จากข่าวเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ทำการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ว่าตั้งแต่วันนี้(10 มีนาคม 2563) เจลล้างมือที่แอลกอฮอลล์ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นสินค้าที่ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า หรือขาย
ผมในฐานะส.ส. เท่าพิภพ ผู้มีหน้าตาที่เป็นซิกเนเจอร์เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ จึงขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยนะครับ
คือตอนนี้
อย่างแรก คือแอลกอฮอล์ที่ใช้ผลิตเจลล้างมือนี่ เริ่มขาดตลาดแล้วนะครับ
และไม่ได้ขาดตลาดแค่แอลกอฮอล์นะครับ จากการลงพื้นที่มาตามร้านขายยา ขนาดบรรจุภัณฑ์ สั่งจากโรงงานเดียวกัน ล็อตเดียวกัน ยังมีต้องใช้ขวด 6 แบบ(ตามภาพ)
นั่นหมายถึงตอนนี้ขาดแคลนตั้งแต่แอลกอฮอล์ไปจนถึงขวด หัวปั๊ม บรรจุภัณฑ์แล้วนะครับ
นั่นหมายถึง ประเทศเรากำลังเข้าสู่ภาวะการขาดแคลนเจลล์ล้างมือในระยะอันใกล้นี้ หลังจากเราขาดแคลนหน้ากากอนามัยมาแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ หากรัฐจะพยายามช่วยแบ่งเบาบริษัทผลิตแอลกอฮอล์ จริงๆแล้วท่านรัฐมนตรีสามารถรบกวนฝากประสานไปยังนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประวิตรได้นะครับ
เพราะองค์กรที่กลั่นสุราสามทับ หรือดีกรีเกิน70เปอร์เซนต์ ซึ่งมี 3 กลุ่ม คือ องค์การสุรา กรมสรรพสามิต ผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราสามทับเพื่อส่งออก และกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรมเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง เท่านั้น
หรืออาจจะเป็นโอกาสดีในการเปิดให้สุราพื้นบ้านเข้ามามีบทบาทในการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อเติมสต็อคการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อแก้ปัญหาการขาดตลาดในเวลานี้ก็ได้
ตัวอย่างเช่นตอนนี้ บริษัทผลิตโชจูของเกาหลีก็มีการร่วมแบ่งปันสต็อคแอลกอฮอล์ของตัวเองเพื่อสู่ไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีแล้ว
https://www.smh.com.au/…/south-korea-s-soju-companies-donat…
ไม่แน่ใจว่าตอนนี้บรรดาเจ้าสัวสุราบ้านเรามีการยื่นมือมาช่วยเหลือเรื่องนี้หรือยังนะครับ ผมยังหาข่าวไม่เจอเช่นกัน
#โควิด19
#เปิดโอกาสสุราชุมชน
#เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ