วันอังคาร, มีนาคม 31, 2563

รู้แระ ที่การสู้ไวรัสไล่ไม่ทันโควิด เพราะ "ผู้ใหญ่กังวล" และ "กลัวผู้ใหญ่จะว่า"


ดังที่แอนดรูว์ โคโม ผู้ว่าฯ นิวยอร์ค บอกน่ะนะ ไม่ใช่เวลาที่จะพะวงกับการเมืองในเวลานี้* (ไม่จำเป็นต้องจ้องหาเสียงไปทุกจังหวะก้าว เหมือนรัฐบาลไทย –ผู้เขียน) ขนาดต้องหยุดรายงานข่าวไฟไหม้หนักที่เชียงใหม่ เพราะทำให้ “ผู้ใหญ่กังวล”

จากโพสต์บนเพจ I Green เมื่อวาน “มีคำสั่งด่วน! จากส่วนราชการในเชียงใหม่ ห้ามเผยแพร่ภาพมุมสูงไฟป่าในทุกพื้นที่และทุกกรณี ทีมโดรนอาสาฯ แจ้งรองผู้ว่าฯ ขอถอนตัวจากภารกิจ...เพื่อให้ราชการสบายใจ”

หลังจาก ผู้ใหญ่ บอกว่าเห็นภาพมุมสูงจากโดรนแล้ว “กังวลกับความรุนแรงของภาพ” จากนั้น “ได้มีการตั้งด่านสกัดไม่ให้ทีมโดรนอาสาเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ” นัยว่า “สื่อมวลชนแขนงอื่นๆ นำไปเสนอต่อนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่”
 
บทความวิเคราะห์ความน่าจะเป็น ที่ทีมโดรนและหน่วยงานเกี่ยวข้องในกลุ่ม บินดับไฟดอยสุเทพโดนห้าม เพราะ “ภาพไฟเหล่านั้นมันฟ้องว่า นั่นคือความล้มเหลวในการแก้ปัญหา” และ “เป็นแนวทางการซุกขยะไว้ใต้พรม หรือปกป้องหน้าตาของผู้ใหญ่บางคนที่ไร้ประสิทธิภาพ”

อีกข้อ “(บางคนอ้าง) อาจมีผู้ไม่หวังดีนำภาพไปเรี่ยไรขอรับบริจาคหรือหาประโยชน์อื่น” นั่นอาจเนื่องจาก วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักเขียนและพิธีกรชื่อดัง เปิดรับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่าที่เชียงใหม่ แล้วถูกตำรวจนายหนึ่งโทรศัพท์ไปสั่งห้าม

“โดยบอกว่าเป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่...ตั้งข้อสงสัยว่าผมได้เอาชื่ออุทยานมาอ้างเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาคอย่างไม่โปร่งใสหรือไม่...แจ้งว่าการเรี่ยไรเงินบริจาคและการกระจายเงินกันเองโดยภาคประชาชน เป็นเรื่องไม่สมควรทำ”
สิงห์ลูกชายเสกสรรค์ เขียนเล่าเหตุการณ์เพื่อแจงว่า “ได้รับการติดต่อจากผู้ว่าเชียงใหม่แล้วว่าไม่ได้สั่งการมา เลยกำลังสอบสวนอยู่ว่าเรื่องมันเป็นยังไง ตำรวจท่านนั้นทำงานตามคำสั่งใคร” ลงท้าย ทราบแล้วตำรวจที่โทรมาหาเขาเป็นใคร

นั่นก็แบบเดียวกับที่มีการสั่งภายใน ห้ามโรงพยาบาลและบุคคลากรการแพทย์โพสต์ขอรับบริจาคอุปกรณ์ป้องกันและต่อสู้เชื้อไวรัส เช่นที่ผู้ใช้นาม Jerng Wichak Kanchanauthai เขียนบ่น “น้องๆ แผนกอายุรกรรมหลายคนโทรมาปรึกษา โทรมาระบาย

ถึงความไม่พร้อมในการดูแลผู้ป่วย เราขาดอาวุธครับ ทุกๆ คนรับรู้บ้างมั้ย...ผู้บริหารบางคนไม่เคยช่วยอะไรเลย นอกจากมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำไปวันวัน...ผมเห็นใจท่าน ผอ.มากนะครับ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขอบริจาคก็โดนกดดันอย่างหนักให้ปิดบัญชี ปิดการรับของ”

อีกราย ‘1412 Cardiology’ ว่า “เค้าไม่กล้าโพสต์กันเพราะกลัวผู้ใหญ่จะว่า กลัวจะโดนเรียกไปคุย โทรมาหา และสั่งให้ลบ...ความจริงคือโรงพยาบาลรัฐ รวมถึงโรงเรียนแพทย์หลายแห่ง ตอนนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐแต่อย่างใดเลย”

จึงต้องให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกมาแถลงแก้ไข “ก็เห็นด้วยที่ต้องสนับสนุนให้เพียงพอ ขาดเหลืออะไร หากเขาหาของในท้องตลาดไม่ได้ เราก็ต้องสนับสนุนให้เต็มที่ ก็สามารถบริจาค ผ่านศูนย์โควิด หรือ ผอ.โรงพยาบาลต่างๆ”


นี่แหละวิธีการบริหารแบบจักรพรรดิ เอาตัวเองเป็นที่ตั้งไว้ก่อน นึกอะไรก็โพล่งออกไป พอดูคลิปไฟไหม้หวาดเสียวก็สั่งห้ามฉาย หรือพอเห็นผู้ว่าฯ คนหนึ่งทำได้ดีก็นึกว่าจะมาแข่งบารมี ผู้นำปากเสีย ปากพล่อย ส่ายปากหาส้น ให้มันเสียกระบวนนั่นละ
 
*(หมายเหตุ –แอนดรูว์ตอบข้อซักถามที่ว่าประธานาธิบดีพูดถึงตน-จะเป็นคู่ชิงดีกว่าโจ ไบเด็น-ก็ขอบใจ และเรื่องโรงเก็บอุปกรณ์การแพทย์ในนิวเจอร์ซี่ย์ที่ทรั้มพ์แซะ ก็เพื่อมาตรการต่อสู้เมื่อถึงขีดสุดต้องพร้อมนำออกมาใช้ได้ทันที ถ้าอยากจะกล่าวโทษก็ว่ามา

ขณะที่ในการแถลงความคืบหน้ากรณีการระบาดของไวรัส ทรั้มพ์ได้เชิญซีอีโอของบริษัท มายพิลโล่ผู้ผลิตหน้ากากอนามัย ขายให้ไปโฆษณาฟรีสรรพคุณการผลิตของตน จากที่เคยได้แสนชิ้นต่อวัน เดี๋ยวนี้ ๒ แสน ต่อไปจะได้ ๕ แสน

นอกจากนั้นยังกล่าวชื่นชมทรั้มพ์ว่าเป็นผู้นำเยี่ยมยอดในการต่อสู้ โคโรน่าข่าวโพลิติโกระบุว่าเขาบอกกับพนักงาน ประธานาธิบดีหนุนให้เขาลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา “เพื่อให้มินเนโซต้าเป็น แดง–รีพับลิกัน- ต่อไปหลังการเลือกตั้ง ๒๐๒๐)