BIOTHAI
อธิบดีกรมประมงโต้ “ซีพีเอฟ” ที่อ้างกำจัดปลาหมอคางดำตั้งแต่ปี 2554 แต่ปี 2560 ทอดแห ในบ่อเพาะเลี้ยงของบริษัทที่ อ.อัมพวา ยังเจอปลาหมอคางดำ พร้อมออกประกาศย้ำห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่บ่อเลี้ยงปลากะพงในเมืองสมุทรปราการโอดเจอปลาหมอคางดำสุดอึดอยู่ได้แม้ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ขยายพันธุ์จนแน่นทำน้ำเน่า ปลากะพงน็อกตายหมด หนำซ้ำยังเขมือบลูกปูทะเล หอยแครง กุ้งเลี้ยงจนเกลี้ยง อึ้งหนักพบ “ปลาหมอมายัน” ในบ่อด้วย
จากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยายามเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมหาต้นตอของการระบาด โดยเมื่อวันที่ 21 ก.ค.นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงกรณีการขออนุญาตนำเข้า เพื่อนำมาวิจัยปรับปรุงพันธุ์ ปลาหมอคางดำของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ตั้งแต่ปี 2549 ว่า กระทั่ง เดือนธันวาคม 2553 จึงสามารถนำปลาหมอคางดำ เข้ามาได้ผ่านด่านตรวจประมงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นแจ้งว่างานวิจัยไม่ประสบความสำเร็จจึงกำจัด ทำลายซากปลาทั้งหมดในเดือนมกราคม 2554 ต่อมา เริ่มพบการระบาดของปลาหมอคางดำในปี 2555 แล้วขยายวงกว้างขึ้นจนรุนแรงอย่างยิ่งในขณะนี้
อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า แม้ส่วนตัวจะเป็นอธิบดี มาได้แค่ 4 เดือน แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พบว่า ในปี 2560 เจ้าหน้าที่กรมประมงขอเข้าตรวจสอบที่บ่อเพาะเลี้ยงของซีพีเอฟที่ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อตรวจหาสาเหตุเกี่ยวกับการระบาดของปลาหมอคางดำ โดยมีการทอดแห ในบ่อเพาะเลี้ยง พบว่า มีปลาหมอคางดำในบ่อ จึงได้ เก็บตัวอย่างจากครีบและชิ้นเนื้อ มารักษาไว้ที่ห้อง เก็บตัวอย่างของกรมประมง ทั้งนี้ กรมได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของปลาหมอคางดำ รุกรานระบบนิเวศแหล่งน้ำของประเทศไทย และสร้างผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง ตามคำสั่งของที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการ แพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ให้ทราบข้อเท็จจริง ภายใน 7 วันทำการ แล้วรายงานต่อร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯต่อไป
BIOTHAI
ทีนี้มารอดูกันว่าเขาจะยอมรับอย่างที่ #บริษัทธรรมาภิบาล# ควรจะเป็น หรือ จะแถต่อไป
(https://www.facebook.com/biothai.net/posts/901882468651834?ref=embed_post)
.....
อธิบดีกรมประมงโต้ “ซีพีเอฟ” ที่อ้างกำจัดปลาหมอคางดำตั้งแต่ปี 2554 แต่ปี 2560 ทอดแห ในบ่อเพาะเลี้ยงของบริษัทที่ อ.อัมพวา ยังเจอปลาหมอคางดำ พร้อมออกประกาศย้ำห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่บ่อเลี้ยงปลากะพงในเมืองสมุทรปราการโอดเจอปลาหมอคางดำสุดอึดอยู่ได้แม้ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ขยายพันธุ์จนแน่นทำน้ำเน่า ปลากะพงน็อกตายหมด หนำซ้ำยังเขมือบลูกปูทะเล หอยแครง กุ้งเลี้ยงจนเกลี้ยง อึ้งหนักพบ “ปลาหมอมายัน” ในบ่อด้วย
จากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยายามเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมหาต้นตอของการระบาด โดยเมื่อวันที่ 21 ก.ค.นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงกรณีการขออนุญาตนำเข้า เพื่อนำมาวิจัยปรับปรุงพันธุ์ ปลาหมอคางดำของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ตั้งแต่ปี 2549 ว่า กระทั่ง เดือนธันวาคม 2553 จึงสามารถนำปลาหมอคางดำ เข้ามาได้ผ่านด่านตรวจประมงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นแจ้งว่างานวิจัยไม่ประสบความสำเร็จจึงกำจัด ทำลายซากปลาทั้งหมดในเดือนมกราคม 2554 ต่อมา เริ่มพบการระบาดของปลาหมอคางดำในปี 2555 แล้วขยายวงกว้างขึ้นจนรุนแรงอย่างยิ่งในขณะนี้
อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า แม้ส่วนตัวจะเป็นอธิบดี มาได้แค่ 4 เดือน แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พบว่า ในปี 2560 เจ้าหน้าที่กรมประมงขอเข้าตรวจสอบที่บ่อเพาะเลี้ยงของซีพีเอฟที่ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อตรวจหาสาเหตุเกี่ยวกับการระบาดของปลาหมอคางดำ โดยมีการทอดแห ในบ่อเพาะเลี้ยง พบว่า มีปลาหมอคางดำในบ่อ จึงได้ เก็บตัวอย่างจากครีบและชิ้นเนื้อ มารักษาไว้ที่ห้อง เก็บตัวอย่างของกรมประมง ทั้งนี้ กรมได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของปลาหมอคางดำ รุกรานระบบนิเวศแหล่งน้ำของประเทศไทย และสร้างผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง ตามคำสั่งของที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการ แพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ให้ทราบข้อเท็จจริง ภายใน 7 วันทำการ แล้วรายงานต่อร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯต่อไป
BIOTHAI
ทีนี้มารอดูกันว่าเขาจะยอมรับอย่างที่ #บริษัทธรรมาภิบาล# ควรจะเป็น หรือ จะแถต่อไป
(https://www.facebook.com/biothai.net/posts/901882468651834?ref=embed_post)
.....