วันจันทร์, กรกฎาคม 29, 2567

ร่างกฎหมายสองฉบับเข้าสภาฯ สำคัญยิ่งต่ออนาคตประชาธิปไตยไทย ประชาชนต้องคอยจับตาและช่วยกันปั้นแต่ง

ช่วงนี้มีร่างกฎหมายสองฉบับ ที่สำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตประชาธิปไตยไทย ประชาชนต้องคอยจับตาว่าจะไปต่ออย่างไร และช่วยกันปั้นแต่งให้อยู่ในทรงที่สร้างเสริมสิทธิเสรีภาพ และความเท่าเทียมอย่างสมบูรณ์ ให้จงได้

ฉบับแรก เคาะแล้ว ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมทางการเมือง ซึ่งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางฯ แถลงว่าพิจารณาเสร็จสรรพ กำลังยื่นเข้าสภาพิจารณาอนุมัติต่อไป อีกฉบับเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเพื่อลบล้างผลพวงจากการรัฐประหาร

ฉบับหลังนี่ ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอพร้อมกัน ๓ ฉบับ นอกจากฉบับ ยกเลิกประกาศและคำสั่งของคณะรัฐประหาร คสช.แล้ว มีเพิ่มหมวดป้องกันการทำรัฐประหาร และยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ชุดนี้เปรียบได้กับการเสนอ กม.อย่าง มาเวอริค

พริษฐ์ วัชรสินธุ แห่งพรรคก้าวไกลบอกว่า ต้องการผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามอุดมการณ์ให้ได้เร็วที่สุด จึงต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราคู่ขนานกันไปด้วย อีกทั้งเวลานี้วุฒิสภาชุดใหม่พร้อมปฏิบัติหน้าที่แล้วในไม่ช้า

ส.ส.ไอติม ให้รายละเอียดกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเสนอร่างฯ ๓ ฉบับพร้อมกัน ร่างที่หนึ่ง ยกเลิกมาตรา ๒๗๙ ในบทเฉพาะกาล ซึ่งเป็นมาตราที่ทำให้ประกาศและคำสั่งทุกฉบับของ คสช.และหัวหน้า คสช.ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

ร่างที่สอง “เพิ่มหมวด 16/1 ในรัฐธรรมนูญ เรื่องการป้องกันและต่อต้านรัฐประหาร” โดยให้อำนาจประชาชนในการต่อต้านรัฐประหาร เช่น “กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่วางแผนยึดอำนาจ”

นอกนั้นเพิ่มมาตรการป้องกันการยึดอำนาจ เช่น “ห้ามไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญและศาลทั้งปวง รับรองการรัฐประหาร” และทำให้การรัฐประหารมีราคาต้องจ่าย โดยกำหนดว่าประชาชนสามารถฟ้องร้องฐานกบฏต่อผู้ก่อการยึดอำนาจรัฐ

ส่วนการเสนอร่าง พรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นหัวหอกนั้น ระบุว่าในคดี “ที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ ถึงปัจจุบัน...โดยจะมีบัญชีแนบท้ายว่ามีคดีประเภทใดบ้างที่สมควรจะนิรโทษกรรม” ยกเว้นคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง

ในส่วนที่เกี่ยวกับคดีซึ่งมีความอ่อนไหวทางการเมือง ได้แก่คดีตามประมวล กม.อาญา มาตรา ๑๑๐ และ ๑๑๒ ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานกรรมาธิการแจ้งว่าจะเสนอต่อสภาเป็น ๓ ความเห็น คือเห็นควรและไม่เห็นควรอย่างไร กับการนิรโทษกรรมอย่างมีเงื่อนไข

ข้อสำคัญ “ควรมีมาตรการในทางบริหารก่อนที่จะมีการนิรโทษกรรม เนื่องจากมีคดีอยู่หลายประเภทที่ค้างอยู่ตามสถานีตำรวจ” เป็นคดีมโนสาเร่ เกี่ยวกับกฏจราจรบ้าง แต่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง อาจมีการสั่งไม่ฟ้องเสียก่อน

(https://www.matichon.co.th/politics/news_4700414 และ https://www.facebook.com/newsringside/posts/Hg8LXpx4hGcrav9)