จะว่าเพราะความเหิมของ สก.รุ่นเก๋าของ กทม. ทำให้กระป๋อง ‘งบแปร’ ถูกเปิดออกมา แล้วเจอหนอนยั๊วเยี๊ยะในนั้น เดือดร้อน ผู้ว่าฯ จะต้องจัดการชำระล้างงบแปรให้หมดจดได้แล้ว หนุ่มเมืองจันท์ ชี้ ถึงมือสะอาดก็ต้องไม่กลัวเปรอะ
“หลังจากจัดการปัญหา ‘เส้นเลือดฝอย’ จนเป็นรูปร่างมา ๒ ปี วันนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณชัชชาติต้องกล้าที่จะออกมาชนกับปัญหาเรื้อรังเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจังเสียที” ถ้ากล้าชนจะได้มวลชนหนุนหลัง “ชัชชาติต้องเล่นบทบู๊” แล้วละ
มันเริ่มมาจากพรรคก้าวไกลต้องการตั้งคนนอกสองคน เข้าไปนั่งในกรรมาธิการแปรงบ ๖๘ ของ กทม.แล้วถูก สก.พรรคเพื่อไทยออกมากระแนะกระแหน พยายามคัดค้าน ทั้งที่การแต่งตั้งนั้นเป็นสิทธิ อยู่ในโควต้าของพรรคก้าวไกล
พวก สก.เพื่อไทยเลยถูกฉะว่าเป็นพวก ‘ก้าวก่าย’ เมื่อวิโรจน์ ลักขณาอดิสร เขียนตอบโต้วิรัตน์ มีนชัยนันท์ สก.มีนบุรี พรรคเพื่อไทย อดีตประธานสภา กทม. ซึ่งเขียนแย้งข้อกล่าวหาของวิโรจน์ก่อนหน้านั้น เรื่องเพื่อไทยค้านตั้งคนนอก
นอกจาก ยันว่าเพื่อไทยยังไม่มีมติใดๆ เกี่ยวกับการตั้งคนนอกของก้าวไกลแล้ว สก.รุ่นเก๋าของเพื่อไทยเลยเถิดไปถึงเรื่อง “เคยมีคนนอกไม่รู้ลึกถึงความต้องการประชาชนแต่ละเขตดีเพียงพอ มีส่วนทำให้เกิดความขัดแย้งในการพิจารณากฎหมาย บางนโยบายไม่สะท้อนความต้องการประชาชน”
แน่ละวิโรจน์จึงท้าให้บอกชื่อมา คนนอกนั้นคือใคร แต่สองคนนอกที่พรรคตนขอตั้งครั้งนี้ อักษรย่อชื่อแรกเป็นตัว อ.ทั้งคู่ “เชื่อว่าหากมีการขานชื่อในที่ประชุมสภา จะได้รับการตอบรับที่ดีจากประขาชน” แล้วก็โพล่งเรื่องงบแปรออกมา
ปัญหามาจากการทุทริตคอรัปชั่นใน กทม.หลายอย่างไม่เฉพาะเรื่องการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย และการจัดซ่อมแอร์ที่อื้อฉาว ล้วนมีกรณีงบแปรเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะงบแปรเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณปกติ ที่แต่ละปีมีประมาณ ๔-๕ พันล้านบาท
ที่จริงอยู่ในอำนาจผู้ว่าฯ สั่งการว่าจะนำไปใช้ในโครงการอะไร แต่ก็ต้องมาจากคำแนะนำของผู้อำนวยการเขต ๕๐ เขต งบแปรในส่วนที่เป็นปัญหา ‘ไม่ดี’ เกิดจากมีกลุ่ม สก.เข้าไปยุ่งเหยิงเจ้ากี้เจ้าการ มีการล็อคเสป็คบ้าง ล็อคผู้รับเหมาบ้าง
“ซึ่งแต่ละปี มีเงินทอนไปสู่นักการเมืองท้องถิ่น ๔๐๐-๑,๐๐๐ ล้านบาท ต่อปี” วิโรจน์ว่า ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ซึ่งไม่มี สก.อยู่ในสังกัด ก็จะถูกกดดันจากกลุ่ม สก.ให้เป็นไปตามเสป็คของพวกตนอยู่ร่ำไป วิโรจน์ยังว่าถึงเรื่องที่กล่าวหา สก.เพื่อไทยเตรียมฮั้ว
ว่าการคัดค้านตั้งคนนอกที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปเป็นกรรมาธิการวิสามัญ ว่าไปในครรลองปกติก็ไม่จำเป็นต้องค้าน เพราะกรรมาธิการก้าวไกลมี ๖ คน ของผู้ว่าฯ อีก ๙ รวมเป็น ๑๕ ไม่ถึงครึ่งของกรรมาธิการทั้งหมด ๓๖ คน
“หากอยากจะให้งบประมาณของกรุงเทพฯ มีความโปร่งใสสุจริตใช้งานได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตนก็มองไม่เห็นว่ามีเหตุผลอะไรที่พรรคเพื่อไทยจะคัดค้านในเรื่องนี้”
(https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/0kTeAN1hEbQ และ https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/ztC2eSxsu)