เพิ่งทราบ จุดมุ่งหมายสำคัญอย่างหนึ่งในการแจกเงินดิจิตอลของรัฐบาลเศรษฐา อยู่ที่การสอนประชาชนให้รู้จักเทคโนโลยี่ ‘ดิจิทัล’ กันอย่างถ้วนทั่ว นี่ฟังจากการอภิปรายของ ส.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ เพื่อไทย จ.อุบล
เธอสาธยายว่ามีเสียงทัก งั้นทำไมต้องใช้เงินถึงหมื่น เธอว่าเพราะแอ็พนี้จะมีการต่อยอดไปให้ประชาชนใช้ได้หลากหลายมิติ เลยชวนให้หวนนึกถึงตอนเริ่มโครงการใหม่ๆ นายกฯ เศรษฐาฝันเฟื่องว่าจะจัดตั้งระบบดิจิทัลใหม่ขึ้นมาสำหรับการนี้
ตอนนั้นมีเสียงชาวบ้านร้องอ๋อ ว่าแท้จริงอยากจัดทำระบบดิจิทัลนี่เอง แต่เอาการแจกเงินมาเกี่ยวเบ็ดล่อ ทว่าโครงการระยะแรกฝันเฟื่องมากจนเหมือนสร้างวิมานในอากาศ เสียงแนะให้ใช้แอ็พเป๋าตังค์ก็ไม่เอา แต่ต่อมาจะเอาก็เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว
มาถึงตอนนี้ดันกันมาใกล้จะสุด จนประกาศว่าจะเริ่มลงทะเบียนวันที่ ๑ สิงหาคมนี้ละนะ วันที่ ๑๕ กันยาได้ใช้เงินดิจิทัลกันละ แต่ก็คงเพราะความเคยชินของคนในรัฐบาลชุดนี้ ตั้งแต่หัวมงกุฏถึงหางมังกร พูดไม่หมด มักตกๆ หล่นๆ
พอดีมี ส.ส.ฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลชอบซอกแซกซอนๆ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ลุกขึ้นถามรัฐมนตรีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ในสภา ขอให้ย้ำว่า วันที่ ๑ สิงหาพวกผู้ค้าได้ลงทะเบียนแน่นะ จึงได้ทราบกันว่า ที่ประกาศไว้ ๑ สิงหานั้นลงทะเบียนเฉพาะผู้รับ
และเป็นผู้รับแจกที่มีสม้าร์ทโฟนใช้เท่านั้น ประชาชนประเภท นอน-สม้าร์ทโฟน หรือมีโทรศัพท์มือถือแต่ไม่อัจฉริยะ ยังลงทะเบียนไม่ได้ ต้องรอรัฐบาลประกาศภายหลัง เช่นกันกับพวกร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ อาจรอต่ออีกนานหน่อย
รัฐบาลประกาศว่าขณะนี้เตรียมเปิดระบบลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอ็พ ‘ทางรัฐ’ ซึ่งคือแอ็พพัฒนาใหม่ ที่ ส.ส.สุดารัตน์พูดถึงนั่นละ แต่ก็รู้กันแค่สรรพคุณที่คุยเท่านั้น แอ็พพัฒนาไปถึงไหนไม่ได้บอก ก๊อเข้าทางสิริกันยุงสิ
ส.ส.ไหม ก้าวไกลอภิปรายในส่วนของการใช้งบประมาณ บอกในส่วนของระบบชำระเงินยังไม่มีประกาศจัดซื้อจัดจ้างเลยนะ แล้วยังราคาที่ระบุในงบประมาณนั้นเพียง ‘ค่าพัฒนาระบบ’ เท่านั้น ไม่ใช่สร้างขึ้นมาเป้นเจ้าของไว้ใช้ร้อยแปดพันประการ
แล้วที่รัฐบาลทำแข็งขันออกประกาศอีกฉบับเตือนแกมขู่ว่าช่วงลงทะเบียน ๑ ส.ค.ถึง ๑๕ ก.ย.อย่าได้พยายามแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดกันล่ะ จับได้โดนดำเนินคดีอาญาและตัดสิทธิโครงการของรัฐต่อไปในอนาคต
ก็เจอ ส.ส.ก้าวไกลอีกแหละ วรภพ วิริยะโรจน์ อภิปรายว่า “นี่คือประเด็นนะครับ การที่ตั้งเงื่อนไขว่า ร้านค้าที่รับเป็นเงิน #ดิจิทัลวอลเล็ต มาแล้วแลกเป็นเงินสดไม่ได้ คือ การกีดกันร้านค้ารายย่อยออกจากระบบ ออกจากโครงการ”
วรภพลงรายละเอียด ร้านค้ารายย่อย เช่น “ร้านลูกชิ้นปิ้งถ้าไม่เข้าร่วมโครงการ คนจะไปซื้อในร้านสะดวกซื้อแทน รายเล็กรายได้หาย ร้านข้าวมันไก่เข้าร่วมแต่ ร้านที่ขายไก่สดที่เขาซื้ออยู่ไม่เข้าร่วม ร้านข้าวมันไก่ต้องไปซื้อไก่เจ้าสัวแทน...
สุดท้ายนะครับโครงการนี้จะเป็นเพียงกู้ครั้งใหญ่ ที่จะทิ้งหนี้ไว้ให้กับประชาชน แต่จะเปลี่ยนเป็นพายุหมุนให้เข้ากระเป๋าเจ้าสัว”
(https://x.com/b_B1B2B3/status/1813455840034328749, https://x.com/webdevxp/status/1813498377159745673 และ https://x.com/jin_somroutai/status/1813536461746237873)