วันอังคาร, กรกฎาคม 23, 2567

จับผิดปลาหมอคางดำ ง่ายนิดเดียว


ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี
July 16
·
จับผิดปลาหมอคางดำ ง่ายนิดเดียว
1.CPF ผู้นำเข้าแจ้งว่า ปลาอ่อนแอจึงเลิกการทดลอง จากนั้นทำลายจนตายเกลี้ยง แล้วส่งตัวอย่างปลาที่ตายแล้ว 50 ตัวดองฟอร์มาลินในโถ 2 ใบส่งให้กรมประมง
2.กรมประมง ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ไม่เคยได้รับตัวอย่างดังกล่าว
3.กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด โดยนักวิชาการอาวุโส 4 คน ทำการวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์เส้นทางการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในเขตพื้นที่ชายฝั่งของไทยจากโครงสร้างพันธุกรรมของประชากร (เอกสารวิชาการที่ 2/2565) ยืนยันว่า ปลาที่ระบาดอยู่ในไทยในขณะนั้นมีDNAเหมือนกัน จึงแปลว่า มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน
4.ในเมื่อตัวอย่างปลา 50ตัวหายไป การตรวจDNAจึงทำไม่ได้ จึงเหลือทางออก 2 ทางครับ
4.1)ไปขุดตรงจุดที่อ้างว่า ฝังกลบแล้วเอากระดูกมาตรวจDNA
4.2)ตามไปที่ต้นทางในประเทศกานา ผมเชื่อว่า ต้นทางจะมีข้อมูลDNA แน่นอน
ความจริงมีหนึ่งเดียวครับ ประเดี๋ยวก็รู้ว่า ใครเบี้ยว(https://www.facebook.com/photo?fbid=1007712590811818&set=a.470681734514909)
.....
BIOTHAI

ปลาหมอคางดำ ถูกอนุบาล เพาะเลี้ยง ผสมพันธุ์กับปลานิล เกิดขึ้นในฟาร์มยี่สารตั้งแต่ปี 2553 จนถึงเมื่อชาวบ้านร้องเรียนกสม. จนกลายเป็นข่าว และมีรายงานของกสม.ในปี 2560-2561 ไม่ต้องไปเค้นกรมประมงว่าปลาตัวอย่าง 50 ตัวที่ส่งจากซีพีอยู่ที่ไหน เพราะตราบใดที่ซีพีไม่สามารถเอาเอกสารยืนยันและหลักฐานรับรองว่าส่งให้จริง มันก็คือ #นิยายปลาตาย2000ตัว เพื่อปกปิดความผิด และโยนบาปให้กับผู้อื่น (โยนบาปให้กรมประมง และโยนบาปให้กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงาม)
หลักฐานทั้งหมดที่มี ล้วนบ่งชี้ว่าการระบาดของปลาหมอคางดำมาจากศูนย์กลางที่อยู่บริเวณฟาร์มยี่สาร
.....
BIOTHAI

ฉากจบของ #นิยายปลาตาย2000ตัว
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่อธิบดีกรมประมงจะต้องรับแรงกดดันจากบริษัทยักษ์ใหญ่ กลุ่มสนับสนุนซีพีที่อยู่ในคณะรัฐมนตรี และเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้ค้นหาความจริง และเอาผู้ก่ออาชญากรรมสิ่งแวดล้อมมารับผิดชอบ