ดังที่ทราบกันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าขณะนี้
อิตาลีมีมากกว่าจีนแล้ว
สเปนเป็นอีกประเทศที่อัตราการตายอยู่ในแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าห่วง
ประเทศอื่นๆ ในกลุ่มชาติตะวันตกที่ยัง ‘เสี่ยง’ รวมถึงฝรั่งเศส อังกฤษและสหรัฐ กระทั่งรัสเซียและไทยก็ไม่พ้นแนวโน้มเข้าข่ายการระบาดขนาดหนักในเกณฑ์เดียวกัน
หากไม่ใช้มาตรการสกัดกั้นอย่างแรง เช่นปิดประเทศ
ทั้งนี้โดยวัดจากเส้นกร๊าฟฟิคที่นิตยสารไฟแน้นเชียลไทม์นำเสนอในวันนี้
(๒๑ มีนาคม) เนื่องจากอัตราการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งอยู่ในแนวตั้ง
ไม่ได้เข้าสู่แนวราบเหมือนประเทศในเอเซีย อย่างจีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น
ในที่นี้จะพูดถึงสหรัฐเป็นตัวอย่าง “ไม่มีประเทศไหนที่สถานการณ์ระบาดหนักมาถึงจุดนี้แล้ว
ยังมีจำนวนการติดเชื้อพบใหม่พุ่งเร็วอย่างที่เป็นในสหรัฐ” Justin
Wolfers เพิ่งทวี้ตโดยอ้างบทความของไฟแน้นเชียลไทม์
ขณะที่ Ryan Struyk ระบุ @CNN ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐเฉพาะเดือนมีนาคมนี้เพิ่มจาก
๘๙ รายเมื่อวันที่ ๑ มาเป็น ๑๘,๑๘๒ ในวันนี้
เป็นอัตราพุ่งพรวดรวดเร็วมากชนิดสิบวันแรกขึ้นเป็นพัน และสิบวันต่อมาเพิ่มเป็นหมื่น
ปัญหาอย่างหนึ่งในสหรัฐอยู่ที่ไม่ได้มีการตรวจเชื้อกันแต่ต้นๆ
หรือแม้แต่ในขณะนี้ที่ทางการประกาศว่าจะบริการตรวจหาเชื้อให้แก่ประชาชนฟรี
เครื่องตรวจและวัสดุที่ใช้ในการตรวจก็ยังไม่เพียงพอ
แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมากมายของจำนวนผู้ติดเชื้อ
เป็นผลจากการตรวจหาที่ทำได้มากขึ้น ดังรัฐมนตรีสาธารณสุขไทยเอาไปอ้างอย่างสิ้นคิด
ว่าจำนวนเพิ่มเพราะได้ตรวจ แสดงถึงประสิทธิภาพในการตรวจไปซะอีก
อย่างไรก็ดี ข่าวว่าขณะนี้ฝ่ายนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปจัดการงานในขอบข่ายของกระทรวงสาธารณสุขและพาณิชย์
(พรรคภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์) เกี่ยวกับ ‘โควิด-๑๙’
เกือบเต็มที่ (จากโพสต์ของ เอกชัย ไชยนุวัติ @icyremy ที่ว่า
“เหมือนว่านับแต่วันจันทร์ นายกรัฐมนตรียึดอำนาจการบริหารจากสาธารณสุขกับพาณิชย์
กลับมาสั่งการบังคับบัญชาเองทั้งหมด หมอปิยสกล หมออุดม กลับมาลุยเต็มหน้าสื่อ”) โดยที่จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยเพิ่มใหม่
๕๐ ราย รวมเป็นยอดทั้งสิ้น ๓๒๒
ขณะที่จำนวนเฝ้าจับตาดู ๙ พันกว่า เกือบหมื่นราย
และที่เห็นใหม่ๆ จำนวนเกือบพัน นี่เองทำให้เส้นกร๊าฟการติดเชื้อในไทย ‘พุ่งขึ้นในแนวตั้ง’ ไม่สำคัญว่าจำนวนน้อยแค่ไหน
แต่แนวพุ่ง ‘trajectory’ เหมือนสหรัฐ อิตาลี อิหร่าน สเปน
และอังกฤษ
แล้วยังมีประเด็นการนับจำนวนไม่ถ้วนถี่
ไม่ว่าที่ไหนๆ สหรัฐ อังกฤษ รัสเซีย (รายหลังนี่แวดวงนักข่าวไฟแน้นเชียลไทม์ว่าบกพร่องเอามากๆ)
เหมือนกันหมดเช่นเดียวกับไทย ของไทยตามสถิติของกรมควบคุมโรค เมื่อ ๒๐ มีนา
โพสต์ออกมา (ไทยรัฐเอาไปทำภาพกร๊าฟฟิค)
มีคนติง เตือน และค้านกันตรึม @gaew_vannarat
บอก ชลบุรีมี ๖ ราย ไม่ใช่ ๕ โคราชก็ ๓ แล้วค่ะ @bownuni ชี้
แถมด้วยสุรินทร์ ร้อยเอ็ด ลพบุรี แปดริ้ว ปราจีน สุโขทัย อุดร อุบล โคราช ระยอง สงขลา
เพชรบูรณ์ มีทั้งนั้น
ฉะนี้ การที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขปฏิเสธความช่วยเหลือจาก
แจ็ค หม่า ที่เสนอมอบหน้ากากอนามัย ๒ ล้านชิ้น ชุดทดสอบโควิด ๑๙ อีกแสนห้าหน่วย
ชุด ‘พีพีอี’ สำหรับหมอและเจ้าหน้าที่การแพทย์อีก
๒ หมื่น ทั่วประเทศถามกันว่า ‘ใช้อะไรคิด’
เฮียหนูแกบอกว่า “เรารับน้ำใจของแจ็ค หม่า
แต่ขอเพียงให้แจ็ค หม่าใช้คอนเน็กชั่นของแจ็ค หม่า
ติดต่อให้ซัพพลายเชนส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ประเทศไทยได้สั่งซื้อ” เชิดหน้าชูคอว่าฉันยังไม่สิ้นไร้ไม้ตอกนะเธอว์
ฤๅ จะอวดมั่งอวดมีกันแน่
กับนี่ที่ลือๆ กันอยู่เดี๋ยวนี้จากที่
คุณวาส ณ ทบ. ปล่อยคลิปทหารเกณฑ์รับไม้กวาดไปทำความสะอาดมหานครกันขนานใหญ่ อ้างว่าเป็น
‘unsung heroes’ นั้น แท้จริงคือ ‘prequel’
ของการปิดประเทศ ๒๑ วัน ที่อนุทินคุยเสียยกใหญ่
“ถ้าอยากจะมาก็มา เราจะดูแลให้
แต่ถ้าเป็นผมไม่มา จนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย ปิดประตูบ้านหมดแล้ว
กระทรวงมหาดไทยจะปิดบ้านตามแนวชายแดนแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดว่าปิดประเทศ” โธ่ถัง
ประเทศอื่นๆ เขาทำกันมาเป็นอาทิตย์ได้แล้ว
อาการขี้คุยโดยไม่รู้หัวรู้หาง
อย่างที่ทำเนียบขาวอ้างว่า การประกาศห้ามนักท่องเที่ยว (จากยุโรป)
เข้าประเทศตั้งแต่แรกเริ่มทำให้อเมริกาสกัด ‘ไวรัสหวูฮั่น’
(เปลี่ยนจากเรียก ‘ไชนีสไวรัส’ ที่โดนอัดว่าเหยียดเชื้อชาติ) ได้ชงัด
ที่ไหนได้ วงการแพทย์เตือนภัยมาเป็นปีแล้ว
แต่ว่าทั่นทรั้มพ์ไม่สน ไม่แคร์ เพราะมัวแต่ตั้งหน้าจะลบล้าง ‘legacy’
ผลงานรัฐบาลก่อนท่าเดียว
ถึงได้สั่งยุบหน่วยติดตามตรวจสอบโรคระบาดในสำนักงานที่ปรึกษาความมั่นคงชาติไปตั้งแต่เมื่อปีมะโว้
คอยดูแล้วกันระหว่างสหรัฐกับไทย ในอีก ๓
อาทิตย์ข้างหน้า หรือว่า “๑๔ วัน จะดีขึ้น” ตามคำของ รมว.สาธารณสุขไทย อ้าง “ขณะนี้ปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมดแล้ว”
ใครหลุดใครรอด ในเมื่อฝ่ายวิชาการทายทัก หากเอาไม่อยู่ ‘มิคสัญญี’