ตอนนี้ใครคือวีรบุรุษตัวจริง
1.พนักงานเก็บขยะ พวกเขาทำงานหนักมากขึ้นเพราะการเก็บตัวอยู่บ้านทำให้อัตราการบริโภคส่วนบุคคลสูงขึ้น คนกลุ่มนี้บางกลุ่มเป็นการจ้างเหมา จ้างรายวัน ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน ค่าจ้างเท่าค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่มีโบนัส เลื่อนขั้น ครบปีเลิกจ้างสัญญาใหม่ แต่คนกลุ่มนี้คือด่านหน้าของเรา
2.บุคลากรสาธารณสุขไม่ได้มีแค่หมอ แต่รวมถึง พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล นักเทคนิกการแพทย์ คนกลุ่มนี้ในยามปกติ ทุกรัฐบาลประวิงเวลาที่จะบรรจุพยาบาลที่ขาดแคลน อ้างว่าไม่มีเงิน พยาบาลทำงานหนักมาก ส่วนผู้ช่วยพยาบาลต้องทำงานวันละเกิน 12 ชั่วโมง เพื่อรายได้ 20,000 บาท/เดือน เราควรลดนายพล นายพัน และเพิ่มพยาบาลได้แล้ว
3.พนักงานส่งวัสดุผ่าน platform รายได้ไม่แน่นอน ลงทุนทุกอย่างเอง บริษัทพวกนี้กินส่วนต่างง่ายๆ พนักงานส่งรับความเสี่ยงจากโรค เพราะเจอผู้คนมากมาย เราควรรณรงค์ให้พวกเขาสามารถตั้งสหภาพได้ตามกฎหมาย และให้บริษัท platform เลิกตั้ง algorithm ที่กดขี่พวกเขาราวกับเป็นทาส
4.สหภาพแรงงาน ในยามวิกฤติ สหภาพจะเหลือง แดง ส้ม แต่คือผู้ที่จะพยายามรักษางานให้แก่พนักงาน ป้องกันการกดขี่ขูดรีด ยามนี้บริษัทไหนมีสหภาพแรงงานย่อมอุ่นใจกว่า เพราะการบังคับลาออก หรือเซ็นอะไรที่กดขี่ผู้ใช้แรงงานย่อมเกิดน้อย กว่า 'บริษัทนายจ้างใจดีทรงศีลธรรมเป็นพี่น้อง' ถึงเวลาจริงๆมันก็ตัดญาติอย่างไม่สนใจ ถ้าไม่มีสหภาพค้ำคอ
วันนี้เป็นโอกาสที่เราจะสนับสนุนคนเหล่านี้ด้วยการสร้างรัฐสวัสดิการและปฏิรูปกฎหมายแรงงาน ยกเลิกพนักงานรายวันเพิ่มความมั่นคงเป็นพนักงานรายเดือน
คนที่ค้ำจุนประเทศยามวิกฤติคือพวกเขาเหล่านี้ หาใช่พวกเจ้าสัวเหลือบไร พวกนักเทศน์ศีลธรรม หรือพวก CEO หรือทุนการเงินที่ดีแต่นั่งนับเงิน
ขณะนี้ พรบ. แรงงานฉบับ (อดีต) พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้เสนอโดยปีกแรงงานเข้าสู่ขั้นตอนเปิดรับฟังสาธารณะโดยรัฐสภาแล้ว นับเป็นกฎหมายฉบับเดียวของอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่อยู่ในกระบวนนี้
เราสามารถช่วยให้การทำงานของคนที่แบกรับสังคมต่างๆดีขึ้นได้ด้วยการสนับสนุน ให้ พรบ.ฉบับนี้ผ่านสภาฯโดยไวครับ
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=65525&filename=Section_77
รูปไม่เกี่ยวกับ พรบ. แต่สองคนนี้คือ สส สองชื่อแรกที่ลงนามยื่น พรบ.แรงงาน ฉบับใหม่ครับ