วันเสาร์, มีนาคม 21, 2563

ฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จากนักเรียนไทยในประเทศลอนดอน ถึงใครก็ได้ที่มีส่วนในประกาศการบินพลเรือน เรื่องการควบคุมโรคจากผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ




ถึง ใครก็ได้ที่มีส่วนในประกาศการบินพลเรือน เรื่องการควบคุมโรคจากผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ

เรื่อง การสาป มาเพื่อสาปเท่านั้น
** เน้นอารมณ์ข้ามไปย่อหน้าสุดท้ายเลยค่ะ **

เราคือนักเรียนไทยในประเทศลอนดอน เป็นคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพกายและใจ รวมทั้งสุขภาพทางการเงิน

เราเข้าใจถึงสถานการณ์การระบาดของโรคและความแตกตื่นต่างๆ กล่าวคือ อัตราการแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นวันละหลักร้อย รวมๆตอนนี้กี่พันไม่รู้ ในขณะที่ประเทศไทยมียอดรวมอย่างเป็นทางการทั้งสิ้นตอนนี้ประมาณ 2-300 ถ้าจะให้พูดเรื่องความประสาทแดก คนไทยที่นี่ไม่เป็นรองคนในประเทศแน่นอน

เราทราบดีถึงความเสี่ยงในการกลับประเทศทั้งต่อตัวเราและต่อสังคมโดยรวม เราพร้อมให้ความร่วมมือในมาตรการกักตัว หรือตรวจโรคที่สนามบิน หรือจะให้เราไปจ่ายค่าตรวจโควิดเองที่ไทยเราก็ไม่ติด

ทั้งหมดนี้เรานับถือใจเจ้าหน้าที่สถานทูตและหมออาสาที่เป็นคนหน้างาน ต้องรับแรงกดดันจากคนที่มารอ คอยอำนวยความสะดวกเท่าที่จะทำได้

ประเด็นใหญ่ที่จะกล่าวถึงมี 2 ประการ ดังนี้

1. ก่อนออกประกาศได้ปรึกษากับสถานทูตแต่ละประเทศหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ในการที่ประชาชนผู้ถือสัญชาติไทย (เข้าออกเมืองอย่างถูกกฎหมาย แต่ซวยอยู่ผิดที่ผิดเวลา) จะสามารถทำตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาได้

2. การสั่งให้คนมารวมกัน ณ สถานทูตเพื่อขอใบรับรอง หรือการให้ประชาชนที่จะเดินทางกลับประเทศภายใน 72 ชั่วโมงไปในพื้นที่เสี่ยงสุดในการติดโรคคือ คลินิคหรือโรงพยาบาลเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในไทยจริงหรือไม่

ข้อเท็จจริงคือ ประกาศลงวันที่ 18 มีนาคม ให้คนในกลุ่มประเทศแพร่ระบาดต้องใช้ใบรับรองแพทย์และใบรับรองจากสถานทูต ประกาศมีผลวันที่ 21 มีนาคม 00.00 น.เวลาไทย

ในทางปฏิบัติ กว่าคนที่นี่จะเถียงกันจบว่าตกลงรวมเรามั้ยวะ สถานทูตก็งง เพราะรู้พร้อมๆกัน (ได้หรอวะ)กว่าสถานทูตจะคอนเฟิร์มว่าเออ รวมหล่อนด้วยย่ะคือ 1 ทุ่มวันที่ 18 ตามเวลาลอนดอน ถามว่าทำไมถึงไม่รู้ว่ารวม เพราะในประกาศมีการระบุชื่อประเทศที่เป็นพื้นที่แพร่ระบาดร้ายแรง แต่ใช้คำรวมในพื้นที่แพร่ระบาดต่อเนื่อง หลายคนเลยเข้าใจว่าไม่มีอังกฤษ

ตัวเราเองเราเรียนกฎหมายมา เราพอจะแปลความภาษาที่ไม่ใช่ภาษาคนนี้ออก และพยายามบอกเพื่อนทุกคนว่ารวมโดยแปะภาพง่อยๆของกรมควบคุมโรคเป็นตัวอ้างอิง และบอกให้คนรอบตัวที่มีไฟล์ทบินยอมจ่ายค่า GP Private ตั้งแต่ก่อนที่สถานทูตจะยืนยัน

จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมา สามารถแยกได้ 3 ปัญหาคือ
1.ใบรับรองแพทย์
รู้หรือไม่ว่าค่าใบรับรองแพทย์โง่ๆที่ไม่ได้ช่วยอะไรที่คุณให้เราไปเสกมาราคาเท่าไหร่...50-150 ปอนด์ หรือเท่ากับ 2000-6000 บาทและในบางเมืองไม่มี GP Private ออกใบให้

fit to fly certificate คือตรวจโควิดหรอ ไม่ใช่นะคะ! หลายคนตอนนี้ก็ยังเข้าใจผิดและไปสื่อสารกับคลินิคผิดทำให้คลินิคไม่ยอมตรวจให้ เป็นแค่การเอาเครื่องวัดอุณหภูมิแหย่หู หายใจให้หมอฟัง และถามว่าไอมั้ย

2. ใบรับรองสถานทูต
ขอทำไม ได้อะไร เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตก็คงคิดว่ามาเพิ่มงานเพิ่มความเสี่ยงให้กูทำไม คนไทยที่ไปรออย่างแออัดเกินร้อยคนเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมง (อันนี้คือเรามีใบรับรองแพทย์ไปเองแล้วด้วยนะคะ คนไม่มีคือรอไปเถอะ มีหมอจำกัดมาก ใครจะไปเสกหมอมาตรวจให้ได้ หมอที่นี่เค้ามีปัญหามากเกินพอแล้ว)

สถานทูตเองไม่สามารถรองรับคนได้ เลยมีการเปลี่ยนวิธีให้ส่ง email เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคน แต่ก็ต้องไปเสกใบรับรองแพทย์มาอยู่ดี ดังนั้นคนที่มาแล้วก็ยืนกันไป

3. การสื่อสาร
ทุกข้อมูลที่เราได้มาเป็นข้อมูลจากกลุ่มแชทค่ะ ต้องบอกต่อๆกันไปเอง มันตลกสุดตรงไหนรู้มั้ยคะ ตอนเรายืนรออยู่หน้าสถานทูต เจ้าหน้าที่ให้เราไปหาประกาศใหม่ลงวันที่ 19 มีนาคมเอง ทุกคนตรงนั้นก็ไถจอค่ะ พอใครได้มาโหลดแล้ว airdrop ต่อๆกันไปค่ะ บุญบาป ขอบคุณ apple มา ณ ที่นี้

ส่วนตัวเรามีไฟล์ทบินวันที่ 20 มีนาคม หลังจากอ่านประกาศแล้วเราก็เอะใจแล้วว่าใช้บังคับวันที่ 22 มีนาคม แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงจัดแถวแบ่งวันเพื่อขอใบรับรองแพทย์ เราซึ่งยืนมาพักใหญ่มากแล้วก็รู้สึกว่ายังไงกูก็ต้องได้อีใบรับรองบ้านี่กลับไปก็เลยยืนต่อ

เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่บอกใครกลับ 20 กลับบ้านได้เลย ประกาศเลื่อนวันบังคับ และเราได้เอกสารคืนในเวลา 15.00 น. รวมเวลาทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง ทั้งนี้เน้นอีกครั้งว่านี่เอาใบรับรองแพทย์ไปเองด้วยนะคะ

4. ความรับผิดชอบในความเสียหายที่อาจคำนวณเป็นเงินได้
หลังจากการประกาศเชิญกลับบ้าน เกิดคำถามและการคำนวณในหัวขึ้น..แล้วเงินค่าหมอกูล่ะใครจะรับผิดชอบ ไม่นับรวมความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการที่เราต้องมายืนหน้าสถานทูตและหากติดเชื้อจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมภายหลัง

เพื่อนหลายคนที่มีไฟล์ทบินตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ต้องยอมทิ้งตั๋วแล้วจองตั๋วกลับวันที่ 19 เพราะไม่สามารถหาใบรับรองแพทย์ได้ หรือไม่สามารถมาขอใบรับรองจากสถานทูตได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นผลจากประกาศลงวันที่ 18 มีนาคมซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า มาตรการที่รัฐออกมาคล้ายการกีดกันผู้ถือสัญชาติไม่ให้เข้าประเทศ ไม่ใช่ห้ามเด็ดขาดแต่ทำให้มันยาก ผลักภาระมาแบบไม่สนสี่สนแปด

ถ้าไม่มีเงินซื้อใบรับรองแพทย์ต้องทำไงคะ ตอบให้ก็คือไปลุ้นรวมๆในสถานที่ที่สถานทูตจัด รอไป แล้วถ้าไม่อยู่ในลอนดอนล่ะต้องทำไงดี

ถ้าไม่มีเงินซื้อตั๋วใหม่ต้องทำยังไง ตอบคือ ก็ไม่ต้องกลับ

นี่แค่ประเทศเดียวนะคะ แล้วในประเทศอื่นอีกเท่าไหร่ คุณคิดว่ามีคนได้รับผลกระทบจากการคิดน้อยนี้กี่คนคะ ซึ่งแน่นอนค่ะ จะไม่มีผู้รับผิดชอบใดๆจากเรื่องนี้

ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha
CAAT - The Civil Aviation Authority of Thailand

--------------------------

ขอปิดท้ายนะคะ ฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

อ่ะ อิดอก ทำงานหาเงินได้กูจ่ายภาษีไม่เคยงอแงซักบาท แล้วไง ตอนนี้กูพึ่งพาห่าเหวอะไรจากรัฐได้บ้าง ไม่มี ไม่เคย ประกาศนี่ก็ออกเก่ง เปลี่ยนเก่ง อีลูกช่างจัดแจง สั่งวันนี้จะเอาพรุ่งนี้ บ่ายมาเปลี่ยนใจกูไม่เอาละ สั่งงานถามเพื่อนบ้างมั้ยหรือคุยกับแม่ซื้ออย่างเดียว เงินนี่แม่งสะพัดจนกูว่าการบินไทยเลิกล้มละลายได้เพราะนักเรียนไทยเปลี่ยนตั๋วแล้วอีควาย

ความชัดเจน มั่นคง ปลอดภัย ไม่เคยมีให้กู ซื้อเก่งรถถังห่าเหวอะไรทั้งหลายทั้งปวง มึงเอาไปเลหลังขายเศษแล้วเอามาให้บุคคลากรทางการแพทย์ นักวิจัยเหอะ ทำอะไรได้มั้ยล่ะรถถัง เรือเหาะมึงตอนนี้อะ หน้ากากไม่มีจะใช้มีแต่ปืนกับรถถัง

เก่งค่ะเรื่องหาแอร์ไทม์ เสนอหน้าทำอะไรเสล่อๆ มึงมาจัดการเรื่องที่ต้องทำก่อนค่ะ ขอยาดด่าฝากไปถึงทุกหน่วยงาน เพราะมั่นใจว่าไม่ใช่แค่การบินพลเรือนนึกเหงาเลยออกประกาศแน่นอน เดี๋ยวนึกได้มาด่าต่อ

—————————————

มาภาคสองให้จ้ะ อันนี้มอบแด่เหล่าเพื่อนร่วมชาติ

อย่างงี้นะคะ เราเข้าใจว่าทุกคนรักตัวกลัวตายกลัวไวรัสจะแพร่ไปโดนตัวเลยมีคนบางส่วนบอกว่าไม่ต้องให้เข้าประเทศ

อ่ะ เรามาดูสภาพความเป็นจริงในวันนี้ตามคลิปนะคะ ถ้าเป็นคุณ อยู่ไกลบ้าน ไกลครอบครัว มันไม่มีจะกินค่ะ จะให้อยู่ยังไง ยังจะอยู่มั้ยคะ ถ้าเป็นลูกเป็นหลานคุณ ยังจะให้อยู่มั้ยคะ ไม่รู้จะติดโรคก่อนหรือเป็นบ้าก่อน ถามใจแล้วตอบตัวเองค่ะ ไม่ต้องถามยาวไปว่ารัฐจะช่วยเหลืออะไรคนไทยในต่างประเทศมั้ย

มาต่อค่ะ ทำไมไม่ตุนอาหาร..ตุนค่ะ ตุนมาเป็นเดือนแล้ว แล้วตอบได้มั้ยคะว่าเมื่อไหร่มันจะจบ ต้องตุนเท่าไหร่มันถึงจะพอ ตัวคุณเองคนติดสามร้อยคุณยังไม่อยากออกจากบ้าน คุณว่าในประเทศที่มันระบาดเป็นพันจะใช้ชีวิตยังไง

อ่ะ ให้อีกเรื่อง ลุงป้าที่กระแนะกระแหนว่าอยากไปเอง จะมางอแง ลูกคุณหนูขี้วีน ให้กลับตั้งนานทำไมไม่กลับ
ใช่ค่ะ อยากมาเอง อยากมามากด้วย แล้วก็ใช่ค่ะ ขี้วีน วีนได้กว่านี้อีกเยอะมากค่ะ นี่พูดดีมากแล้วนะคะ พูดด้วยเหตุผลทุกอย่าง ตัวคุณ คุณยังรักยังห่วงตัวเองจะเป็นโรค แล้วทำไมทีกับคนอื่นคุณถึงยัดเยียดให้อยู่ทนไป

แล้วจะบอกให้นะคะ คนที่ได้รับผลกระทบหนักจริงๆไม่ใช่พวกลูกคุณหนูหรอกค่ะ แต่เป็นคนที่เค้าได้ทุน คนทำงาน คนที่ดิ้นรนเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น แล้วถึงใครจะรวย จน ลูกคุณหนู ขี้วีนหรือไม่ รัฐก็ไม่มีสิทธิอิ๊กนอร์ค่ะ

สำหรับนักเรียนช่วงนี้คือช่วงจะสอบค่ะ แต่ละมหาลัยแต่ละคณะพึ่งออกประกาศมาได้ไม่นาน การตัดสินใจทิ้งหออีกครึ่งปีเป็นเงิน 300,000 กว่าบาท (ค่าหอเราอาทิตย์ละ £330 จ่ายรายปี คนอื่นอาจจะถูกแพงต่างกัน) ไม่ง่ายค่ะ ไหนจะต้องมาคิดว่าไปแล้วจะกลับมาอีกมั้ย ของต้องเก็บเดี๋ยวนี้ เหมือนหนีสงครามค่ะ คนแพนิคแย่งกันซื้อตั๋ว คุณรู้บ้างมั้ยคะว่าบางวันตั๋วการบินไทยชั้นประหยัดเด้งไปเกิน 50,000 บาท

สิ่งที่รัฐควรทำคือบอกว่า พวกมึงอย่าเข้ามา แต่ก็ไม่มีมาตรการช่วยเหลืออะไร งั้นแค่เครื่องบินบินพ้นน่านฟ้าไทย สิทธิพลเมืองก็สิ้นสุดหรอ?!

เดี๋ยวถึงไทยแล้วมาต่อให้ค่ะว่ามาตรการรัฐในการคัดกรองเข้มข้นขนาดไหน






..

เงื่อนไขคนไทยกลับประเทศ เปลี่ยนได้แล้ว คนเดือดร้อนกันทั่ว
Chaturon Chaisang