วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2562

อำนาจของ กกต.จัดตั้งโดย คสช.ล้นหลาม อย่าให้ 'คนรุ่นใหม่' ต้องสู้จนแก่อีกเลย

“ไปกันใหญ่จริงๆ” อย่างที่วาสนา (นาน่วม) ว่านั่นละ แต่ไม่ใช่ข่าวเพี้ยน “บิ๊กป้อมตบนักข่าว” (สาวใหญ่) ซึ่งเจ้าตัวแก้ต่างให้แล้วว่าแค่ชกสีข้างเบาๆ ทำท่ากัดกรามหยอกเล่นอย่างเคย แต่เป็นเรื่องพรรคเล็กคะแนนจิ๊บจ้อยรวมหัวกันร้อง กกต. ขอแบ่งคะแนนจากพรรคเพื่อไทย

แม้นว่าคำร้องจะเพียงบอกให้ กกต.คำนวณที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อแบบที่พวกตนต้องการ คือเฉลี่ยจำนวน ส.ส.รายชื่อกระจายออกไปให้กับพรรคเล็กพรรคน้อยถ้วนหน้ากันกว่า ๒๕ พรรค เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตจำนวนมากกว่า ส.ส.พึงมี

ทั้งๆ ที่ ก.ม.เลือกตั้งก็บอกชัดอยู่นะว่าหากพรรคใดได้รับเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขตมากกว่าจำนวน ส.ส.ไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้อีก


หากคิดได้แค่นี้คงต้องเอาคอมเม้นต์ของ @BeerLikitcharo1 มาทุ่มใส่ให้หายเง่าเสียหน่อย “คนสอบได้ที่โหล่ แต่เสือกมาบอกครูแบ่งคะแนนจากคนสอบได้ที่ ๑ มาให้ตนเอง นี่กูต้องให้คนแบบนี้มาบริหารประเทศจริงๆ เหรอ”

หนักเข้าไปอีกก็คือกรณี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที่คะแนนมาที่ ๑ เป็นว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ ถูก ใบส้มกกต.สั่งเพิกถอนสิทธิการลงสมัครเป็นเวลา ๑ ปี และเลือกตั้งเขต ๘ ใหม่ เนื่องจากเห็นว่ามีความผิดตามมาตรา ๗๓(๒)

จากการถวายปัจจัยแก่พระวัดพระธาตุดอยพระเจ้า ๒ พันบาท ในงานทอดผ้าป่า แล้ว “ยังต้องดำเนินการเอาผิดนายสุรพล (เกียรติไชยากร) ตามมาตรา ๑๓๘ โดยร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ต่อไป”
 
การนี้นายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมายเพื่อไทยโอดว่า “ทำอะไรไม่ได้...เท่ากับเราจะเสียที่นั่งไปหนึ่งที่และไม่มีสิทธิส่งใครไปลงเลือกตั้งใหม่...เพราะกฎหมายให้คำสั่งเป็นที่สุด เป็นอำนาจของ กกต.ที่เพิ่มขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้”


เช่นเดียวกับกรณีการพิจารณาความผิดธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (มี หรือ) เคยมีหุ้นบริษัทจัดพิมพ์นิตยสารแฟชั่นไฮโซ ที่พวกสนับสนุน คสช.ช่วยกันชงว่าสมควรแจกใบส้ม ทั้งที่นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย ให้ความเห็นไว้ว่า

“ช่วงนี้มีกูรู...ไปออกรายการช่อง Bright TV แล้วให้ความเห็นกรณีหุ้นของคุณธนาธรว่า กกต. มีอำนาจแจกใบส้ม ผมย้ำอีกทีว่า เคสนี้ กกต. ไม่มีอำนาจแจกใบส้มนะครับ เพราะเป็นเรื่องคุณสมบัติ ไม่ใช่การทุจริตการเลือกตั้ง”

คงต้องว่าตาม @sleeplessbkk อีกละ “ถวายปัจจัยพระซึ่งไม่มีสิทธิเลือกตั้ง โดนใบส้ม ส่วนอีกพรรค มีคลิปชัดเจนว่าแจกเงินชาวบ้านที่มาฟังปราศรัยพร้อมขอให้ลงคะแนนให้ ไม่มีใครเอาผิด #ประเทศกูมี #เลือกตั้ง62 #กกตโป๊ะเเตก

ล่าสุดต่อกรณีการนับคะแนนและคำนวณที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่ง กกต.พยายามจะใช้วิธีพิสดาร แจกตำแหน่ง ส.ส.แก่พรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ ๗ หมื่น ๑ พัน ต่อ ส.ส. ๑ คน แก่พวกพรรค ปลากัดแล้วโดนประจานมากถึงขั้นถูกเข้าชื่อถอดถอน
 
ซึ่งพรรคเหล่านี้โดยพฤตินัยสอบตกไปแล้ว เช่น พรรคประชาชนปฏิรูปของไพบูลย์ นิติตะวัน พรรคไทยศิวิไลซ์ ของม้าร์ค พิตบูล และมงคลกิตติ์ ที่ได้คะแนนกันแค่สองสามหมื่น กกต.ก็เลยเลี่ยงบาลีด้วยการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแทน

แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีกลับว่า “กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องเกิดขึ้นแล้วคำร้องนี้จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๓ วรรค ๑ วงเล็บ ๒” ภาษาชาวบ้านเท่ากับว่า เฮ้ย งานของเอ็งยังไม่ทำ จะมาโยนกองให้ข้าไฉน


อันอำนาจของ กกต. ในการเจ้ากี้จัดการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น ล้นหลาม ชนิดที่ ไอลอว์ บอกว่า “อาจใช้เพื่อเปลี่ยนผลการเลือกตั้ง” ได้ก็แล้วกัน อย่างเช่นใบเหลือง “ให้มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกตั้ง”

รวมทั้งให้เลือกตั้งใหม่ได้ ส่วนใบส้ม อันนี้มีผลเปลี่ยนจำนวน ส.ส. จากชนะให้เป็นแพ้ได้เลย อย่างแนวโน้มขณะนี้ ฝ่ายที่ลงสัตยาบันตั้งรัฐบาล ๖ พรรค ๒๕๕ เสียง พอ กกต.แกว่งไปแกว่งมา ตอนนี้อาจเหลือแค่ ๒๔๘ ก็นับว่าเฮงแล้ว

สำหรับใบดำ ใบแดง นั่นแน่นอนหากเฉือนใครก็ขาดลอย แต่ดูดีๆ ไม่มีทีท่าแม้แต่นิดว่าพรรคลิ่วล้อ คสช. จะมีใครโดน ไอ้ที่มีคนฟ้องกันเอาไว้ วินิจฉัยตามสไตล์ กกต. ไทย มาก่อนพิจารณาทีหลังก็ยังดี แต่ส่วนมากรับเรื่องแล้วทำเฉย

ที่สำคัญยังมี ม.๔๔ ที่ คสช.ยังคงใช้ได้เต็มพิกัดจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เริ่ม ปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๖๕ โดยเฉพาะถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองตัดสิน หลังจากที่ กกต.ชี้แจงแล้วในวันที่ ๒๕ เมษานี้


บ่องตง คิดแล้วเศร้า ถ้าจะให้มองโลกแง่ดีอย่างที่ อจ.ประจักษ์ ก้องกีรติ ที่รัฐศาสตร์ มธ. ว่าเป็นจุดเกิดพลังต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ แต่ถ้ารูปการณ์ คสช.จะได้ครองเมืองต่ออีก ๒๐ ปีละก็ ถึงวันนั้นคนรุ่นใหม่ก็แก่จนสู้ไม่ไหวอีกเหมือนกัน อะ