเพิ่มเท่าตัวรายวันต้องรีบปิดเมือง แต่ไร้มาตรการเยียวยา คนก็กลับบ้านแออัดจน #Covid19 ยิ้ม” @meVnus แย้ป

นี่แหละความ ไร้เดียงสา ทางการบริหารกิจการบ้านเมือง “เมื่อก่อนขายอิฐขายปูน” มาอยู่ สาสุขเพื่อจะขายกัญชา ถึงต้องบีบน้ำตาแก้เกี้ยว ความแออัดตามสถานีขนส่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ฝ่ายโฆษณาการกองทัพ @WassanaNanuam บอกว่า

 
เป็น “ทะลัก ทะเล้น ผลพวงที่คาดไม่ถึง” หลังจาก กทม.ประกาศปิดสถานที่ต่างๆ (๒๖ รายการ) ๒๒ วัน “แถมมหาดไทยสั่งปิดด่าน ๑๘ ด่านชายแดน...เลยแห่กันกลับบ้าน” ทั้งแรงงานชาวลาวล้นหมอชิต ชาวเขมร พม่าท่วมด่าน

ชนิดที่ @MayWongCNA สำนักข่าวจีนรายงานว่า “ลาวกับพม่ายังไม่ปรากฏการติดเชื้อ แต่เขมรมีแล้ว ๔๐ ราย การทะลักกลับภูมิลำเนาเดิมในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้น แน่ใจได้หรือว่าจะไม่มีใครนำไวรัสจากไทยกลับไปด้วย”

โอ้ว ที่จริงน่ะเป็นเรื่องคาดถึงได้อย่างยิ่งนะคุณวาส คือ “แทนที่จะปิดประเทศก่อน แล้วค่อยมาปิดกรุงเทพ แล้วค่อยปิดห้าง scope scale ให้มันแคบลง รัฐนี้แม่งทำตรงกันข้าม” ใช่เลยอย่างที่ @UncleCafe เค้าว่า เพราะที่รัฐไทยทำอยู่นี่เป็น งูกินหาง
 
ที่หวาดเสียวกว่านั้น จากทวี้ตของ Andrew MacGregor Marshall @zenjournalist “ได้รับรายงานว่า มีข้าราชบริพารที่เดินทางจากนครมิวนิคถึงกรุงเทพฯด้วยเที่ยวบิน ทีจี๙๒๕จำนวนนับสิบๆ มีอาการของโคโรน่าไวรัส

จึงต้องกักตัวไว้ที่ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ทั้งนี้พระเจ้าอยู่หัวทรงส่งข้าราชบริพารบางส่วนที่ประจำอยู่ในเยอรมนีกลับประเทศไทย ๑๑๙ คน และพระองค์เสด็จประทับที่โรงแรม Grand Hotel Sonnenbichl

โดยมีนางสนมจำนวนไม่มาก ราว ๒๐ คนยังคงเฝ้าถวายงานอยู่ที่เมือง Garmisch-Partenkirchen ที่ตั้งโรงแรม และคาดว่าพระองค์เองจะเสด็จมาประเทศไทยอีกครั้งในเดือนเมษายน”

*หมายเหตุ 'Covidiot' มาจาก Urban Dictionary ตามความหมายดังนี้...