วันอังคาร, เมษายน 02, 2562

ลูกชายของ ชัชชาญ/โต้ง/ภูชนะ ผู้ถูกสังหารทิ้งน้ำโขง เขียนถึงพ่อเล่าเรื่องบางส่วน ซึ่งถ้าไม่ทำ ก็คงเหมือนเค้าได้ตายซ้ำสอง + ขอเชิญร่วมงานฌาปนกิจศพ "ชัชชาญ" และ "ไกรเดช"




ที่มา FB

Somyot Pruksakasemsuk


Kuekkhong Bupphawun
12 ชม. ·

หนึ่งปีก่อน เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พูดคุย นั่งกินปลาหมึกย่างกันกับพ่อ...
.
ปกติไม่ค่อยอยากจะโพสต์อะไรยาวๆ แต่คราวนี้มี event ใหญ่มากๆในชีวิต อยากจะให้เตือนความจำไปทุกๆปี
.
ฉันกับพ่อไม่ค่อยจะได้พูดคุยกันนักหรอก เพราะพ่อฉันเลี้ยงลูกแบบลูกผู้ชายมากๆ (แบบที่หัดให้ล้มลุกคลุกคลานเอง ซึ่งนั่นหล่อหลอมให้ฉันเป็นคนอวดดี) เวลาส่วนใหญ่ที่ฉันกับพ่อได้ใช้ร่วมกัน มักจะเป็นประโยคสั้นๆ ห้วนๆ ไถ่ถามแบบถามคำตอบคำ ซึ่งฉันค่อนข้างชินกับอะไรแบบนี้
.
แต่ในคำพูดเหล่านั้น ถึงมันจะดูห่างเหิน แต่จริงๆแล้วฉันกับพ่อค่อนข้างรู้ใจกันดี แบบที่ไม่ต้องเอ่ยคำพูดก็รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ ทำให้สองปีในช่วงมัธยมปลายของฉัน แม้จะนอนอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ประโยคที่สนทนาในช่วงสองปีนั้น นับครั้งได้
.
พ่อของฉันเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมากๆ และนี่เป็นส่วนที่ดีที่สุดของพ่อ ที่ฉันได้รับมันมา แต่สิ่งดีๆเหล่านี้ที่พ่อมี มักนำโชคร้ายมาสู่พ่อ ตั้งแต่ฉันจำความได้ พ่อฉันมักจะโดนโกง(แบบที่โดนจากคนใกล้ตัว ซึ่งพ่อฉันเชื่อสนิทใจว่าเขาเป็นคนดี) พ่อของฉันยังชอบช่วยเหลือคนอื่น และชอบฟังเรื่องราวจากพวกเขาเหล่านั้น ทำให้พ่อฉันมองเห็นความไม่เป็นธรรมในสังคมที่เป็นอยู่ จนในที่สุดพ่อฉันอยากจะเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ได้ เพราะอยากเห็นความเป็นธรรมในสังคม
.
หนึ่งในประโยคที่ฉันกับพ่อจะพูดให้กันและกันฟังเสมอคือ "ดูดีๆนะ มองให้กว้างๆ มองให้กลางๆ" ในฐานะที่พ่อพูดให้ลูกฟัง คงหมายถึงให้ฉัน ใจเย็นๆ ใช้สติไตร่ตรอง แต่ในฐานะ ที่ลูกอย่างฉันพูดให้พ่อฟัง ลึกๆแล้วกลับหมายถึง "อย่าทำเลย บางอย่างมันเสี่ยงเกินไป" ฉันไม่เคยคิดว่านี่เป็นประโยคสุดท้ายจากฉันที่พ่อจะได้อ่าน
.
หลายปีก่อน พ่อของฉันถูก"อำนาจอันไม่เป็นธรรม"ในสายตาของพ่อ บังคับให้ต้องย้ายไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง หลายปีก่อนนั้น การพูดถึง"อำนาจอันไม่เป็นธรรม" คงมีคนกลุ่มเล็กๆ ที่จะเข้าใจ แต่หลังจากการเลือกตั้งนี้แล้ว ทัศคติต่อ "อำนาจอันไม่เป็นธรรม" ของหลายๆคนคงเปลี่ยนไป
.
พ่อของฉันตัดสินใจที่จะเลิกข้องแวะกับการเมืองทั้งหลายแล้วใช้ชีวิตอย่างชาวสวนชาวนาธรรมดาๆ ในฐานะ ผู้ลี้ภัย ทำให้ฉันค่อนข้างโล่งใจที่พ่อตัดสินใจเช่นนี้
.
แต่พ่อของฉันมองโลกในแง่ดีเกินไป ความคิดของพ่อที่คิดว่า "อำนาจอันไม่เป็นธรรม" เป็นมรดกของสังคมที่เราอยู่นั้น มันไม่เป็นความจริง "อำนาจอันไม่เป็นธรรม" นั้น มีอยู่ในทุกๆสังคม ทุกๆชนชั้น ทุกๆซอกหลืบในจิตใจของมนุษย์
.
หิริ โอตตัปปะ คือ คำที่คุณย่ามักจะใช้สอนพ่อ และคำเดียวกันนี้ เป็นบทเรียนชีวิตที่พ่อสอนฉัน พ่อสอนให้ฉันรู้ว่า ในตัวตนของมนุษย์ทุกๆคนนั้น มี "อำนาจอันไม่เป็นธรรม" อยู่ บทเรียนนี้สอนให้ฉันรู้ว่า ฉันต้องจัดการกับมันอย่างไร
.
ในช่วงปีสุดท้ายของพ่อ หลังจากที่พ่อตัดสินใจย้ายจากเมืองที่พ่ออยู่ มาพำนักอยู่กับ อ.สุรชัย พ่อของฉันที่ถูกบังคับให้ย้ายจากที่อยู่เดิม ได้ย้ายมาพร้อมไฟที่สุมมาจาก "อำนาจอันไม่เป็นธรรม" ทำให้พ่อก้าวเข้ามาสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง
.
สำหรับฉันแล้ว ความคิด ความเชื่อ คือสิ่งที่เราห้ามกันไม่ได้กลไกของประชาธิปไตย เปิดทางให้ทุกๆคนเห็นต่างกันได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน พ่อของฉันกับฉัน ไม่ได้มองเห็นโลกในแบบเดียวกันทุกๆเรื่อง แต่พ่อก็ไม่เคยบังคับให้ฉันเชื่อถืออะไร หรือ ไม่เชื่อถืออะไร(พ่อฉันเคยบอกให้ฉันลงชื่อรับหุ้นจีนอะไรซักอย่าง แต่ฉันไม่ลงชื่อพร้อมให้เหตุผลว่าทำไมหุ้นจีนบ้าอะไรนี่มันถึงเป็นเรื่องหลอกลวง ซึ่งหลังจากนั้นฉันก็ไม่ห้ามพ่อ และ พ่อก็ไม่บังคับฉัน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อการตัดสินใจของกันและกัน ซึ่งฉันมองว่ามันเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย)
.
เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพ่อของฉัน สอนสิ่งหนึ่งให้เป็นบทเรียนชั่วชีวิตของฉันว่า เวลามีค่าเพียงใด
.
ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหน้ากัน น้องชายฉันบอกให้ฉันเข้าไปกอดพ่อ แต่ฉันส่ายหัวและมองหน้าพ่อ ซึ่งฉันคิดว่า ทั้งฉันและพ่อคงคิดแบบเดียวกัน
.
และไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ทุกๆเช้าหลังจากวันที่รู้ข่าว ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมภาพความคิดที่อยู่ในหัวเป็นภาพวันนั้น วันที่ฉันได้มีโอกาสกอดพ่อเป็นครั้งสุดท้าย..
.
แต่ฉันไม่ทำ...
.
ฉันตื่นมาด้วยความรู้สึกติดค้าง เสียดาย เศร้า เสียใจ ในมือถือของฉัน ยังคงมีข้อความที่อยู่ในห้องสนทนาระหว่างฉันกับพ่อ ที่พ่อฉันไม่มีโอกาสได้อ่านอีกแล้ว
.
ในทุกๆวันที่ฉันใช้ชีวิต เวลาผ่านร้านขายกางเกงที่มีกางเกงแบบที่พ่อฉันชอบใส่ เวลากินข้าวแล้วมีกับข้าวที่พ่อฉันชอบกิน
..
ทุกๆอย่างนี้ทำให้ฉันตระหนักได้ว่า เวลาที่เราใช้ชีวิตร่วมกับคนที่สำคัญสำหรับเรามีค่าเพียงใด
.
ที่ฉันตัดสินใจที่จะพิมพ์อะไรยาวๆนี่ เพียงเพราะหวังว่าจะได้เล่าเรื่องบางส่วนของคนที่ตายไปแล้ว ซึ่งถ้าไม่ทำ ก็คงเหมือนเค้าได้ตายซ้ำสอง
.
แด่ทุกๆคนที่ผ่านมาอ่านข้อความนี้

"ดูดีๆนะ มองให้กว้างๆ มองให้กลางๆ"

ด้วยรักและอาลัย
ลูกชายของ ชัชชาญ/โต้ง/ภูชนะ

..

เรื่องเกี่ยวข้อง

ใครคือ'ภูชนะ' คุยกับลูกชายผู้ถูกสังหารทิ้งน้ำโขง “จะติดตามจนกว่าคดีจะหมดอายุความ”

(ประชาไท)

ooo




อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตายอย่างมีเกียรติ

"หยุดการทำร้าย หยุดการเข่นฆ่า" ขอเชิญร่วมงานฌาปนกิจศพ ชัชชาญ บุปผาวัลย์ (ภูชนะ) ไกรเดช ลือเลิศ (กาสะลอง ) วัดศรีวารีน้อย ลาดกระบัง สวดอภิธรรมศพและกล่าวคำไว้อาลัยวันที่ 4-6 เมษายน 2562 เวลา 18.00 -20.00 น.

วันพฤหัสที่ 4 เมษายน 2562 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ์และนายแพทย์เหวง โตจิราการ เจ้าภาพ

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2562 กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และกลุ่มสังคมประชาธิปไตยประชาชน เจ้าภาพ

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2562 สมาคมคนไทยเพื่อประชาธิปไตย
โดยอ.จรัล ดิษฐาอภิชัย เจ้าภาพ

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2562 เวลา 16.00 น. ประชุมเพลิง

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันแสงความอาลัยต่อผู้จากไปจากการถูกอุ้มฆ่า เพื่อยืนยันในสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและสร้างสันติภาพ ทวงคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกอุ้มฆ่าในประเทศลาวที่จากไปแล้ว 5 คน

Somyot Pruksakasemsuk






...



#สหายกาสะลอง
หรือพี่กาสะลองที่ผมเรียกประจำ
สนิทกับผมตอนที่มาอยู่ต่างประเทศด้วยกันนี่เอง
เป็นคนสนิทที่ติดตามอาจารย์สุรชัย
เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำคลิ้ปรายการทางโซเชียลให้กับอาจารย์สุรชัยมาตลอด
นับว่าเป็นนักต่อสู้ที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับอ.สุรชัย
ตราบจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตของพี่กาสะลอง
พบศพลอยโผล่กลางน้ำโขง ประจานความอำมหิตของเผด็จการ วันนี้มีข่าวการจัดพิธีศพของพี่กาสะลอง ผมจึงขอประกาศเชิญชวนพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย จงไปร่วมงานไว้อาลัยในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นเกียรติให้กับครอบครัว ให้ลูกหลานของแกได้ภาคภูมิใจในเกียรติประวัติการต่อสู้
ขอคารวะและอาลัยจากใจจริงครับ
#พี่น้องทางภาคเหนือช่วยไปให้มากๆด้วยครับ