วันเสาร์, สิงหาคม 10, 2562

'บาทแข็ง' สองเดือนก่อน 'สมคิด' ว่ามั่นคง แล้วไฉนกลายเป็น 'เศรษฐกิจอ้อนวอน' เสียเล่า


ปัญหาการเมืองเคลียร์ไปได้กระเปาะหนึ่ง สกัดไม่ให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยด้วยการ โอ๋เอาใจสิบพรรคย่อยที่ปัดเศษให้เข้าสภามาเลือกนายกฯ ติ๊ดตู่ โดย พปชร.จะจัดสรรตำแหน่งทางการเมืองให้ทุกพรรค  

เช่น “ผู้ช่วยรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง ตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร” เบื้องต้น ๗ พรรค (ขาดไทยศรีวิไลย์ พลังไทยรักไทย และพลังธรรมใหม่) ตอบรับแล้ว รอ เต้มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ไปคุยอีกหน

เบื้องแรก พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย (พพชท.) เอาตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ไปนั่งก่อน ทีเหลือจัดสรรอย่างไร ๑๓ สิงหา หลังประชุม ครม.รู้เรื่อง
 

ปัญหาหนักยังอยู่ที่จะแก้เศรษฐกิจให้ได้เร็วๆ อย่างไร กุศโลบาย รอเศรษฐกิจโลกกลับมาบูม ไม่ทันการเสียแล้ว ที่ว่าจะทุ่มอีกในต้นปี ๖๓ ทำท่าจะยิ่งกว่า ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแต่จะเป็น เลือดไหลไม่หยุด เอา

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงต้อง วอน(เช่นที่ อจ.กานดา นาคน้อย เปรยว่าไทยเป็นเศรษฐกิจแบบอ้อนวอน) นักลงทุนไทยอย่าเพิ่งขนเงินออกไปโปะไว้เมืองนอก ในเมื่อเงินบาทแข็งนานจนทำให้ส่งออกหดหายไม่ยอมกระเตื้อง

รองนายกฯ ประชารัฐบอกให้ “นักลงทุนต้องชิงจังหวะลงทุนให้มากขึ้น ไม่ใช่บอกว่ามีความไม่แน่นอนแล้วไปลงทุนต่างประเทศ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นถือว่าไม่ได้ช่วยกันเลย”

เฮ้ย พูดแบบตัวหัวหน้าไม่ผิด ดีแต่บอกให้ประชาชนมาช่วยกันนะ อย่าด่า ฉันจะชี้นิ้วอย่างไรก็ตามๆ ไปแล้วกัน เพราะฉันเสียสละยึดอำนาจมาครองจนป่านนี้ ต้องเห็นใจบ้าง ขอแค่อีกสี่ปีแล้วว่ากันใหม่

สมคิดยังอ้างด้วยว่า “สิ่งที่รัฐบาลควบคุมอยู่คืองบประมาณแผ่นดินและรัฐวิสาหกิจ เราพยายามจะทำเต็มที่ แต่ภายใต้สถานการณ์ขณะนี้ยังคงไม่เพียงพอ” นี่ส่อให้เห็นว่าถลุงกันมา ๕ ปี จะเกลี้ยงแล้วสิ ทั้งๆ ที่ผ่านมาเป็นแค่เฟสแรก

ขณะนี้อยู่ในเฟสที่สอง คือการ “ทำให้นักลงทุนมาลงทุนที่ประเทศไทยมากที่สุด” แต่การที่เงินบาทแข็งทุนนอกก็หงอไป ซึ่งสมคิดยอมรับว่าทำอะไรไม่ได้เพราะ “จะขึ้นอยู่กับความพอใจและความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศ”

ฉะนั้น “สิ่งสำคัญคือคนไทยต้องมีความมั่นใจในประเทศของเรา...รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ต้องถือโอกาสนี้ลงทุน อะไรที่ช่วยกันได้อยากให้ช่วยกัน” จะได้ไปตลอดรอดฝั่งถึงเฟสสามที่ต้องผลิตแรงงานคุณภาพ สนองการลงทุนที่จะบูม


แต่เอ๊ะ เศรษฐกิจแบบตลาดเสรีนี่การลงทุนต้องขึ้นกับ แรงจูงใจจากผลตอบแทนมิใช่หรือ การจะขอให้ช่วยหน่อย ลงทุนในประเทศทั้งๆ ภาวะเอื้อทางธุรกิจไม่มี เท่ากับเรียกร้องให้เอกชนร่วมจิตสำนึก คสช. ที่มีแต่ทุ่มและถลุงด้วยหรือ

ไหนแค่เมื่อเกือบสองเดือนนี่เอง สมคิดเป็นคนบอก “แม้ว่าค่าเงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นกระทบต่อการส่งออก แต่เป็นสัญญาณของเสถียรภาพเศรษฐกิจมั่นคง” อยู่เลย วันนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลัง...เป็ด (เทใส่เท่าไหร่ร่วงหมดไม่เหลือติด)

ตอนนั้นอ้าง “เศรษฐกิจครึ่งปีแรกมีปัญหารอยต่อรัฐบาล แต่ครึ่งปีหลังทุกหน่วยงานจะเดินเครื่องเต็มที่” แล้วไฉนมาดันให้เอกชนเดินเครื่องแทน สมคิดพูดเอง “แม้ว่าเม็ดเงินลงทุนภาครัฐอาจล่าช้าไปบ้าง แต่ในส่วนของภาคเอกชนยังเชื่อมั่นลงทุนในประเทศไทย”


แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อเศรษฐกิจโลกก็ไมได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากจนน่าสังเกตุเห็นได้ จึงมาลงได้ว่าเป็นที่ความผันผวนของผู้บริหารเศรษฐกิจไทยนั่นเอง เอาทฤษฎีที่ลอกการบ้านเขามาใช้ แบบว่าลองผิดลองถูกตลอด ๕ ปียังไม่กระเตื้อง ก็เลยระส่ำโวยวายให้เอกชนช่วย