วันอังคาร, พฤศจิกายน 03, 2558

ทำไมใน สงคราม Cyber War ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ต้องรู้จักการป้องกันตนเองทางไซเบอร์ ?






ที่มา

พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall


คำถาม : ทำไมใน สงคราม Cyber War ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ต้องรู้จักการป้องกันตนเองทางไซเปอร์ ?

คำตอบ : เพราะรัฐเผด็จการไม่ได้มองประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย แต่มองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง รวมถึงการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทางโซเซียลเน็ตเวิร์กท้งหลาย ก็อยู่ในข่ายที่รัฐฯได้ติดตามตรวจสอบ โดยละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน โดยรัฐฯได้ทำการสอดส่อง ข้อมูลการสื่อสารของประชาชน(แบบผิดกฎหมาย เพราะไม่มีอำนาจตามกฎหมายใดๆรองรับ) บนโลกออนไลน์มาโดยตลอด และกำลังพยายามจะทำให้การตรวจสอบ(แบบผิดกฎหมาย)นั้น กลายให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยออกเป็นกฎหมาย(ว่าด้วยความมั่นคงทางไซเปอร์ต่อไป) เพื่อรองรับการเข้าสู่ขั้นตอนการปิดประเทศต่อไป.....

ประชาชน ถูกตรวจสอบมานานแล้ว เพียงแต่พวกเราไม่รู้ตัวเท่านั้น จะเห็นได้ว่า เอกสารตามภาพประกอบนี้ เป็นการประชุม ตั้งแต่เดือน เมษา ๕๘ มาแล้ว...

และโครงการ Single Gateway จะทำให้การตรวจสอบนี้ง่ายยิ่งขึ้นเท่านั้น...

โดยมีขั้นตอนเริ่มจากการเฝ้าระวังติดตามประชาชน แล้วไปกำหนดเป้าหมายเพื่อติดตามเชิงลึก และนำไปสู่การใช้มาตราการทางกฎหมายเท่านั้นเอง

เวลานี้ ประชาชนผู้ยังรักเสรีภาพ คงเหลือทางเลือกคือ ปิดปาก ปิดหู ปิดตาของตน(เพื่อความปลอดภัยของตนเอง) นั่งอยู่ในมุมเงียบๆ ยินยอม แบบค่อยๆเดินไปสู่อนาคตของเกาหลีเหนือโมเดล ตามการนำของลุงตู่ หรือ เริ่มเรียนรู้ที่จะป้องกันตนเอง ปกป้องความเป็นส่วนตัวของตน และเมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น ก็ประกาศตัวเป็นนักรบไซเปอร์ ในโลกออนไลน์(ผู้ไร้ตัวตน) ทำหน้าที่ปกป้อง พื้นที่เสรีภาพสุดท้ายบนโลกออนไลน์เอาไว้ และร่วมกันปกป้องเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ ข้อมูล ข่าวสาร จากการคุกคามของรัฐเผด็จการทหาร

ตอนนี้ มี ๒ ทางเลือก อยู่ที่คุณจะเลือกทางไหน ?

เรื่องเกี่ยวข้อง...


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446444089

′แล้วเจอกัน′ จาก Anonymous ถึงประยุทธ์ ชูธงประกาศ′สงครามไซเบอร์′

มติชนออนไลน์
วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ siripong@gmail.com

เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนโน้นผมไปตะแล้ดแต๊ดแต๋อยู่ทางเหนือ ไปเขาขึ้นดอยสัมผัสกับธรรมชาติอันสงบงดงาม ตัดขาดจากข่าวสารข้อมูลไปเสียหลายวัน จิตใจปลอดโปร่งโล่งสบายดี กลับมาไม่กี่วันถึงได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการประกาศสงครามไซเบอร์กับรัฐบาลทหารโดยกลุ่มแฮกเกอร์มีชื่อรู้จักกันไปทั่วโลกว่าAnonymous

Anonymous เป็นเครือข่ายการรวมตัวกันอย่างหลวมๆ ของแฮกเกอร์ทั่วโลก ไม่มีการจัดองค์กรการดำเนินงานใดๆ ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน มีแนวโน้มในลักษณะอนาธิปไตย หรือการปฏิเสธอำนาจรัฐแบบรวมศูนย์ ไม่มีผู้นำ ไม่มีผู้สั่งการ นอกจากร่วมมือกันผ่านโลกออนไลน์ปฏิบัติการในลักษณะที่เรียกว่าสงครามไซเบอร์เป็นวาระๆ ไป เป้าหมายที่ถูกโจมตีมีทั้งหน่วยงานรัฐ บริษัทใหญ่ๆ ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องอื้อฉาวบางเรื่อง

ในการโจมตีมีทั้งการโจมตีแบบ DDoS หรือการเจาะเข้าไปล้วงเอาข้อมูลออกมาตีแผ่

จุดกำเนิดของ Anonymous มาจาก 4chan.org เมื่อราวปี 2003 เว็บนี้เป็นเว็บบอร์ดประเภท imageboard ที่เปิดให้คนโพสต์ภาพโดยไม่ต้องแสดงตัวตัว (anonymously) โดยในบอร์ดก็จะแบ่งเป็นฟอรั่มย่อยๆ แยกกันไปตามกลุ่มความสนใจ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน หรือที่จริงก็คือไม่มีช่องให้สำหรับการลงทะเบียนยกเว้นสต๊าฟของบอร์ดเท่านั้น ใครใคร่ใช้ก็ใช้

ฟอรั่มบน 4chan ที่กลายเป็นต้นกำเนิดที่แท้จริงของกลุ่ม Anonymous ก็คือห้องที่ใช้ชื่อว่า "/b/" สมาชิกประจำส่วนใหญ่ของห้องนี้เป็นพวกวัยรุ่นซุกซนร้อนวิชา ปฏิบัติการแฮกเพื่อเอามันส์ แต่ก็มีแนวโน้มความคิดคล้ายคลึงกันอยู่ในการต่อต้านการใช้อำนาจรัฐรวมศูนย์ และเชิดชูเสรีภาพของข้อมูลข่าวสาร

ในสงครามไซเบอร์ครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อคราวเว็บไซต์วิกิลีกส์ของจูเลียน อัสซานจ์ ถูกรุมถล่มจากทุกสารทิศ โดยเฉพาะจากกลุ่มแฮกติวิสต์ขวาจัด การเล่นงานอัสซานจ์ไปถึงขั้นบีบทุกวิถีทางให้วิกิลีกส์ต้องปิดตัวลง หลังอัสซานจ์ตีแผ่ข้อมูลลับทางการทหารของรัฐบาลสหรัฐออกมา กลุ่ม Anonymous ก้าวออกมาปฏิบัติการที่เรียกว่าเป็นการเอาคืนแทนอัสซานจ์

เว็บของบริษัทที่เกี่ยวข้องในการบีบอัสซานจ์ถูกไล่โจมตีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มาสเตอร์การ์ด, โพสต์ ไฟแนนซ์, สำนักงานอัยการสวีเดน แม้แต่อเมซอนและเพย์พาล แต่อเมซอนใหญ่เกินไปกว่าที่กองกำลังไซเบอร์ของ Anonymous จะถล่มให้ล่มได้ ส่วนเพย์พาลก็เป็นช่องทางทำธุรกรรมทางการเงินที่พวกเขาใช้งานกันอยู่

นอกจากนั้นเครือข่ายของผู้สนับสนุน Anonymous ต่อจุดยืนในการต่อต้านการเล่นงานวิกิลีกส์และอัสซานจ์ยังแสดงออกกันทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ (แบบออฟไลน์ก็คือการใส่หน้ากากสัญลักษณ์ไปยืนชูป้ายประท้วงตามถนน)

เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นการประท้วงที่มีนัยยะทางการเมืองครั้งใหญ่ในโลกไซเบอร์ และกลุ่ม Anonymous ก็มีปฏิบัติการก่อสงครามไซเบอร์เรื่อยมา

ล่าสุดก็คือประเทศไทย โดยบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT Telecom ที่เว็บไซต์ถูกถล่มและเจาะเอาข้อมูลลูกค้าไปเผยแพร่ทั้งชื่อผู้ใช้ พาสเวิร์ด มีการโจมตีแบบ DDoS กับเว็บไซต์อื่นๆ ของรัฐบาลจนล่มด้วย คือทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน

การโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นทอดเวลาหลังจากผู้นำรัฐบาลไทยยืนยันเรื่องซิงเกิล อินเตอร์เน็ต เกตเวย์ มาหลายวัน แต่เป้าหมายนั้นชัดเจนว่าเป็นการประท้วงต่อนโยบายดังกล่าว

ในแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ของ Anonymous ระบุว่า สถานการณ์ในประเทศที่ผ่านมาหลายเดือนไปไกลเกินไป มีการจำกัดการเข้าถึงเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานต่อใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารและระบุชัดเจนว่าโครงการซิงเกิล เกตเวย์คือโครงการที่มุ่งจะควบคุม ดักข้อมูล และจับกุมคุมขังคนที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลทหาร

การโจมตีที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของรัฐยังเป็นเพียงการชิมลางเท่านั้น ได้แต่คอยจับตาดูกันว่าจะมีสงครามใหญ่ของจริงตามมาเมื่อไร

ในทวิตเตอร์ของ Anonymous หลังประกาศสงครามไซเบอร์กับรัฐบาลทหารไทย มีข้อความประกาศไว้ว่า "นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย แล้วเจอกัน"

เห็นข้อความว่า "Expect Us" เมื่อไรก็ให้เตรียมรับมือกันดีๆ

มันมาจากข้อความเต็มๆ ที่สมาชิกกลุ่ม Anonynous นิยมใช้กันก็คือ "We are Anonymous. We are Legion. We do not forgive. We do not forget. Expect us" ใส่แฮชแท็กไว้เผื่อติดตามข่าวสารกันง่ายๆ ด้วยว่า #OpSingleGateway

ooo

Single Gateway คืออะไร ? (แบบเข้าใจง่ายๆ)



https://www.youtube.com/watch?v=6jkW49OvMyQ