วันจันทร์, เมษายน 15, 2562

ว่าไปแล้ว 'ไอทู้บ' ไม่ไปต่อน่ะดีกับตัวเองนะ เศรษฐกิจท่าจะยิ่งแย่ ยังมี 'ปั้นน้ำเป็นตัว' องคมนตรีนายกฯ อีก

อะไรมันจะทำให้ผลงานรัฐบาล ไอ-ทู้บ ๔.๐ของ คสช. โชคร้ายได้ต่อเนื่องขนาดนั้น สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเงินอีกรายออกมายอมรับ นอกจากจะโตไม่ได้ ๔.๐ อย่างที่ถ่มถุยกันเอาไว้ แล้วยังได้ไม่ถึง ๓.๘ อย่างที่แบ๊งค์ชาติปรับลงมาแล้ว

อีไอซีหรือศูนย์ภูมิปัญญาทางเศรษฐกิจของธนคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจไทยปลายยุค คสช.ลงอีก เหลือแค่ ๓.๖% อ้างว่าเศรษฐกิจโลก “มีแนวโน้มชะลอตัวมากกว่าคาด”

ตามสไตล์สติสตังค์อย่างทหาร ไม่เคยทำอะไรผิด ไม่มีงั่ง ไม่ยอมโง่ ถ้าจะพังก็เพราะคนอื่นทั้งนั้น “เป็นผลจากสงครามการค้าและภาวะการเงินโลกที่ตึงตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๑ ที่ยังส่งผลลบอย่างต่อเนื่อง”

บอกว่าช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ (บังเอิ๊นบังเอิญ) อาการหดตัวของมูลค่าการส่งออกไทยดันถีบตัวแรงไปกว่าเก่าเป็น ๗๐% นั่นเลย จึงเกิดความไม่แน่นอนในการกำหนดการเติบโตอย่างที่ คสช.ต้องการได้

โดยเฉพาะในด้านการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภค ที่มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวภายใน เพื่อให้ต่างชาติเห็นว่าปลอดภัยกับการลงทุนนั้น ก็ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรม ทั้งที่พวกคนดีของ คสช. ใส่ภาพสวยฟ้าใสเอาไว้เยอะเกินตัวที่ ๔.๑% ก็ต้องจัดวางตัวเลขเสียใหม่ให้ตรงความจริง ที่ ๓.๘% เป็นต้น

ภาพดีๆ ที่พอเห็นได้อยู่ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น ๔๐.๗ ล้านคน จากเดิม ๔๐.๒ ล้านคน คำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์การเติบโตได้ที่ ๖.๓ ทำนองเดียวกับการก่อสร้างในภาครัฐจากการทุ่มเงินโดย คสช. ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว อ้างว่าขยายตัว ๗%


ตัวเลขเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นกว่าเดิมได้เลยแม้แต่น้อย เมื่อได้เห็นสภาพความเป็นจริงบนท้องถนน ที่การจัดให้หยุดสงกรานต์ ๓ วันกลับเต็มไปด้วยความเงียบหงอย การเล่นน้ำถนนข้าวสารแห้งแล้งอย่างไม่เคยมีมาก่อน

มันสะท้อนให้เห็นว่าจำนวนเพิ่มของนักท่องเที่ยวจีน (จิ๊บจ้อย) ไม่ได้ช่วยรื้อฟื้นหรือไปทดแทนเทร็นด์นักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกที่ลดลงต่อเนื่องได้

มิหนำซ้ำความเขลาของกระทรวงต่างประเทศที่ทำตัวเป็นลิ่วล้อเผด็จการ คสช. เสียจนไปวางอำนาจกับสถานทูต ๑๐ แห่ง กรณีสังเกตุการณ์ฟ้องคดีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จนโดนประเทศเหล่านั้นตอกกลับหน้าหงาย ยิ่งเพิ่มความน่ารังเกียจต่อ ประเทศไทย ในทุกทาง

ผลการเลือกตั้งที่ยังแกว่งไม่หยุด เพราะระบบจัดสรรปันส่วน ส.ส.ให้เกิดภาวะเบี้ยหัวแตก กลุ่มตรงข้ามพรรคการเมืองฝ่าย คสช.ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ถูกกล่าวถึงไปทั่วโลกว่าเพื่อที่ ไม่ว่าจะออกมารูปไหน พรรคฝ่าย คสช.ชิงตั้งรัฐบาลได้ด้วยเสียง งูเห่า หรือเกิดทางตัน คสช.ก็ยังอยู่ต่อไม่มีกำหนด
แนวโน้มการเมืองหลังเลือกตั้งขณะนี้ละเทะไม่ต่างกับหลังเลือกตั้งปี ๒๕๕๑ เกิดมีงูเห่าขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย ถาวร เสนเนียม ที่ต้องการนำ ส.ส. กลุ่ม กปปส. กว่า ๓๐ คนไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารัฐประหาร ๕๗ กลับมาเป็นนายกฯ อีก

แม้นว่านายถาวรจะยอมถอยหนึ่งก้าว ว่าต้องรอผลการประชุมกรรมการบริหารพรรคหลังจาก กกต.ประกาศผลเลือกตั้งสุดท้ายอย่างทางการในวันที่ ๙ พ.ค. ก่อน และเกิดมีข้อเสนอ นายกฯ คนกลาง และ รัฐบาลแห่งชาติ จากว่าที่ ส.ส. ปชป. อีกคน

โพสต์วิจารณ์เกี่ยวเนื่องประเด็นนี้ของ Thanapol Eawsakul ที่ว่า “ถือว่าเป็นจังหวะก้าวที่น่าจับตาของพรรคประชาธิปัตย์ และความเป็นไปได้ของนายกคนนอก” อันจะยังผลไปสู่ “ชะตากรรมของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะไม่ได้ไปต่อ” เป็นที่กล่าวถึงอย่างถี่ยิบขณะนี้

“จะต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและแก้รัฐธรรมนูญ ให้มีวาระเพียงแค่ ๒ ปี จากนั้นให้คืนอำนาจแก่ประชาชนและจัดการเลือกตั้งใหม่” เป็นข้อเสนอจากเทพไท เสนพงศ์ ซึ่งได้รับเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช


ในด้านรัฐบาลแห่งชาติเขาอ้างว่าแม้แต่พรรคอนาคตใหม่ก็มีจุดยืนที่ไม่ขัดกับข้อเสนอของตน นั่นคือทั้งไม่สืบอำนาจ คสช.และต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ประเด็นนายกฯ คนกลาง เขากลับเสนอทางเลือกเป็นองคมนตรีสองคน กับคนของพรรคประชาธิปัตย์อีกสอง
ดูจะเป็นข้อเสนอที่ ไม่กลาง เท่าไรนัก ในเมื่อทั้ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีตผบ.ทบ. และนายพลากร สุวรรณรัฐ ล้วนแต่ไม่ได้มีคูณูปการทางการเมืองประชาธิปไตย (แม้แต่ภายใต้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็เถอะ) พอที่จะเอาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปประเคนให้

ยิ่งนายศุภชัย พานิชภักดิ์ แม้จะเป็นที่นับหน้าถือตาในทางระหว่างประเทศ เพราะเคยเป็นเลขาธิการ อังก์ถัด (UNCTAD) แต่เขาก็ยังเป็นประชาธิปัตย์ที่ ถ้าหากคนในพรรคเห็นว่าเหมาะสมพอที่จะแหกคะแนนเสียงข้างมากได้ ทำไมไม่นำเข้ามาในกระบวนการก่อนเลือกตั้ง ยิ่งนายชวน หลีกภัย ไม่ต้องเอ่ยถึง เพราะพี่ทั่นเป็น สังคโลก ไปแล้ว

จะมารอชุบมือเปิบ จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ สอบตกได้ ส.ส.แค่ครึ่งร้อย แล้วใช้วิธี ปั่นโดยงูเห่า กปปส. และ ปั้นน้ำเป็นตัว เสนอให้องคมนตรีมาเป็นนายกฯ เช่นนี้ เป็นการเล่นการเมืองแบบ วังวนอย่างเคย เพียงเพื่อให้ ปชป.ได้มีเอี่ยวด้วยเท่านั้น