ได้คืบเข้ามาแล้ว นอกจากฝ่ายค้านชนะโหวตข้อบังคับสภา
๒๐๕ ต่อ ๒๐๔ เสียง ยังมีกลุ่มพรรคเอื้ออาทร ๕-๗ เสียงประกาศหย่า แยกตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ
ทำให้ คสช.๒ กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างปริ่มๆ แทน
ผลงาน ‘เต้ พระราม
๗’ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ผันตัวจากหัวหน้าพรรคสอบตกไปได้เข้าสภาฯ
จากการเล่นแร่แปรธาตุคณิตศาสตร์ของ กกต. เป็นหนึ่งใน ๑๑ ส.ส. ที่
คสช.ดูดไว้กันเหนียวตอนโหวตให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ สืบทอดอำนาจ
มาบัดนี้ถูกประยุทธ์เปิดบริสุทธิ์แล้วทิ้งขว้าง
“ท้ายที่สุดนโยบายของ ๑๐ พรรค แม้จะถูกเขียนไว้
แต่ก็เป็นเสมือนการเขียนเพียงเพื่อหลอกให้พวกตนดีใจ เหมือนว่ามีให้แล้ว
แต่กลับไม่ได้รับโอกาสเข้าไปผลักดันนโยบายในฝ่ายบริหารเลย”
เขาเปิดแถลงข่าวหน้าสภาฯ วิพากษ์ข้อเสนอของ
รมว.คลัง อุตตม สาวนายน ที่เปรยจะขึ้นภาษีน้ำมัน ชนิด ‘ด่า’ แบบ “หมอไม่รับเย็บแล้ว...ฝาก ‘ประยุทธ์’
อย่าคิดแค่ใช้เงิน คิดวิธีหาเงินด้วย” (@miomoney) แถมเล่นแรง
“พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่พ่อผม และผมไม่ใช่ขี้ข้ารัฐบาล ไม่ได้อยู่บริษัทรัฐบาล”
หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์อ้างเหตุหย่าร้าง “จำนวน
ส.ส. ถึง ๑๐ คน ควรจะได้เก้าอี้รัฐมนตรี ๒ ที่นั่ง หากคำนวณตามสัดส่วนที่บางพรรคมี
ส.ส. แค่ ๓ คน ยังได้เป็นรัฐมนตรีว่าการถึง ๑ กระทรวง” เลยพูดแทน ๕ พรรคกับอีก ๒
พรรคที่อยู่ระหว่างตัดสินใจ แต่คาดว่ามาแน่
ว่าขอถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล คสช.๒ และ “ขอสนับสนุนให้พรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ครม. ทั้งคณะ และพวกเราก็พร้อมที่จะยกมือโหวตให้ฝ่ายค้านด้วย
ถ้าเรื่องที่อภิปรายชัดเจนว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”
มิใยหลายฝักฝ่ายไม่เชื่อน้ำยา เช่น ‘บก.ลายจุด’ สมบัติ บุญงามอนงค์ มองว่าเป็นการ ‘โก่งราคา’ “แต่เอาเข้าจริงๆ
เพียงรัฐบาลแบะท่าว่าจะให้ประโยชน์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ก็พร้อมพลิกกลับไปหนุนรัฐบาลได้ ไอ้นี่มันกะล่อน ผมไม่หลงกลหรอก”
ด้าน ‘ไอติม’
พริษฐ์ วัชรสินธุ ประชาธิปัตย์อกหัก บอก “ดีใจที่ #ฝ่ายค้านอิสระ
มีอยู่จริง แต่ก็รู้สึกแคลงใจที่มงคลกิตติ์เป็นคนชูธงเรื่องนี้”
เขาเอ่ยประเด็นที่ทำให้บทบาทของเต้ไม่มีน้ำหนัก “๑. ถ้ายึดมั่นในอุดมการณ์
ก็ไม่ควรร่วม รบ. ตั้งแต่ต้น
๒. ถ้าจะอ้างว่า พปชร.
ไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับพรรคเล็ก แล้วทำไมคุณไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับ ปชช.
ก่อนเลือกตั้งว่าจะไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์” ล่ะ ข้อหลังนี่เป็นประเด็นที่ฝ่ายไม่เอาสืบทอดอำนาจรัฐประหารพูดกันมาก่อนบ่อยๆ
เจอรายการหน่ายประยุทธ์หลากหลายก็ทำให้
คสช.๒ กระสับกระส่ายไปเหมือนกัน ถึงขั้นลือกันว่าท่าทางประยุทธ์จะโยนผ้าขอบาย
ขนาดวาสนา นาน่วม โพสต์ถึงปฏิกิริยาของประยุทธ์ต่อการที่ถูกวิจารณ์ว่าจงใจไม่กล่าวคำถวายสัตย์ให้ครบตามรัฐธรรมนูญว่า
“ผมขอเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เพียงผู้เดียว”
พูดซ้ำประโยคนี้ถึง ๓ ครั้งในการกล่าวเปิดประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง
ที่อิมแพ้คฟอรั่ม เมืองทองธานี ข่าวลือจึงปรากฏว่าเป็นการ “พูดอะไรให้คนคิดว่าส่งสัญญาณลาออกได้จริงๆ”
(@sirotek)
ร้อนถึงโฆษกรัฐบาลผู้ปกป้องคุ้มครอง ‘ปารีณา’ รีบบิดพริ้วแก้ไข
ว่าที่ประยุทธ์พูดเรื่องรับผิดชอบนั่นไม่ใช่เกี่ยวกับการถวายสัตย์ขาดตกนะ “พูดเพียงว่าประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”
หาว่าสื่อ “ตีความกันไปเลยเถิด” เอง แหมด็อกเต้อนฤมล
ภิญโญสินวัฒน์ นี่เป็นโฆษกได้ไม่กี่วันเรียนระบบ คสช.ได้คล่องแคล่วเร็วจัง
เรื่องตอแหลหน้าตาย อ้างว่าการถวายสัตย์ของประยุทธ์ไม่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญเสียนี่
แล้วที่สุดยอดกว่าโฆษกคนไหนๆ ของรัฐบาล
คสช.ที่ผ่านๆ มาตรงที่แม่เจ้าประคุณ ‘โปรเฟ็สเซ่อ’ อ้างฉอดๆ ว่าที่ลือกันนายกฯ จะลาออกนั่น “ที่เข้าใจคลาดเคลื่อนอาจเพราะช่วงนี้ท่านเหนื่อย”
และ “ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล นายกฯ ยังอยู่ วันนี้อาจจะเพลียเพราะทานทุเรียนเยอะ”
ฝาก ‘โปรเฟ็สเซ่อ
ด็อกเต้อ’ บอกนายกฯ ด้วยว่าต้องลดทุเรียนแล้วละ
เพราะต่อนี้ไปจะเหนื่อยมากขึ้นไปอีก เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ๒๔๙ หรือ ๒๔๗ นี่โดน
ส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมด (๗ พรรคสัตยาบัน บวก ๕-๗ พรรคอิสระ) โหวตไม่ไว้วางใจ
ไล่ออกจากตำแหน่งนายกฯ ได้นะ ถึงแม้ว่าเมื่อถูกโหวตออกแล้ว
สว. จะนำกลับมาโหวตใหม่ให้เป็นนายกฯ อีกได้ เพราะรัฐธรรมนูญ ๖๐ ตามสเป็ค คสช.
ระบุว่า ๕ ปีแรกของรัฐสภา ๒๕๐ สว.ตู่ตั้งยังมีอำนาจเลือกนายกฯ อยู่