.....
Atukkit Sawangsuk
11 hours ago·
มิตรสหายในวงราชการ
เห็นข่าวนายพลคนหนึ่ง
“ไอ้นี่ตอนปลายยุค คสช.มันมานั่งที่กระทรวง
ใครวิ่งงานกับมันได้หมด แต่ต้องหัก 30% อ้างว่าเอาไปให้นายตั้งพรรคการเมือง ผมเศร้าใจว่าประเทศนี้คนทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป เดี๋ยวมันก็คงจะเกษียณไปสุขสบาย ไม่มีใครเอาผิดได้ ทหารอายุยืนเสียด้วย“
:
จริงไหมไม่รู้ หักให้นายหรือเข้ากระเป๋าไม่รู้
แต่ทุกคนก็รู้ ตั้งพรรคดูด สส.ต้องใช้เงินมหาศาล
ทำรัฐประหารก็ต้องใช้เงินเลี้ยงลูกน้องคุมกำลัง
มันเป็นอย่างนี้มาทุกครั้ง ใช้อำนาจเผด็จการหาผลประโยชน์ โดยใครก็โวยไม่ได้ องค์กรปราบโกงทั้งหลายก็พวกเดียวกัน
มีแต่พวกซอมบี้คลั่ง เชื่อฝังหัวว่าทหารใช้อำนาจรักษาความเป็นไทย ปลูกฝังไปชั่วลูกหลาน
ความเป็นไทยนั้นรวมการโกงอย่างปากว่าตาขยิบ ตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ผู้จงรักภักดี
Atukkit Sawangsuk
12 hours ago
โอกาสของผู้สมัคร สว.
มิตรสหายที่แฝงกายไปสมัครโดยตีซี้ไปทั่วเล่าว่า
นายพลคนหนึ่งสอบตกทั้งที่จัดตั้งคนเข้าไปเยอะ
แต่ไปตกม้าตายรอบเลือกไขว้
เพราะแม่-ติดนิสัยทหาร เบ่ง กร่าง
ไปขอคะแนนเขาแล้วคิดว่าเขาจะให้ พอไม่ได้ก็โวยวาย นักเลง ทั้งที่พวกตัวเองก็เบี้ยวคนอื่น
(อันนี้ไม่ได้ว่าทุกคน ทหารที่นิสัยดี สมาร์ท เยนเติลแมน ก็มีอยู่ แต่ไม่ใช่พวกเข้ามาเป็นอันธพาลการเมือง)
:
ฟังจากมิตรสหาย และอ่านจากบางรายที่เล่า ว่าได้รับความช่วยเหลือจากคนที่ไม่รู้จัก
เห็นได้ว่านอกจากประวัติ การประกาศอุดมการณ์
มนุษยสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ
แม้ว่ารอบจังหวัดจะมีคนเยอะ ไม่มีโอกาสทำความรู้จักกันนัก
:
คือถ้าประเมินคร่าวๆ แม้อาจจะมีกลุ่มจัดตั้ง 40%
แต่พวกนี้ก็มาหลายสาย ทหาร ราชการ ทุนพลังงาน พรรคการเมือง เสื้อเหลือง ฯลฯ ซึ่งพร้อมจะเทคะแนนให้พวกตัวเองแต่ก็อาจตัดคะแนนกันเอง
ส่วนข้างมากยังเป็นผู้สมัครอิสระ คนตรงกลางๆ ที่ไม่ใช่ส้มไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม iLaw แต่ก็อยากเข้ามามีบทบาททางการเมือง
คนเหล่านี้โดยธรรมชาติเขาจะไม่โหวตให้ทหาร ข้าราชการผู้ใหญ่ อดีตนักการเมือง
เพียงมีปัญหาว่า ต่างคนต่างก็อยากเป็น ไม่พร้อมสละให้ใคร เว้นแต่ประเมินแล้วว่าตัวเองไม่ผ่าน
คนที่เขาจะเลือก นอกจากโปรไฟล์ ก็น่าจะเป็นบุคลิก ความน่าเชื่อถือ และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีนี่เอง