วันจันทร์, มีนาคม 30, 2563

หน่วงเหนี่ยวอย่างไรคงไม่อยู่ จะกู้สองแสนล้านทั้งที่โยกโอนงบฯ ปัจจุบันได้พอ


ทั้งฝ่ายค้านและพวก ไม่เชิง แฟนคลับประยุทธ์ พยายามเหนี่ยวรั้งอย่าเพิ่งด่วน กู้เงินสองแสนล้าน ล้วนแนะให้ผันงบประมาณส่วนยังไม่จำเป็นต่างๆ มาใช้ก่อน น่าจะได้แล้วสองสามแสนล้าน แต่ดูท่ารัฐบาลไม่ฟังอย่างเคย

ในการประชุม ครม.เมื่อ ๒๔ มีนา มีมติออกมาให้ปรับปรุงรายละเอียดในการใช้จ่ายงบประมาณบางกระทรวงเพื่อการต่อสู้กับโคโรน่าไวรัส กระทรวงที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการนี้บางแห่ง เช่น มหาดไทย คลัง และคมนาคม ได้รับการปรับเพิ่มรวมกัน ๕ พันกว่าล้าน

กระทรวงสำคัญที่เป็นด่านหน้าอย่าง สาธารณสุข พัฒนาสังคมฯ เกษตรฯ และแรงงาน ไม่มีการปรับเพิ่มแต่อย่างใด เป็นสัญญานว่าการสร้างหนี้ใหม่มาแน่ ส่วนจะเป็นกู้จากไอเอ็มเอฟ ที่ประชาชนหวาดผวาเพราะตราบาปครั้งก่อนยังมีแผลเป็นตำตา หรือไม่เดี๋ยวรู้

งบประมาณปี ๖๔ แม้จะวางงบกลางไว้สูงถึง ๕ แสน ๗ หมื่น ๔ พันล้าน ก็ทำอะไรไม่ได้เท่าไรนัก ในเมื่อรัฐบาลประยุทธ์จัดเตรียมนำออกมาใช้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ส่วนงบกลางปีนี้ที่คนถามหา ก็แจกแถมโดยไม่ก่อผลกระตุ้นภายในระบบเศรษฐกิจ ไปแล้วเยอะ

ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคก้าวไกลเข้าไปสอดส่องดูงบกลางปี ๒๕๖๓ จำนวนร่วม ๕๒๐,๐๐๐ ล้านนั้นพบว่า ส่วนใหญ่จัดสรรไว้เกือบหมดแล้วสำหรับสวัสดิการ เบี้ยหวัดและบำนาญของข้าราชการ เหลือวงเงินเพื่อการฉุกเฉินเพียง ๙๖,๐๐๐ ล้านบาท

แต่อนิจจังของสังคมไทย เงินส่วนนั้นก็ถูกใช้ไปแล้ว ๙๔,๐๐๐ ล้านเช่นกันภายในระยะ ๖ เดือนที่ผ่านมา แน่ละรวมถึงจำนวน ๔๕,๐๐๐ ล้านสำหรับโครงการ #เราไม่ทิ้งกัน ที่ไม่พอแน่ๆ เพราะมีผู้ลงทะเบียนมากกว่ากำหนดเดิมหลายเท่า จาก ๓ ล้านเป็น ๑๐ ล้านคน
ศิริกัญญาชี้ว่ายังมี “เงินสำรองอีกก๊อกที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ” ราว ๕ หมื่นล้านบาท ที่จะเอามาใช้เป็นก๊อก ๒ ไว้สู้ โควิด-๑๙ ได้ ซึ่งก็ยังจิ๊บจ้อยสำหรับวิกฤตยักษ์ครั้งนี้ ที่นักวิชาการบางคน เช่น อนุสรณ์ ธรรมใจ บอกว่าสองแสนล้านไม่มีทางพอ ต้องมากกว่านั้น

ส.ส.หญิงฝ่ายค้านผู้นี้แนะให้ “โยกงบประมาณจากหน่วยงานที่ไม่ได้มีภารกิจแก้ปัญหาโควิด-๑๙ โดยตรง มาไว้ที่งบกลางหรือกระทรวงสาธารณสุข ตามความจำเป็นและความสะดวกในการใช้” ในขณะที่งบกลางขณะนี้เหลืออยู่เพียง ๓๓๐,๐๐๐ ล้าน

และยังมีภาระอื่นๆ เช่น ภัยแล้ง ฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ และไฟป่าในภาคเหนือ (ที่กำลังไหม้ใกล้ถึงดอยสุเทพเวลานี้)* ทำให้เหลือเงินงบกลางที่จะโยกไปให้การต่อสู้โควิดแค่ ๘ หมื่นล้าน หรืออย่างเก่งถึงแสนเดียว เธอแนะว่าโอนส่วนนี้มาใช้เฉพาะหน้าเสียก่อน
 
*เรื่องไฟป่าเชียงใหม่ที่ไหม้มาหลายวันแล้วนี่ “คืนนี้ (๒๙ มี.ค.๖๓) ไฟยังคงไหม้และลุกลาม ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง” Kowit_Boondham @kowit_ThaiPBS รายงานว่าใกล้วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เข้าไปแล้ว มิหนำซ้ำทำให้ค่า พีเอ็ม๒.๕ ถีบขึ้นไปทะลุพัน

เช่นเดียวกัน เลขาธิการพรรคเพื่อไทยออกความเห็นว่ารัฐบาล “ควรใช้เงินในกระเป๋าตัวเองก่อนดีกว่าหรือไม่” ด้วยการนำงบกลางที่ยังเหลืออยู่บวกกับชะลอการใช้จ่ายงบประมาณปี ๖๓ ที่ยังไม่จำเป็นเร่งด่วน เอามาสมทบสู้โควิด น่าจะได้เกือบสองแสนล้าน

ด้านคนในรัฐบาลที่เหยียบแคม ไซ้ด์ไลน์ ไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด อย่างเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เห็นด้วยกับ “ข้อเสนอให้กันงบประมาณแผ่นดินมาสู้กับไวรัสโควิด-๑๙” โดยเฉพาะ “ที่ต้องการให้นำงบลงทุนของกระทรวงกลาโหมมาใช้เยียวยาทางด้านเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาเชื้อไวรัส”
 
ส่วนนักวิชาการ อย่าง รศ.ยุทธพร อิสรชัย สาขารัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช เห็นว่าการที่รัฐจะกู้ถึง ๒ แสนล้าน “เยอะพอสมควร เพราะอันที่จริงยังมีกลไกอื่นๆ ที่จะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน ซึ่งเราก็ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่”

เขามีความห่วงใยตรงที่กู้มาแล้ว จะต้องไม่กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจในแบบเดิม “ที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนและระบบราชการ” และ “การตอบสนองต่อประชาชนก็จะได้รับความสำคัญน้อยกว่า” อันจะทำให้ยังมีอาการรวยกระจุกจนกระจายอยู่ ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก


นั่นถ้าจะเรียกว่าเป็นความไร้เดียงสาทางการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ติดต่อกันมา ๕-๖ ปี ก็ไม่ผิดหรอก แต่จะทำตัวเป็นเฒ่าทารกต่อไปในสถานการณ์โควิดอีกอย่างน้อยๆ ปีกว่า แก้ผ้าเอาหน้ารอด ใช้หมดก็กู้ใหม่ ทั้งที่ผ่านมาไม่ได้ผล มันไม่เคยตัวไปหน่อยเหรอ