ใจคอจะอยู่ให้ครบสี่ปีเชียวหรือนี่
หลังจากแถกต่อกรณีถวายสัตย์ขาดตกว่า “ที่พูดไปแล้วถือว่าครอบคลุมทั้งหมด” หัวหน้า
คสช.๒ ขอร้อง “ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลาย”
อ้างว่าได้ทำตามรัฐธรรมนูญ “ในการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย”
แล้ว ตรงตามพระราชประสงค์ “พระองค์ท่านรับสั่งมาให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ”
ฉะนั้น “ถ้าจะดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็ให้รอเลือกตั้งคราวหน้าก็แล้วกัน”
พอเจอฝ่ายค้านเตรียมเอาเรื่องตามตัวบทกฎหมายที่
คสช.สั่งร่างเองแล้วพยายามจะเขี่ยทิ้ง นั่นแน่ะ
ดัดจะเป็นนักประชาธิปไตยขึ้นมาเชียว มันย้อนแย้งกระไรอยู่ พูดว่า “พระองค์ท่านรับสั่งมา”
จะผลักภาระ ปัดสวะไปให้ ‘เจ้า’ หรือไร
(https://www.bbc.com/thai/thailand-49231873q7M
และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/photos/a.2341794622737591/2374890656094654/)
เรื่องของเรื่องไม่มีอะไรมากไปกว่าถืออำนาจบาตรใหญ่ทำตามอำเภอใจ
“เห็นว่าไม่จำเป็นต้องพูดตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้” จาตุรนต์ ฉายแสง วิเคราะห์ “ประยุทธ์พยายามพูดไม่ให้คนสนใจรัฐธรรมนูญ
แต่ให้ดูกฎหมายลูก สำคัญกว่านั้นเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น”
@Chaturon ชี้ “ลึกๆ
แล้วประยุทธ์ไม่เคยเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญเลย
น่าจะเป็นเพราะอยู่เหนือรัฐธรรมนูญมานานเกินไป #เรื่องนี้ยังไม่จบ ครับ” ใช่เพราะ “ยิ่งอยากให้จบ ยิ่งแสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติ” @meVnus แถม
ถึงอย่างนั้นยังอุตส่าห์ ‘ไม่เผลอ’ ประยุทธ์ตอดไว้หน่อยให้รอเลือกตั้งคราวหน้า
พูดไม่คิดว่าประชากรจะรอไหวหรือ
เรื่องปากท้องที่ลิ่วล้อออกมาไขสือตีกันฝ่ายค้านยื่นแก้รัฐธรรมนูญ
ก็ยังไม่เห็นแสงไฟที่ปลายอุโมงก์
เรื่องแก้ปัญหาราคาพืชผลยังไม่มีแผนงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน
นอกจากบลา บลา บลาไปวันๆ การเก็บเงินเข้าคลังชักจะกะปริบกะปรอย
ไอ้ที่ทุ่มจ่ายเม็กกะโปรเจ็คไปแล้ว (แอบเหน็บค่ารถหุ้มเกราะ เรือดำน้ำเข้าไปด้วย) อย่าง
‘อีอีซี’ ไม่มีต่างชาติไหนตั้งใจมาลงด้วย
เว้นแต่เจ้าสัวไทยกำลังจะรวยที่ดิน
รายการลดแลกแจกแถมที่ใช้หาเสียงไว้ค่อยๆ
ตัดออกไปทีละอย่าง เรื่องลดภาษีเงินได้ ๑๐% ชงักแล้วทำท่าจะวืดถาวร
ยิ่งอัตราแว้ต ๗% ที่คุยว่าจะขยายเวลาต่อหลัง ๓๐
กันยาก็น่าจะเป็นไปไม่ได้ นี่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ที่มือขึ้นสนิมตั้งท่าจะถอนขนห่านชาวบ้านเพิ่มอีก
“นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า
การเก็บภาษีพลังงานเพิ่มจะดูภาพรวม จะไม่ดูประเภทใดประเภทหนึ่ง
ส่วนจะมีการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นหรือไม่
จะต้องมีการพิจารณาก่อน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น”
แล้วหันไปหากินกับความหวังเฮือกสุดท้ายของชนชั้นกลางที่กำลังฝืดเคือง
นโยบาย ‘หวยบนดิน’ ที่ลอกการบ้านรัฐบาลที่
คสช.โค่นเอง เอามาใช้เรียกใหม่ให้เพราะพริ้ง สลากโน่นสลากนี่ ล่าสุด ‘สลากนักษัตร’ นี่ก็เป็นเพียงอบายมุขถูกกฎหมายธรรมดา
เป้าหมายหลักอยู่ที่ ‘ชนชั้นกลาง’ ที่สัมมาอาชีพ ‘พอหาได้จ่ายคล่อง’ คนรวยจริงกับจนจริงไม่ค่อยเล่นกันเท่าไรหรอก
โดยเฉพาะคนจนไม่มีปัญญาเจียดเงินอาทิตย์ละสี่ซ้าห้าร้อยเล่นหวยแน่ๆ ส่วนคนรวยไม่มีความจำเป็น
ไปเล่นมาเก๊า เวกัสสนุกกว่า
การออกสลากภาพ ๑๒ นักษัตร
ไม่ต่างอะไรกับซื้อเลขสี่ตัว ๕๐ บาท เพียงเลือกภาพแทนเลขเท่านั้น ถ้าตรงสี่ภาพได้
๖ แสน นอกนั้นรางวัลลดหลั่นลงไป ออกตองหรือสองคู่ได้ ๓ แสน เป็นต้น ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมเท่าไร
เพียงลดหย่อนความเครียดชาวบ้านบ้างเท่านั้น
ผู้ที่ได้ประโยชน์มากกว่าคือคลัง ผอ.กองสลากบอกว่า
สลากใหม่นี้อย่างน้อยๆ ทำเงินให้งวดละไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท
ใครจะรู้ว่าอีกสองปี คสช.๒ อาจสร้างตึกวุฒิสภาใหม่ใช้รวมหัวถอด ส.ส.ฝ่ายค้าน
มีห้องคาโรเกะ อ่างจาคูซี่ ไว้ให้ สว.ตู่ตั้งผ่อนคลายก็ได้
จะอย่างไรก็ตาม เสียงค้านหนึ่งออกมาจากอดีต
ส.ส.พรรคตามน้ำ บอกว่า “การออกหวย ๑๒ นักษัตรนี้จะยิ่งมอมเมาให้คนเล่นพนันมากขึ้น
นำไปสู่ปัญหาหนี้สิน ครอบครัว อาชญากรรม และหากไม่ออกแบบระบบการกลั่นกรองเรื่องอายุผู้ซื้อให้ดี
ก็จะยิ่งเป็นการยัดเยียดอบายมุขสู่มือเยาวชน”
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต
ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงในฐานะประธานคณะทำงานเครือข่ายเด็ก สตรี
และผู้สูงอายุของพรรค ออกมาแย่งซีนฝ่ายค้านอย่างนี้ไม่ทราบว่าได้ใช้ช่องทางการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลสะกิดเตือนกันหรือยัง