วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2567

ตลาดหุ้น สะท้อนอะไรได้หลายอย่าง เช่น สะท้อนได้ถึง ภาวะเศรษฐกิจ วิกฤติทั้งปัจจุบันและในอนาคต ดูเหมือน นรกรอเราอยู่


Teepakorn Kulnguan
July 22
·
ตลาดหุ้น
สะท้อนได้ถึง ภาวะเศรษฐกิจ มุมมองเศรษฐกิจทั้งปัจจุบันและในอนาคต
ย้อนรอยแต่ละช่วงของกราฟ SET ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
1.สีแดง : วิกฤติต้มยำกุ้งปี 40
รัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ ตรึงค่าเงินบาท ที่ 25 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์
เงินสะพัด ธนาคารปล่อยสินเชื่อง่าย , มีหนี้ต่างประเทศสูง , มีการลงทุนเกินตัวโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์
นำมาสู่ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ตามด้วยการโดนโจมตีค่าเงิน และการลอยตัวค่าเงินบาท
จาก 25 บาท/ดอลลาร์ เป็น แถวๆ 50 บาท / ดอลลาร์
เท่ากับเป็นหนี้ เท่าตัวภายในวันเดียว
ฟองสบู่แตก ธนาคารพัง ธุรกิจพัง ปิดกิจการ กระทบเป็นลูกโซ่ บริษัทเจ๊ง คนตกงาน ตลาดหุ้นพัง ฯลฯ
การฟื้นตัวตอนนั้น ได้ภาคส่งออกและการท่องเที่ยวเข้ามาช่วย ซึ่ง 2 ภาคธุรกิจนี้ ได้รับประโยชน์จากการที่เงินบาทอ่อน ประเทศไทยก็เลยค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
2.สีเหลือง : วิกฤติ .com
ฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาแตก ตลาดหุ้นอเมริกาลงอย่างหนัก และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งล้มละลาย
ไทยตอนนั้น ไม่ได้รับผลกระทบในทางตรงหรือในทางอ้อมในภาคเศรษฐกิจจริง
แต่ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบ ตรงที่เม็ดเงินลงทุนที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนหายไป และมีการถอนเงินทุนจากตลาดออกไปเพื่อถือเงินสดสำรอง หรืออื่นๆเนื่องจากเจ็บจากตลาดหุ้นอเมริกา
การส่งออกและการท่องเที่ยวไทยยังดีอยู่ เศรษฐกิจยังคงเติบโตต่อเนื่อง ไม่นานตลาดหุ้นก็กลับมาพุ่งทะยาน
3.สีเขียว : วิกฤติ Subprime ของอเมริกาและการเมืองไทย
เกิดจากการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ และปล่อยกู้ที่หละหลวม ในอเมริกา
ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในอเมริกาแตก , เกิดการผิดนัดชำระหนี้บ้าน สถาบันการเงินล้มละลาย
สิ่งไทยได้รับผลกระทบ จากวิกฤติ Subprime คือ นักลงทุนต่างชาติหายไปและลดการลงทุนลง , ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในทางตรงกับอเมริกาและทางอ้อม ลดลง
หลังจากนั้นอเมริกาทำการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ จึงค่อยๆฟื้นตัว
และไทยเจอปัญหาการเมือง ประท้วง ปิดสนามบิน และความขัดแย้งทางการเมือง
ตลาดหุ้นไทย ลดลงแรงจาก 900 จุด ลงมาแถวๆ 400 จุด
เศรษฐกิจไทยสะดุดไม่มาก และหลังจากนั้นยังคงกลับเติบโตทั้งการส่งออก และท่องเที่ยวอยู่ ทำให้ผ่านวิกฤติไปได้
4.สีฟ้า : วิกฤติ Covid 19
เกิดโรคระบาดทั่วโลก ปิดประเทศ , หยุดกิจการชั่วคราว เศรษฐกิจหยุดชะงัก
ผ่านมาได้เพราะ หลายประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ด้วยการ ลดอัตราดอกเบี้ย , แจกเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และไทยเองก็ทำ
การค้าขายกลับมาสู่ปกติ ตลาดหุ้นกลับมาสู่ปกติ แต่เริ่มทิ้งบาดแผล ฝังเชื้อร้ายไว้กับเศรษฐกิจไทย และหลายประเทศ
5.สีส้ม : วิกฤติ…ที่ยังไม่มีชื่อ
สิ่งที่ประเทศไทยกำลังเจอ
- หนี้ครัวเรือนสูง
- ไม่มีเทคโนโลยีของตนเอง ขาดนวัตกรรม นำไปสู่การขาดความสามารถทางการแข่งขัน
- ไทยเป็นเพียงประเทศรับจ้างการผลิตในอุตสากรรมที่ใกล้จะถูก Distrub
- ปัญหาทางการเมือง
- ความบอบช้ำทางการเงินที่สะสมมาตั้งแต่ตอน Covid 19
- สินค้าจากจีนทะลักเข้ามาตีตลาดไทยและผู้ประกอบการไทย
- สังคมผู้สูงอายุ
- ความท้าทายจากการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีค่าแรงถูก มีวัยแรงงาน และกำลังมีแนวโน้มเติบโต เช่น เวียดนาม
ฯลฯ
สะท้อนมาถึงผลประกอบการของหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และสะท้อนถึงการลดลงของราคาหุ้นในตลาด
จะผ่านไปได้เหมือนวิกฤติที่ผ่านๆมามั้ย ครั้งนี้คงต้องลุ้นกันจนตัวโก่ง
กราฟ SET บอกและสะท้อนได้หลายอย่าง

https://www.facebook.com/photo/?fbid=7858799327569402&set=a.255378707911540