เมื่อวันก่อน ‘อนุทิน’ คุยโอ้ รัฐบาลจะแจกฟรีหน้ากากอนามัยให้ประชาชนวันละเป็นแสน
หวังว่าเรื่องที่อุบไว้เอามาเปิดวันนี้ (ที่ ๒ มีนา) คงน่าฟังกว่านะ เพราะมีคนบ่นกันมามากแล้วว่าไม่ต้องแจกก็ได้
ขอได้มีจำหน่ายในราคาปกติตามสถานที่เคยขายก็พอ
พอขึ้นเดือนมีนาก็เริ่มระงมว่าหน้ากากอนามัยขาดตลาด
หาซื้อที่ไหนไม่ได้เลย ไล่หลังแบบหายใจรดต้นคอกับประกาศทางการ
มีผู้เสียชีวิตจากอาการเกี่ยวเนื่องกับการระบาดของไวรัสโคโรน่า แล้ว ๑ ราย
เป็นชายวัย ๓๕ ปี
ชายผู้นี้ทำงานเกี่ยวเนื่องกับความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส
แต่เขาล้มป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และต่อมาตรวจพบว่ามีเชื้อ ‘COVID19’ แต่ก็มีอาการกระเตื้องและไม่พบเชื้อในร่างตั้งแต่วันที่ ๑๖
กุมภาเป็นต้นมา แพทย์แจ้งว่าเขาเสียชีวิตเพราะปอดและอวัยวะภายในหลายอย่างหยุดทำงาน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย
อธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยด้วยว่า ยังมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งทำงานเกี่ยวข้องนักท่องเที่ยวอีกหนึ่งราย
ที่ป่วยหนักมากด้วยอาการแทรกของวัณโรค และผู้ป่วยรายล่าสุดเป็นไกด์ทัวร์ชายวัย ๒๑
ปี ท่ามกลางจำนวนคนติดเชื้อทั้งหมดขณะนี้ ๔๙ ราย
ท่ามกลางความวิตกและตระหนกของประชาชนว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมการระบาดของ
‘โควิด ๑๙’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
แม้นว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล
จะแถลงว่ายารักษาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากจีนมาถึงแล้วก็ตาม
(ในสหรัฐหลังจากผู้ป่วยรายแรกเสียชีวิตที่เคิร์กแลนด์
รัฐวอชิงตัน มีข่าวลือเล็ดลอดออกมาว่า ยารักษาไวรัสโคโรน่าที่แพทย์อเมริกันค้นพบและเตรียมเก็บสะสมไว้หากเกิดการระบาดขนาดร้ายแรงถึงขั้น
‘pandemic’ ก็คือยารักษาโรคมาเลเรีย นั่นเอง)
อย่างไรก็ดีในประเทศไทยกำลังเผชิญการขาดแคลนอย่างหนัก
ของหน้ากากอนามัยที่จะใช้ป้องกันการแพร่เชื้อขั้นปฐมภูมิ
สมาคมโรงพยาบาลเอกชนทำหนังสือร้องต่อ
รมว.สาธารณสุขว่าปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยนี้ “เข้าขั้นวิกฤต” แล้ว
เว็บไซ้ท์ HFocus.org ระบุว่าการขาดแคลนนี้เกิดจาก “เหตุผู้ผลิตต้องส่งให้กรมการค้าภายในเท่านั้น”
ทำให้มีการวิพากษ์กันอย่างหนักหน่วง เช่น @TeehenPenU ทวี้ตอ้างว่า
“หน้ากากอนามัยที่ควรส่งให้โรงพยาบาลก่อน ถูกกรมการค้าภายใน สต็อกไป ๓๐ ล้านชิ้น”
โดยมี @ppondsvc อ้างเป็นผู้ผลิตเสริมว่า
“ครึ่งหนึ่งต้องแบ่งให้กรมการค้าภายใน...ราคาที่เราขายให้รัฐคือชิ้นละ ๒ บาท...สำหรับราคาตลาดตอนนี้
ไทยชิ้นละ ๑๔ บาทอย่างต่ำ...ธงฟ้าประชารัฐเอาไปขายชิ้นละ ๒.๕๐ บาท”
ผู้ผลิตรายนี้อ้างด้วยว่า “วัตถุดิบในการผลิตส่วนใหญ่มาจากจีน ตอนนี้หมดแล้ว
การนำเข้าหน้ากากคือจ่ายส่วยในท่าเรือตลอดทาง...โรงงานผลิตหน้ากากทำได้แค่ผลิตไปจนกว่าจะหมดแล้วพอ
เพราะยิ่งผลิตยิ่งขาดทุน”
ด้าน NICOLAS F. ANGELO “ยืนยันอีกเสียง ใครผลิต ใครครอบครอง ต้องแบ่งครึ่งนึงมาขายให้กรมฯ
ในราคาไม่เกิน ๒ บาท แต่สงสัยมากว่ารับซื้อเยอะขนาดนี้แล้วเอาไปไหน” คำตอบก็คือ “เพื่อส่งไปให้คนกลางรายใหญ่
อันได้แก่ 7-11 และ ศูนย์การค้าของกลุ่มทุนผูกขาด”
‘กบนอกกะลา’ บัญชีเฟชบุ๊คที่ให้ความรู้และข่าวสารเกี่ยวกับเชื้อไวรัส
‘COVID19’ มาอย่างต่อเนื่อง ให้ข้อมูลว่า “ตอนนี้กรมการค้าภายในเตรียมส่งขายหน้ากากอนามัย
๔ ชิ้นต่อ ๑๐ บาท และขายที่ร้านสะดวกซื้อ...อย่าง เซเว่น บิ๊กซี โลตัส
และร้านธงฟ้า
...และมั่นใจได้ว่าหน้ากากอนามัยจะเพียงพอต่อความต้องการ...โดยกระจายให้ประชาชนได้สัปดาห์ละ
๓ ล้านชิ้น หรือวันละ ๕ แสนชิ้นนั่นเอง”
ดูแล้วรัฐบาลและ ‘อนุทิน’ จัดการแก้ปัญหาได้ไม่เลวในระดับเฉพาะหน้า
ตราบเท่าที่จำนวนผู้ติดเชื้อและป่วยไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น
และอิตาลี ข้อสำคัญถ้าไม่มีการหมกเม็ดใดๆ เหมือนกรณี ‘แป้งมัน’ ไปขายออสเตรเลีย หรือ 1MDB
แต่กระนั้นไม่วายมีเลศลมคมนัยอย่างไรอยู่ เช่นวันนี้
ราชกิจจาฯ ออกประกาศศาลปกครอง “ห้ามเดินทางไป ๑๑ ประเทศที่เสี่ยง ‘โควิด-๑๙’ (ได้แก่) ๑.เกาหลีใต้ ๒.ไต้หวัน ๓.จีน ๔.มาเก๊า
๕.ฮ่องกง ๖.ญี่ปุ่น ๗.มาเลเซีย ๘.เวียดนาม ๙.สิงคโปร์ ๑๐.อิตาลี ๑๑.อิหร่าน”
แต่ยังไม่มีการห้ามนักท่องเที่ยวจาก ๑๑ ประเทศนั้นเข้าไทย
เปรียบเปรยอย่างเบาะๆ ก็เหมือน ‘ตบมือข้างเดียว’ มันจะได้เรื่องอันใด มิหนำซ้ำ “Something is not right in
#Thailand.” บัญชีทวิตเตอร์ @disclosetv สงสัย
“ไม่เห็นค่อยมีข่าวการติดเชื้อ โควิด ๑๙ รายใหม่ๆ (เขาให้ตัวเลขเมื่อ
๒๙ กุมภา ว่ามีแค่ ๔๑ ราย) แต่ว่าเวลานี้จำนวนผู้ป่วย ‘viral
pneumonia’ กลับพุ่งปรี๊ด ๒,๕๐๐ และบวก” เขาเปรียบเปรย
(บังเอิญคล้ายการเมืองไทย) ด้วยว่า
“แต่งหน้า ‘งูเห่า’ ได้ก็เอาละ
แต่มันก็ยังเป็นงูเห่าอยู่นั่นเอง” นี่สิ ไม่บอกเป็นโควิดหรือโคโรน่า
แต่มันคือโรคปอดบวมที่เกิดจากเชื้อไวรัสน่ะ งูเห่าภูมิใจไทยแอบไปแต่งหน้าเป็นอนาคตใหม่หรือเปล่า