วันจันทร์, สิงหาคม 05, 2562

จะแถอย่างไรฝ่ายค้านไม่ยอมตกหล่ม เดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจประยุทธ์ 'ถวายสัตย์ไม่ครบ'

ไม่ว่าจะแถอย่างไร ให้สมุนเฝ้ารั้วไล่กัดฝ่ายตรงข้ามแก้เก้อขนาดไหน ฝ่ายค้านไม่ยอมตกหล่มที่ คสช.๒ เปิดฝาท่อระบายน้ำล่อไว้ เดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ครึ่งใบ(ถวายสัตย์แค่กษัตริย์ ไม่เอารัฐธรรมนูญ) แน่นอน ก.ย.นี้

สุทิน คลังแสง ดาวสภาของพรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้านเผยว่า พุธนี้ (๗ สิงหา) จะยื่นกระทู้สดถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องที่กล่าวนำคณะรัฐมนตรีคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๑ เจตนาอย่างไร

“ให้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว หากนายกฯ ยอมรับว่าบกพร่องจะดำเนินการแก้ไขอย่างไร” หลังจากท่าทีพวกลิ่วล้อทั้งหลาย ตั้งแต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ลงมาถึงทั่นโฆษก โปรเฟ็สเซ่อนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ช่วยกันยันว่า เรื่องจบแล้ว ผิดถูกอย่างไรไม่สน เพราะ “สักวันจะรู้ว่าไม่ควรพูดถึง”

แต่ถ้ายังดันทุรังไม่รู้ไม่ชี้ใครจะทำไม ฝ่ายค้านก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เสียเลยในเดือนกันยายนนี้ ก่อนที่จะถึงคิวอภิปรายงบประมาณใหม่ ๒๕๖๓ ที่จะเข้าสภาฯ เดือนตุลาคม “เพราะหากรัฐบาลมีสถานภาพไม่ครบถ้วนแล้วปล่อยให้ไปพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะยิ่งเสี่ยงไปกันใหญ่”

ส่วนอีกแนวทางตามรัฐธรรมนูญที่หัวหน้า คสช.๒ ละเลยเอ่ยถึงตอนถวายสัตย์ที่ให้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนฯ ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่เอาละ ช้าเกิน “กว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเสร็จ คงใช้เวลานาน” มากกก อย่างที่ได้เห็นเป็นประจักษ์กันแล้วหลายหน

ที่จริงเรื่องจะไม่ยืดขนาดนี้ถ้ารัฐบาล คสช.๒ ของประยุทธ์ยอมรับเสียแต่แรกว่าผิดพลาด แล้วจัดการขอถวายสัตย์ใหม่ดังที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล นักกฎหมายมหาชนแนะไว้ หรือแม้แต่ เจษฎ์ โทณะวณิก คนกันเองของคสช.ก็เตือนแล้วว่าไม่ถูกต้อง
 
มานี่อดีตนักการเมืองของพรรคตามน้ำเตือนบ้าง “ท่านก็ต้องยอมรับความจริงว่าผิดพลาด ที่สำคัญท่านต้องทำตามกฎหมายที่กำหนด เพราะประโยคที่นายกฯ พูดขาดไป ถือว่าเป็นสาระสำคัญ” นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ติง

แทนที่จะเงี่ยหูฟังสักเล็กน้อย บรรดาสุ (ดี) นักการเฝ้าทำเนียบกลับมะเหลเถไถมะไหลเถไปใหญ่ ธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าเรื่องอย่างนี้ไม่ต้องถึงขั้นยื่นซักฟอก ต้องปล่อยรัฐบาลทำงานนโยบายก่อน

ขณะที่ ผู้สมัครสอบตกลิ่วล้อ คสช.๑ พยายามจะทำตัวให้ปรากฏว่าเป็นลิ่วล้อ คสช.๒ ด้วย ยังโหมไม่หยุดยั้งทุ่มตีพรรคเพื่อไทยและอดีตนายกฯ ตระกูลชินวัตร ไม่เชื่อว่าคนพี่วางมือแล้ว บนหน้าตักล่าสุดพยายามกวนประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ

“ต้องแก้ปัญหาประชาชนก่อน” หาว่าเป็นการแอบอ้างประชาธิปไตย และสาดใส่เทเสียรัฐธรรมนูญ ๔๐ ที่ยอมรับกันทั้งชาติว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุด “ทำไม...ที่คิดว่าดีที่สุดจึงอยู่ไม่ได้” ก็พวกเจ้านายคุณลบทิ้งด้วยเกือกบู๊ตไม่ใช่หรือ

อีกคนเป็นตัวกัดเพศหญิง ส.ส.สอบไม่ตก แต่มีคนราชบุรีระบุว่า ได้มาเพราะ “แจกหัวละพันจ้า มีพรรคเดียวที่แจกด้วย เจ๋งงงงสัด” และก่อนเลือกตั้ง “นางไปคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ ถึงขั้นเอามาโพสต์เลยว่าอยู่พรรคนี้แล้ว สุดท้าย ปชป. เอา สจ.เส็งแทน”

ปารีณา ไกรคุปต์ โป๊ะแตกแล้วแตกอีกไม่ยอมหยุด ล่าสุดอีกเหมือนกันโพสต์ภาพให้ร้ายกล่าวหา มะยุฟนักกิจกรรมกลุ่ม ‘Permas’ ภาคใต้ เพราะเคยถ่ายรูปกับหัวหน้าและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เค้าหน้าใกล้เคียงหนึ่งในผู้ต้องหน้าระเบิดกรุง ๕ จุด
 
อี๊เอ๋เลยเหมาส่งเดช “ฟ้องด้วยภาพมือวางระเบิด ใครเป็นเจ้าภาพ” กล่าวหาเขาโดยกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๘ โจ่งแจ้ง “ถือเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยการโฆษณา ทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงมีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปีและปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท” (@ทนายคลายทุกข์)

ดูเหมือนพรรคอนาคตใหม่จะไม่เสียเวลาตอแย แต่พอดีมีผู้จัดการ ไอลอว์ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ร่วมเสวนาอยู่กับนักกิจกรรมคนนี้ที่มหาวิทยาลัยปัตตานี ทนเห็นความต่ำทรามของ ส.ส.พลังประชารัฐนางนี้ไม่ไหว จึงโพสต์ชี้แจง “น้องคนนี้อยู่ร่วมงานกับผมที่คณะรัฐศาสตร์ ระหว่างที่ผู้ต้องสงสัยยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งไม่เปิดเผย”

(สุนัย ผาสุก แห่ง ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ ให้ข่าวอัพเดทในเวลาต่อมาว่า “ตำรวจยอมเปิดเผยแล้วว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับภายใต้ พรก.ฉุกเฉิน ขณะนี้คุมตัวไปสอบสวนที่ ศปก.ตร.สน.ยะลา” เขาเสริม “การคุมตัวลักษณะนี้ต่ออายุต่อไปได้เรื่อยๆ คราวละเจ็ดวัน โดยเป็นการสอบสวนที่ไม่มีทนายเข้าร่วม”)


แสดงว่าปมระเบิด ๕ จุดในกรุงเทพฯ นี่ป่านนี้ก็ยังคลุมเครือ หมิ่นเหม่กับการละเมิดสิทธิมนุษยชน จนประชาชนผู้วิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตประจำวันทั้งหลายชักจะพากับสรุปว่าเป้นการ จับแพะอีกแล้วจนได้

โดยที่ยุทธการให้ร้าย สาดเสียฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองก็ยังไม่เบามือ เพราะถือว่าการกระทำของ น.ส.ปารีณา ไม่มีใครแตะต้องได้ ดังที่ไอลอว์กล่าวไว้ “รัฐธรรมนูญ ๖๐ ไม่ให้อำนาจประชาชนเข้าชื่อถอดถอน ส.ส. ส.ว. เหมือนยี่สิบปีก่อน”

 
ที่ร้องกันทาง change.org ซึ่งขณะเขียนนี่มีลงนามแล้ว ๗๐,๖๐๕ ราย นั่นเป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ที่จะไม่มีผลบังคับทางกฎหมายแต่อย่างใด เพียงแต่ประจานให้ประชาชนเห็นว่า ส.ส.นางนี้ประพฤติผิดระเบียบอย่างแรง แต่ คสช.๒ กระเตงไว้