https://www.youtube.com/watch?v=LwC8CP9PVyk&feature=youtu.be
ooo
ที่มา ประชาไท
Mon, 2014-08-11 18:09
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัว นายยงยุทธ บุญดี หรือเป็นที่รู้จักในนาม แดง ชินจัง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหายิงเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถ.วิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในวันเกิดเหตุ นายยงยุทธ พร้อมพวกได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว มาจากถนนหอวัง มุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนมาจอดรถชิดตรงเกาะกลาง จากนั้นนายยงยุทธซึ่งนั่งมาที่บริเวณเบาะหลังด้านขวา ได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ก่อนหลบหนีไป
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายยงยุทธ ถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 299/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค. 2557 ในคดีร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารสำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ และถูกทหารควบคุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยจากการสอบสวนขยายผลนายยงยุทธ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือคดียิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่ได้ลงมือเอง ส่วนจุดอื่นนายยงยุทธ แค่มีส่วนรู้เห็นเท่านั้น ไปร่วมตั้งวงดื่มสุราก่อนลงมือก่อเหตุ ซึ่งในวันนี้ตำรวจจะนำตัวนายยงยุทธไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดอื่นๆ อีก 4 จุด ได้แก่ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่ นายยงยุทธ สารภาพว่าได้ร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ ยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณใกล้ห้างโลตัส สาขาแจ้งวัฒนะ และสำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ อีก 2 จุด
สำหรับกรณี น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล อายุ 27 ปี ผู้มีข่าวในเรื่องการถูกควบคุมตัวเกินกว่ากฎหมายอนญาต พล.ต.อ.สมยศ เชื่อว่า น.ส.กริชสุดา ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว กระบวนการต่อจากนี้ก็คือ เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ตำรวจก็จะให้กองการต่างประเทศ แปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการยื่นเรื่องส่งตัว น.ส.กริชสุดา มาดำเนินคดีในประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน หากในกรณีประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน กระทรวงการต่างประเทศสามารถใช้ช่องทางความสัมพันธ์ทางการทูตในการขอให้ส่งตัวมาดำเนินคดีได้
รอง ผบ.ตร.ระบุว่าสำหรับคดีอาวุธสงครามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 29 คน ส่วนใหญ่สามารถจับกุมได้แล้ว เหลือเพียง 7 - 8 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.กริชสุดา รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยง เป็นขบวนการเดียวกัน เพียงแต่ใครจะทำหน้าที่อะไรเท่านั้น อย่างกรณีของนายยงยุทธ ได้ให้การว่ารู้จักกับ น.ส.กริชสุดา พบในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยืนยันว่าไม่ได้รับอาวุธมาจาก น.ส.กริชสุดา แต่อย่างใด
หมายเหตุ: ยงยุทธ บุญดี หรือ แดง ชินจัง ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ จ.เชียงใหม่ เขาได้ถูกนำตัวมาแถลงข่าวที่กองปราบฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2557 หลังจากนั้น ยงยุทธ ได้หายตัวออกไปจากการรับรู้ของสาธารณะ 4 กรกฎาคม มารดาของยงยุทธได้เดินทางไปติดตามตัวที่กองปราบแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ 8 สิงหาคม 2557 พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ติดต่อกับ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อสอบถามถึงการควบคุมตัวนายยงยุทธ เนื่องจากเกินกำหนดเวลา 7 วันนับตั้งแต่มีการแถลงข่าวการจับกุม นายทหารพระธรรมนูญที่เข้าร่วมการพูดคุยได้แสดงเอกสารลงลายมือชื่อนายยงยุทธ ระบุว่า สมัครขอใจอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารต่อ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
“แดง ชินจัง” สารภาพยิง M79 ใส่เวที กปปส.
องค์กรสิทธิชี้กรณี 'แดงชินจัง' อาจเข้าข่าย 'ควบคุมตัวโดยไม่ชอบ-ถูกบังคับให้หายสาบสูญ'
'ชินวัฒน์ หาบุญพาด'แกนนำนปช.รายงานตัวคสช.แล้ว
Military claims red-shirt detainee wants to stay longer at military camp
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัว นายยงยุทธ บุญดี หรือเป็นที่รู้จักในนาม แดง ชินจัง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหายิงเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถ.วิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในวันเกิดเหตุ นายยงยุทธ พร้อมพวกได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว มาจากถนนหอวัง มุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนมาจอดรถชิดตรงเกาะกลาง จากนั้นนายยงยุทธซึ่งนั่งมาที่บริเวณเบาะหลังด้านขวา ได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ก่อนหลบหนีไป
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายยงยุทธ ถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 299/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค. 2557 ในคดีร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารสำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ และถูกทหารควบคุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยจากการสอบสวนขยายผลนายยงยุทธ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือคดียิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่ได้ลงมือเอง ส่วนจุดอื่นนายยงยุทธ แค่มีส่วนรู้เห็นเท่านั้น ไปร่วมตั้งวงดื่มสุราก่อนลงมือก่อเหตุ ซึ่งในวันนี้ตำรวจจะนำตัวนายยงยุทธไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดอื่นๆ อีก 4 จุด ได้แก่ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่ นายยงยุทธ สารภาพว่าได้ร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ ยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณใกล้ห้างโลตัส สาขาแจ้งวัฒนะ และสำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ อีก 2 จุด
สำหรับกรณี น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล อายุ 27 ปี ผู้มีข่าวในเรื่องการถูกควบคุมตัวเกินกว่ากฎหมายอนญาต พล.ต.อ.สมยศ เชื่อว่า น.ส.กริชสุดา ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว กระบวนการต่อจากนี้ก็คือ เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ตำรวจก็จะให้กองการต่างประเทศ แปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการยื่นเรื่องส่งตัว น.ส.กริชสุดา มาดำเนินคดีในประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน หากในกรณีประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน กระทรวงการต่างประเทศสามารถใช้ช่องทางความสัมพันธ์ทางการทูตในการขอให้ส่งตัวมาดำเนินคดีได้
รอง ผบ.ตร.ระบุว่าสำหรับคดีอาวุธสงครามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 29 คน ส่วนใหญ่สามารถจับกุมได้แล้ว เหลือเพียง 7 - 8 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.กริชสุดา รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยง เป็นขบวนการเดียวกัน เพียงแต่ใครจะทำหน้าที่อะไรเท่านั้น อย่างกรณีของนายยงยุทธ ได้ให้การว่ารู้จักกับ น.ส.กริชสุดา พบในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยืนยันว่าไม่ได้รับอาวุธมาจาก น.ส.กริชสุดา แต่อย่างใด
หมายเหตุ: ยงยุทธ บุญดี หรือ แดง ชินจัง ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ จ.เชียงใหม่ เขาได้ถูกนำตัวมาแถลงข่าวที่กองปราบฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2557 หลังจากนั้น ยงยุทธ ได้หายตัวออกไปจากการรับรู้ของสาธารณะ 4 กรกฎาคม มารดาของยงยุทธได้เดินทางไปติดตามตัวที่กองปราบแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ 8 สิงหาคม 2557 พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ติดต่อกับ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อสอบถามถึงการควบคุมตัวนายยงยุทธ เนื่องจากเกินกำหนดเวลา 7 วันนับตั้งแต่มีการแถลงข่าวการจับกุม นายทหารพระธรรมนูญที่เข้าร่วมการพูดคุยได้แสดงเอกสารลงลายมือชื่อนายยงยุทธ ระบุว่า สมัครขอใจอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารต่อ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
“แดง ชินจัง” สารภาพยิง M79 ใส่เวที กปปส.
องค์กรสิทธิชี้กรณี 'แดงชินจัง' อาจเข้าข่าย 'ควบคุมตัวโดยไม่ชอบ-ถูกบังคับให้หายสาบสูญ'
'ชินวัฒน์ หาบุญพาด'แกนนำนปช.รายงานตัวคสช.แล้ว
Military claims red-shirt detainee wants to stay longer at military camp
ooo
แถลงการณ์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
กรณีนายยงยุทธ บุญดี
อาจเข้าข่ายการควบคุมตัวโดยไม่ชอบและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
ตามที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดตามกรณีนายยงยุทธ บุญดี หรือชินจัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายเเก่ทรัพย์ของผู้อื่น มีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถูกนำตัวมาแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยในระหว่างการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่แจ้งว่านายยงยุทธ บุญดี เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงโดยยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่เวทีชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และอื่นๆ รวม 11 ครั้ง
ภายหลังจากการแถลงข่าวญาติไม่ได้ดำเนินการประกันตัวแต่อย่างใดและไม่ทราบข่าวคราวของนายยงยุทธ บุญดี อีกเลย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้พยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าพนักงานตำรวจระดับสูงที่มีส่วนในการแถลงข่าว เจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่าไม่มีรายชื่อนายยงยุทธ บุญดี ปรากฏว่าอยูในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ซึ่งยังคงปฏิเสธความรับรู้ว่านายยงยุทธถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด แต่ได้แจ้งว่ามีการประกันตัวออกไปโดยไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดในการประกันตัวและได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ทหารมาพบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้แสดงเอกสารว่านายยงยุทธสมัครใจอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เอง
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีความห่วงกังวลถึงพฤติการณ์ในการมาประกันตัวของบุคคลซึ่งไม่ใช่ญาติ และการควบคุมตัวนายยงยุทธไม่สามารถติดต่อญาติได้ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวอาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายและสิทธิเสรีภาพของนายยงยุทธ ทั้งนี้ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 19 ระบุว่า บุคคลใดจะถูกจับกุมหรือคุมขังโดยพลการมิได้ บุคคลใดที่ถูกจับกุมหรือควบคุมตัวในข้อหาทางอาญา ย่อมต้องถูกนำตัวไปศาลโดยพลัน เพื่อที่จะได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันสมควร แต่การควบคุมตัวนายยงยุทธ บุญดี ในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการควบคุมตัวโดยไม่ชอบและถูกบังคับให้หายสาบสูญซึ่งขัดกับหลักการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
ดังนั้นศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการจับกุม การควบคุมตัว และการแถลงข่าวการดำเนินคดีกับนายยงยุทธ บุญดี เปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวโดยทันทีและคุ้มครอง นายยงยุทธ บุญดี ได้เข้าถึงสิทธิในการพบญาติ สิทธิในการพบหารือทนายความ สิทธิในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนายยงยุทธ บุญดี เนื่องจากปัจจุบันนายยงยุทธ บุญดี มีสถานะเป็นเพียงผู้ต้องหา ยังไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีหรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด
ด้วยความเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
...
The case of Mr. Yongyuth Boondee
A probable case of arbitrary detention and enforced disappearance
The Thai Lawyers for Human Rights (TLHR) has been monitoring the case of Mr. Yongyuth Boondee, aka “Daeng Chin Jung”, against whom warrants has been issued by the Nonthaburi Provincial Court on grounds of premeditated murder, damage of property with the use of explosives, illegal possession of firearms, weapons and explosives. On 1st Auguest 2014, the Provincial Police Region 1 presented Mr. Yongyuth Boondee at a press conference during which the officials stated that Mr. Yongyuth Boondee was suspected to have been involved with firing M79 grenades into the demonstration sites of the People's Democratic Reform Committee (PDRC) and others, altogether 11 times.
Since the press conference, the relatives of Mr. Boondee have no information about his whereabouts. TLHR has made attempts to contact concerned agencies including senior inquiry officials involved with organizing the press conference, inquiry officials in charge of the case and prison officials, all of who have denied any knowledge of the fact of detention of Mr. Yongyuth Boondee.
Nevertheless, on 8 August 2014, TLHR approached the Provincial Police Region 1’s officials again. The police informed us that he had been bailed out and that they had no information about the present whereabouts of Mr. Yongyuth Boondee. Further, military officials presented a document to TLHR, which stated that Mr. Yongyuth Boondee has consented to voluntarily stay in the military custody. Mr. Yongyuth Boondee’s relatives have informed TLHR that they had not applied for his bail.
TLHR is gravely concerned about the circumstances relating to his bail. TLHR is also concerned about the probability of Mr. Yongyuth Boondee being held in secret detention, making him vulnerable to torture and enforced disappearance.
According to Article 9 of the International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR), no one shall be subjected to arbitrary arrest or detention. Anyone arrested or detained on a criminal charge shall be brought promptly before a judge or other officer authorized by law to exercise judicial power and shall be entitled to trial within a reasonable time.
Therefore, TLHR urges officials concerned with the arrest, detention and holding of the press conference declaring their intention to press charges against Mr. Yongyuth Boondee to immediately disclose his whereabouts and ensure that he has access to his relatives and his lawyer and that his right to access justice is guaranteed along with necessary protection to ensure safety and welfare of Mr. Yongyuth Boondee. As of now, Mr. Yongyuth Boondee is simply a suspect, and neither any charges have been officially pressed against him, nor any final verdict made to prove his guilt.
With respect for people’s rights and liberties
Thai Lawyers for Human Rights (TLHR)