วันอาทิตย์, เมษายน 14, 2562

พลังประชารัฐมั่วตั้งรัฐบาลอีกแล้ว ขณะที่ กต.โดนออสเตรเลียตบกลับ

ว่าแล้วไง สงกรานต์เงียบเหงา เขาก็เลยช่วยกันพีอาร์ ปั่นข่าวมันน่าจะเป็นที่ค่ายมติชน กินเบ็ดเมื่อ “แหล่งข่าวจากพรรค พปชร.” ประกาศจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วเพราะมีจำนวน ส.ส. เขตในสภาเกินกึ่ง (๒๕๑ เสียงขึ้นไป)

เนื่องจากพรรคน้อยพรรคย่อยกลุ่ม “ขอเพลงที่มีงูออกมา” แห่เข้าร่วมกันตรึม อาทิ “พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรครักษ์ผืนป่า และพรรคเล็กที่ได้ ส.ส. ๑ ที่นั่ง ๑๒ พรรค”

ชั่วร้ายกว่านั้นอ้างด้วยว่า “ล่าสุดยังได้เพิ่มอีก ๕ เสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ตอบตกลงจะมาเข้าร่วม เพราะเห็นว่าหากต้องการแก้ปัญหาให้ประชาชน จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลเพื่อมาขับเคลื่อนตามที่ได้หาเสียงไว้”

แต่กระนั้นมีข้อน่าสังเกตุจากแถลงการณ์ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ครั้งก่อน เมื่อ ๒๓  มีนาคม ๒๕๖๒ ตอนหนึ่งว่า “ถ้ามีการอ้างความเป็นประชาธิปไตยแล้วพบว่า มีการทำงานโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยเกิดขึ้น เราพร้อมจะขอถอนตัวออกมาทันที”
 
ถ้าตามนั้นจะทำให้ฝ่ายที่ประกาศสัตยาบันร่วมกับเพื่อไทยและอนาคตใหม่มีที่นั่งเหลือไม่ถึง ๒๕๐ อีกทั้งยังอาจมีอดีตรัฐบาล ราบ ๑๑ ไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐด้วย แต่ “ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ ๕๒ เสียงนั้น จะไม่มายกพรรค”

“เนื่องจากสมาชิกทางฝั่งนายชวน หลีกภัย และคนรุ่นใหม่ในพรรคไม่เห็นด้วยกับการมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ว่าที่ ส.ส.ที่นำโดยนายถาวร เสนเนียม ยืนยันว่าจะมา” ซึ่งเดิมทีถาวรบอกว่ามี ส.ส.ในกลุ่มที่ได้รับเลือกตั้งราว ๓๐ คน ตอนนี้แหล่งข่าวจาก พปชร. อ้างว่ามี ๓๕ คน

ถึงอย่างนั้น ปชป.ก็ยังต้องรอประชุมใหญ่พรรคอีกทีว่าจะเดินไปตามคำขอ “เพลงที่มีงูออกมา” ไหม แต่ฝ่ายตั้งสัตยาบัน ๗ พรรค สบายใจไปก่อนเปราะหนึ่ง ดังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทวี้ต @sudaratofficial

“เชื่อมั่นในคำพูดลูกผู้ชายของหัวหน้า #มิ่งขวัญ มากกว่าหัวหน้าบางพรรคค่ะ นักการเมืองจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ได้” หลังจากที่มีแถลงลายลักษณ์อักษรออกมาจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ในวันสงกรานต์
 
“ผมและว่าที่ ส.ส.ทุกคน ในนามพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าว (ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พปชร.) ไม่เป็นความจริง และผมไม่เคยเข้าไปร่วมเจรจาทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ ใดๆ ทั้งสิ้น”


อะไรทำให้พลังประชารัฐมั่นใจว่าจะได้ตั้งรัฐบาล ขนาด แหล่งข่าว เกี่ยวเบ็ดสื่อค่ายมติชนอย่างนั้น เชื่อมั่นในความเป็นผู้วิเศษของศาลรัฐธรรมนูญละหรือ มิฉะนั้นก็เป็นเพียงปล่อยข่าวให้เกิดความว้าวุ่น ระหว่างที่ทั้ง กกต. และ กต.กำลังตกเป็นเป้าเพ่งเล็งอย่างหนักจากต่างประเทศตะวันตก ว่าร่วมหัวจมปลักกับความไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมในอำนาจทางการเมืองของ คสช.

ต่อกรณีกระทรวงต่างประเทศเรียกบรรดาทูตานุทูตเข้าพบเพื่อแจ้งว่า เสียมารยาท ที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตุการณ์นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปรับฟังข้อกล่าวหาความผิดฐานยุยงปลุกปั่น หรือ ‘sedition’ ซึ่งในประเทศตะวันตกถือว่ารุนแรงมาก

เป็นเหตุให้สถานทูตเหล่านั้นทะยอยกันออกมาตอบโต้ โดยยืนกรานในข้อกฎหมายระหว่างประเทศว่าการไปสังเกตุการณ์ เป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ และยังถือปฏิบัติกันเป็นนิจสินอยู่แล้ว ล่าสุดมีรัฐบาลออสเตรเลียอีกราย

ออกแถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศ แถลงชี้แจงแจ้งชัดว่า “การไปสังเกตุการณ์การดำเนินคดี เป็นวิธีปฏิบัติประจำทางการทูต ที่สนธิสัญญากรุงเวียนนาระบุไว้เกี่ยวกับการดำเนินความสัมพันธ์ในทางการทูต”

ข่าวจากสำนัก เอบีซียังนำคำวิจารณ์ของธนาธรมาตีพิมพ์ด้วยว่า ไม่เพียงคณะทหารที่ครองอำนาจใช้คดีความเพื่อกดดันกลั่นแกล้งทางการเมืองแล้ว วิชามาร “ดั้งเดิมเช่นนี้จะสิ้นสุดแม้ผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว แต่จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น เพราะพวกเขากลัวอนาคตใหม่”

(https://mobile.abc.net.au/news/2019-04-12/australia-stands-by-routine-diplomatic-practice-in-thai-case/10999418)