ท้าประยุทธ์ แน่จริงทำให้ได้อย่าง ‘อียิปต์โมเดล’ ประธานาธิบดีที่มาจากการยึดอำนาจ ยืดเวลาครองเมืองไปอีก
๘ ปี ผ่านยุทธวิธี ‘รัฐสภา’
ความพยายามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะชุบตัวด้วยคะแนนเสียงของพรรคการเมืองที่สนับสนุนตนให้กลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีก
สมทบกับเสียงในวุฒิสภาตั้งเองโดย คสช. ๒๕๐ คน พร้อมด้วยยุทธศาสตร์ชาติซึ่งประยุทธ์เป็นประธานกรรมการ
ที่รัฐบาลต่อไปต้องปฏิบัติตามอีก ๒๐ ปี
ล้วนแล้วแต่เดินตาม ‘อียิปต์โมเดล’ ของประธานาธิบดี แอ็บเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี
แทบทั้งสิ้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (๑๖ เมษา) รัฐสภาอียิปต์ผ่านข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างท่วมท้น
เพิ่มระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีออกไปอีก ๒ ปี เป็น ๖ ปี โดยให้เป็นได้คนละสองสมัย
มติเดียวกันยังอนุญาตให้ประธานาธิบดีคนปัจจุบันยืดเวลาในตำแหน่งออกไปได้
๒ ปี อัล-ซิซีเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารซึ่งเข้ามาสู่อำนาจด้วยการทำรัฐประหารโค่นรัฐบาล
(ที่เป็นครั้งแรก) มาจากการเลือกตั้ง ของผู้นำองค์การภราดรภาพมุสลิม โมฮัมเม็ด
มอร์ซี ในกลางปี ๒๕๕๖
ก่อนที่นายพลผู้นี้จะเข้าเป็นประธานาธิบดีโดยชนะเลือกตั้ง
๙๐ เปอร์เซ็นต์ เมื่อกลางปี ๕๗ คณะทหารทำการกวาดล้างขบวนการต่อต้านรัฐประหาร และสมาชิก
‘บราเธอร์ฮู้ด’ เกือบราบคาบ
มีผู้เสียชีวิตนับพัน ถูกจับยัดคุกอีกมากกว่านั้นสองเท่า
นอกเหนือจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้อดีตประธานาธิบดีมอร์ซีมีความผิด
ฐานสมคบกับขบวนการก่อการร้ายมุสลิม แล้วยังมีคำสั่งห้ามสมาชิกและผู้สนับสนุนบราเธอร์ฮู้ดเข้าแข่งขันเลือกตั้งได้อีก
จนทำให้อัล-ซิซีได้รับเลือกตั้งซ้ำเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นถูกจำกัดอย่างหนัก
และเมื่อกลางเดือนที่แล้วนี่เอง
อียิปต์ชิงตัดหน้าประเทศไทยออกกฎหมายกำกับและควบคุมสื่อสารมวลชนและเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฉียบขาด
คณะกรรมการของรัฐบาลสามารถสั่งปิดเว็บไซ้ท์และบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมได้โดยไม่ต้องพึ่งอำนาจศาล
ด้วยข้ออ้างเพียงว่า ‘ขัดต่อความมั่นคงของประเทศ’
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลของอัล-ซิซี
ซึ่งครองอำนาจมาแล้ว ๖ ปี ปฏิบัติการกดขี่สื่อมวลชนและผู้เห็นต่างอย่างหนักหน่วง
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถูกขับออกนอกประเทศจำนวนมาก
เช่นเดียวกับนักข่าวชาวอียิปต์ถูกนำตัวไปควบคุมในคุก
“ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ เว็บไซ้ท์ไม่น้อยกว่า ๕๐๐
แห่งซึ่งรวมถึงบรรดาสำนักข่าวและองค์กรสิทธิมนุษยชนถูกปิดกั้น ตามรายงานของสมาคมเพื่อเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก
หน่วยงานเพื่อการตรวจสอบในอียิปต์”
สำนักข่าวอัลจาซีร่าอ้างด้วยว่า “อียิปต์ยังคงเป็นประเทศที่มี
‘ชื่อเสีย’ ในการจับนักหนังสือพิมพ์ขังคุก
ติดอันดับต้นๆ ไล่หลังจีนและตุรกีมาติดๆ”
การแก้ไขรัฐธรรมนูญของอียิปต์ครั้งนี้จะเป็นผลให้อัล-ซิซีได้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี
๒๕๖๗ หลังจากที่ปรับเพิ่มเวลาในตำแหน่งสมัยที่สองของรัฐธรรมนูญเดิมแล้วสองปี
หากเขาได้รับเลือกตั้งอีกก็จะเป็นประธานาธิบดีต่อไปจนถึงปี ๒๕๗๓
นี่ขนาดว่าได้มีการปรับเปลี่ยนบทแก้ไขรัฐธรรมนูญจากร่างเดิมที่มีการเสนอไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว
ร่างเดิมกำหนดให้อัล-ซิซีสามารถลงสมัครเป็นประธานาธิบดีได้อีกสองครั้ง
ถ้าเช่นนั้นอาจทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีอียิปต์ไปจนถึง ๒๕๗๗
อย่างไรก็ดี มติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาอียิปต์
(๕๙๖ คน) นี้จะต้องไปผ่านการออกเสียงประชามติอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีป้ายคัตเอ๊าท์ขนาดใหญ่ตามริมถนน
และโฆษณาครึ่งหน้าตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ จากรัฐบาล รณรงค์ให้คนไปออกเสียงเกร่อแล้วตั้งแต่เมื่อต้นเดือนนี้
ด้วยสภาพการณ์กระชับอำนาจของรัฐบาลอียิปต์
(เหมือน คสช.) ที่เป็นอยู่ขณะนี้ เชื่อว่ารัฐบาลอัล-ซิซีคงจะเอาชนะประชามติได้ไม่ยาก
และหากผ่านก็จะยิ่งเพิ่มอำนาจแก่คณะทหารมากขึ้นไปอีก ในฐานะอย่างทางการให้เป็น ‘ผู้พิทักษ์ปกป้อง’ ทั้งต่อ “รัฐธรรมนูญ
สิทธิของปวงชน และการปกครองโดยพลเรือน”
นอกจากนั้นฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นคู่หูของคณะทหาร
(เหมือน ตลก.ไทยไม่มีผิด) มาตั้งแต่หลังรัฐประหารใหม่ๆ โน่น ต่อนี้ไปจะตกอยู่ภายใต้กำกับของประธานาธิบดีอัล-ซิซีโดยตรง
ทั้งในอำนาจการแต่งตั้งผู้พิพากษาและการเสนอชื่ออัยการ
รธน.ฉบับแก้ไขยังให้อำนาจประธานาธิบดีแต่งตั้งรองประธานาธิบดีด้วยตนเอง
และกำหนดให้รื้อฟื้นจัดตั้งสภาสูงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยระบุให้มีสภาชิกรัฐสภา
(ทั้งสอง) เป็นเพศหญิงจำนวนไม่น้อยกว่า ๒๕ เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด
(https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-04-16/surprising-none-el-sisi-gets-egypt-lawmakers-nod-through-2030? และ https://www.nytimes.com/2019/04/16/world/middleeast/el-sisi-egypt-constitution.html)
หากแต่ว่าพันธะหน้าที่ของวุฒิสภาอียิปต์ที่จะตั้งใหม่นี้
เท่าที่ปรากฏในข่าวมีไว้เพื่อให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
และให้การรับรองต่อแผนพัฒนาประเทศทางด้านเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไม่ได้ระบุอำนาจในการเลือกตัวผู้นำรัฐบาลอย่างของไทย