วันเสาร์, มิถุนายน 15, 2567

ในงานรำลึกครบ 1 เดือนการเสียชีวิตของ #บุ้งทะลุวัง “ธงชัย” กล่าวถึงปัญหาของระบบราชทัณฑ์ไทย เห็น ‘คนคุก’ ต่ำกว่ามนุษย์ปกติ ราชทัณฑ์จะต้องถูกปฏิรูป

https://www.facebook.com/RatsadonNews/videos/434143466212152
.....

ธงชัย วินิจจะกูล : ระบบราชทัณฑ์ไทยกำลังเห็น ‘คนคุก’ ต่ำกว่ามนุษย์ปกติ ราชทัณฑ์จะต้องถูกปฏิรูป

2024-06-14
ประชาไท

ในงานรำลึกครบ 1 เดือนการเสียชีวิตของ #บุ้งทะลุวัง “ธงชัย” กล่าวถึงปัญหาของระบบราชทัณฑ์ไทยที่ยังใช้การลงทัณฑ์แบบจารีตมองผู้ต้องขังต่ำกว่ามนุษย์ปกติซึ่งสะท้อนผ่านการจัดสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำและการรักษาพยาบาลของเรือนจำในกรณีของบุ้ง

14 มิ.ย.2567 ที่กินใจ คอนเทมโพรารี่ มีจัดงานรำลึกครบ 1 เดือนการเสียชีวิตของเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวังที่เสียชีวิตขณะถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีในโรงพยาบาลราชทัณฑ์หลังการอดอาหารเป็นเวลานาน โดยในงานมี ธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ Wisconsin Madison สหรัฐอเมริกา ร่วมกล่าวรำลึกถึงบุ้ง โดยยกประเด็นปัญหาของระบบราชทัณฑ์ไทยที่ต้องถูกปฏิรูป

ธงชัย วินิจจะกูล เริ่มจากกล่าวว่า เขาเข้าใจว่าเมื่อพูดถึงเรื่องของบุ้งที่เริ่มจากพูดถึงนิสัยใจคอของเธอเพื่อทำให้คนในสังคมมองเห็นถึงความเป็นมนุษย์ปกติคนหนึ่งของเธอนั้นจะทำต่อไปก็สามารถทำได้เพราะภาพพจน์ของตัวบุ้งเองเป็นประเด็นอยู่ในสังคม

อย่างไรก็ตามเขามีคำถามที่อยากถามว่า ถ้าคนที่ตายเป็นคนไม่ดีหรือมีนิสัยก้าวร้าวแล้วสมควรที่จะตายในคุกหรือ? เพราะต่อให้เป็นคนที่นิสัยไม่ดีเขาคนนั้นก็ไม่สมควรต้องตาย

“การตั้งคำถามทั้งหลายต่อนิสัยบุคลิกของเขาเป็นการทำให้ประเด็นเบี่ยงออกไป อย่าไปยอมเขาสิ”

เขาเห็นว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจหนักกว่าเดิมถ้าการเสียชีวิตบุ้งค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คนราวกับไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

ถ้าหากต้องการให้สังคมไทยรำลึกถึงบุ้ง เขาก็เห็นด้วยที่จะพูดถึงการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพราะบรรยากาศของความมืดมน และความสิ้นหวังนั้นแผ่ไปเยอะและบรรยากาศแบบนี้กำลังจะทำลายสปิริทของเราในระยะยาวที่ทำให้เราสยบแล้วก็ทำให้เราค่อยๆ หายไป

เขาเห็นด้วยกับการพูดถึงการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แต่ปัญหาของกระบวนการยุติธรรมนั้นยากกว่าที่เราคิด หลายปีมาแล้วที่พูดถึงการสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่การแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมอาจจะต้องใช้เวลามากและนานกว่ากระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยเยอะ และเขาก็ขอย้ำว่าประชาธิปไตยไม่สามารถแยกออกจากเรื่องของความยุติธรรม เป็นเรื่องที่ต้องไปด้วยกัน

“ถ้าต่อสู้เรื่องประชาธิปไตยโดยไม่สู้เรื่องกระบวนการยุติธรรมให้ตายก็ไม่มีทางสำเร็จ สองอย่างนี้เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน เราพูดถึงเรื่องกระบวนการยุติธรรมช้ากว่าพูดเรื่องประชาธิปไตยไป 40 ปี แต่ไม่สายที่จะเริ่มแล้วก็ต้องลุยกันต่อ

ถ้าอยากให้คนจดจำบุ้งเรื่องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมมันดี แต่แน่ใจหรือว่าพูดแค่นี้แล้วพอ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีและยังต้องพูดเรื่องกระบวนการยุติธรรมต่อ แต่ก็อยากให้ขมวดประเด็นสำหรับกรณีของบุ้ง เพราะการพูดเรื่องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องใหญ่โตมากแล้วก็ต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาเสนอให้การพูดเรื่องของบุ้งโฟกัสไปเฉพาะเรื่องในกระบวนการยุติธรรมเพื่อทำให้การเสียชีวิตของบุ้งมีคุณค่าคือการสะสางกับปัญหาของ “ระบบราชทัณฑ์” คุกต้องยกเครื่อง

“การตายของบุ้งเป็นตัวอย่างรูปธรรมที่ฟ้องอย่างชัดเจนว่าระบบราชทัณฑ์ทั้งหมดล้มเหลวและเป็นฆาตกร”

ธงชัยอธิบายปัญหาเรื่องระบบราชทัณฑ์ว่าเป็นปัญหาที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็แค่มีการร้องเรียนเป็นครั้งๆ ไป ไม่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างจริงจังว่าต้องมีการสะสางเสียที

ราชทัณฑ์ เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมและมีการปฏิรูปให้เป็นสมัยใหม่น้อยที่สุด น้อยกว่าตำรวจ น้อยกว่าอัยการและศาล ราชทัณฑ์ปัจจุบันเป็นมรดกของการลงทัณฑ์แบบจารีตมากกว่าส่วนอื่นของกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่ชื่อในภาษาอังกฤษของราชทัณฑ์คือ Department of Collection ที่เป็นคำในแนวคิดอาชญวิทยาแบบสมมัยใหม่ แต่คำที่ใช้ในภาษาไทยไม่เคยใช้คำที่มีความหมายตรงกับคำในภาษาอังกฤษแล้วใช้คำว่า “ราชทัณฑ์” และที่เขาให้ความสำคัญกับการใช้คำใดก็คือการคุมความคิด

ธงชัยอธิบายว่า คำ “ราชทัณฑ์” นี้มีมาแต่โบราณ คือการลงทัณฑ์คนและทำให้หวนถึงการลงทัณฑ์คนแบบจารีต และการลงทัณฑ์แบบจารีตก็คือการไม่ได้มองว่า “ผู้กระทำผิดคือมนุษย์ที่ต้องการการบำบัด” แต่มองว่าคนทำผิดเหล่านั้นสมควรถูก “หลวงลงโทษ” และการลงโทษที่สำคัญที่สุดคือการทำให้อับอายขายหน้าและทำให้ต่ำกว่ามนุษย์ปกติ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการลงทัณฑ์แบบจารีตของทั้งโลก แต่ทั้งโลกเขาได้ปรับให้การลงโทษเป็นสมัยใหม่คือการทำให้เป็น Collection(การปรับพฤติกรรม) แต่มีคำถามว่าแล้วของไทยได้ปรับให้เป็นสมัยใหม่จริงหรือ?

ธงชัยกล่าวต่อว่า การลงทัณฑ์แบบจารีตที่ทำให้คนเป็นมนุษย์ต่ำกว่าปกติเพราะเชื่อว่าจะทำให้คนเข็ดหลาบ รากฐานความคิดแบบนี้ทำให้คุกไทยแออัดยัดเยียดมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่สมัยที่ตัวเขาเองเคยติดคุกมาก่อน(สมัย 6 ตุลาฯ)

“เคยมีความพยายามแก้ไขอย่างจริงจังมั้ย หรือว่ามันเหมาะสมแล้วสำหรับคนคุกจึงไม่ต้องแก้ไข รากฐานความคิดแบบนี้แหละที่ปฏิบัติต่อคนคุกต่ำกว่ามนุษย์ปกติหรือเปล่า เป็นสาเหตุให้อาหารการกินมันแย่กว่าอาหารที่มนุษย์ควรจะกิน”

ธงชัยเล่าว่าในสมัยของเขาอาหารในเรือนจำก็แย่ ถ้าไม่ได้มีคนข้างนอกส่งอาหารให้ก็ไม่ได้กิน และอาหารในเวลานั้นก็คือน้ำต้มผักแล้วทุกวันนี้ดีกว่าน้ำต้มผักแค่ไหนก็ดูจากจดหมายของอานนท์ นำภา ทนายความที่ติดคุกอยู่ในตอนนี้ก็ได้ ถ้าอยากอยู่อย่างมนุษย์ปกติก็ต้องให้มีอาหารจากข้างนอกเข้าไปช่วย แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ถึงแก้ไขไม่ได้หรือเพราะไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำมองคนคุกคือคนที่ต่ำกว่ามนุษย์ปกติ

ธงชัยกล่าวว่า เมื่อความคิดพื้นฐานเป็นเช่นนี้จึงทำให้สังคมในคุกมีการใช้อำนาจอย่างดิบ ผู้คุมตบผู้ต้องขัง พื้นที่ในเรือนจำมีขาใหญ่มีมาเฟียคุม หรือในกรณีคุกหญิงก็ยังเคยมีทั้งการให้ถอดเสื้อตรวจร่างกายแล้วก็มีระบบเจ้าแม่ แต่เรื่องแบบนี้ก็ออกมาพูดกันไม่ได้เพราะอาจจะต้องติดคุกเหมือนกับเอกชัย หงษ์กังวานที่ออกมาโพสต์เล่าเรื่องในเรือนจำ

“คุกมันมีแต่ความน่าจะโกรธเพราะไม่เห็นเราเป็นคน”

ธงชัยกล่าวว่า แล้วเรื่องเหล่านี้มีหรือที่ราชทันฑ์จะไม่รู้หรือมองว่าระบบแบบนี้เหมาะสมแล้วที่เอามาใช้กับคนคุกให้ต่ำกว่ามนุษย์ และแนวคิดแบบนี้ทำให้แนวการปฏิบัติในคุกโดยเฉพาะในคุกหญิงใช้วิธีทำให้ต้องอับอาย ส่วนคุกชายก็ใช้กำลัง และเพราะมีพื้นฐานแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้มีอำนาจมืดทุกชนิดในคุกกระทั่งการแพร่หลายของยาเสพติดในคุก

เขาเห็นว่าอีกเรื่องที่สะท้อนให้เห็นว่าคนคุกต่ำกว่ามนุษย์ปกติก็คือการตีตรวน และแค่รัฐมนตรียุติธรรมหรืออธิบดีออกคำสั่งมาก็เพียงพอ แต่ไม่คิดจะทำเรื่องนี้และที่ไม่คิดถึงก็เพราะจิตใต้สำนึกที่มองว่าคนคุกต่ำกว่ามนุษย์ปกติ

ธงชัยกล่าวถึงอีกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่าคนคุกถูกมองว่าต่ำกว่ามนุษย์และเกิดขึ้นเป็นปกติจนคนอาจจะลืมไปแล้ว คือการอ้างว่าหมดเวลาราชการแล้วจึงไม่สามารถทำเรื่องประกันตัวได้

“คนติดคุกอยู่ คุณไม่แคร์เลยหรือว่าคนต้องติดคุกเพิ่มอีกหนึ่งคืน ในระบบ Collection ที่ถือว่าผู้ต้องขังก็คือมนุษย์เขาถือว่าการทำให้คนต้องติดคุกเพิ่มอีกหนึ่งคืนเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ คุณต้องไปปลุกผู้พิพากษามา คือถ้าจะไม่ให้ประกันก็ว่าไปแล้วขังต่อ แต่ถ้าจะให้ประกันคุณจะมาใช้เหตุผลว่าหมดเวลาราชการแล้วไม่ได้ เพราะเสรีภาพอิสรภาพของคนแม้จะ 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง มันสำคัญกว่าเวลาราชการ”

ธงชัยยังกล่าวอีกว่า ที่เรื่องนี้สังคมไทยอาจจะไม่คิดก็เป็นเพราะถือว่าคนคุกต่ำกว่ามนุษย์ปกติ คนหนึ่งคนไม่ควรจะต้องติดคุกเพิ่มแม้แต่วันเดียว แล้วอภิสิทธิ์ที่ทักษิณ ชินวัตรได้รับก็ไม่ใช่เรื่องผิดเลย แต่อภิสิทธิ์นี้ไม่ควรเป็นอภิสิทธิ์แต่ควรจะเป็นสิทธิ์ปกติของผู้ต้องขังทุกคน ทำไมไม่เผื่อแผ่อภิสิทธิ์นี้ถึงผู้ต้องขังปกติบ้าง ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับทักษิณ หรือแม้แต่ผู้ต้องขังในคดีที่ไม่ใช่คดีการเมืองก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน

ทั้งนี้ธงชัยก็ได้ย้ำว่าในกรณีของผู้ต้องขังทางการเมืองนั้นยังต้องกล่าวด้วยว่าจำนวนยังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดด้วยซ้ำ แล้วคนที่จะได้อภิสิทธิ์ดังกล่าวกลับขึ้นอยู่กับอำนาจ การเมือง ขึ้นอยู่กับดีล และเงิน ส่วนประชาชนสามัญทั่วไปทันทีกลายเป็นคนคุกความเป็นมนุษย์ก็ถดถอยลงไปทันทีและได้รับแต่อาหาร ความแออัดยัดเยียดและสารพัดเรื่องที่ระบบราชทัณฑ์แบบจารีตจะมอบให้

ธงชัยได้ยกถึงอีกแง่มุมของการลงทัณฑ์แบบจารีตและใกล้ชิดกรณีบุ้งที่สุดคือการรักษาพยาบาลคนคุก ถ้าทำให้มีการปรับปรุงเรื่องนี้ได้แค่นี้สำหรับเขาก็ต้องยกมือไหว้แล้ว

ธงชัยเล่าถึงในสมัยที่เขาติดคุกอยู่มีเพื่อนที่โดนยิงเข้าที่ปาก แค่จะอนุญาตไปเอายาแก้อักเสบที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ยังยากเย็นแสนเข็ญ จนต้องลักลอบส่งจดหมายออกจากเรือนจำไปร้องเรียนต่อนานาชาติให้กดดันไทย เพื่อนของเขาถึงได้รับการส่งตัวไปรักษา ถึงตอนนั้นปากของเพื่อนคนนี้ก็อักเสบจนเละไปแล้ว จนกระทั่งหลังได้รับการปล่อยตัวแล้วอีกหลายปีต่อมาถึงได้รักษาฟื้นฟูกลับมา

“คำถามง่ายๆ มีหมอกี่คน มีเครื่องมืออะไรบ้าง เวลาราชการเท่าไหร่ สัดส่วนของแพทย์กับผู้รับการรักษาพยาบาลมีเท่าไหร่ ก็จะพบว่าสัดส่วนมันรับไม่ได้เลย ประเทศว่ารับไม่ได้แล้วในคุกยิ่งรับไม่ได้”

ธงชัยเห็นว่าการจะเริ่มต้นปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทำให้มันเล็กลงมาที่ราชทันฑ์และเล็กลงมาในเรื่องการรักษาพยาบาลในคุกได้ และจะสามารถทำให้การเสียชีวิตของบุ้งมีความหมายด้วยการพุ่งไปสู่ประเด็นยกเครื่องปรับปรุงระบบราชทัณฑ์ได้หรือไม่เป็นเรื่องที่อยากให้ลองคิดถึงการยกระดับสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ ยกระดับสภาพอาหารให้มนุษย์กินได้ และการปฏิบัติที่ทำให้ผู้ต้องขังเป็นมนุษย์ที่ต่ำกว่าต้องยกเลิกรวมถึงการตีตรวนใส่ข้อมือข้อเท่าทั้งหมด ปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลของราชทัณฑ์ทั้งระบบ

ธงชัยได้ขอเสนอให้พรรคการเมืองทั้งหลาย รัฐบาล กลับมาสนใจกรณีของบุ้งที่แม้จะเห็นต่างกันว่าบุ้งเป็นคนอย่างไร หรือแม้กระทั่งจะเห็นต่างกันก็ได้ว่าการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมจะต้องทำอะไรก่อนหลัง แต่เรื่องคุกคงไม่มีใครไม่ยอมรับว่าสภาพความเป็นอยู่ในคุกไทยนั้นมีปัญหาแล้วไปยอมรับว่าคุกไทยนั้นวิเศษเป็นสวรรค์ดีที่สุดอยู่แล้ว เขาเห็นว่าเรื่องการปรับปรุงระบบราชทัณฑ์โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายน่าจะเห็นตรงกันได้

ธงชัยกล่าวว่าเขาอยากเห็นการตั้งกรรมาธิการเพื่อบุ้ง กฎหมายบุ้ง เนติพรเพื่อการยกเครื่องระบบราชทัณฑ์ เขาไม่ได้ต้องการให้ละเลยกระบวนการยุติธรรมแต่มันเป็นเรื่องที่มีข้อถกเถียงอีกเยอะ แต่เรื่องราชทัณฑ์นี้มีข้อถกเถียงน้อยกว่าเยอะ และคงมีคนอยู่ไม่มากที่มองว่าระบบที่เป็นอยู่นี้ดีอยู่แล้วและถ้าจะมีก็คงเป็นคนที่กลัวว่าจะถูกวิจารณ์ว่าดูแลกรมราชทัณฑ์ได้ไม่ดีพอหรือเป็นเจ้ากระทรวงยุติธรรมที่ดีไม่พอ แต่พวกเขาก็เพียงกลัวที่จะถูกวิจารณ์ไม่ใช่เพราะเห็นว่าคุกที่เป็นอยู่ดี

ธงชัยกล่าวถึงข้อเสนอของเขาต่อกรณีของบุ้งว่า การสะสางอย่างหนึ่งคือการกำหนดบรรทัดฐานให้ชัดเจนว่าการละเลยแบบไหนถึงเป็นความผิด ถ้าแพทย์ทำผิดก็คือผิดแต่จะลงโทษหนักเบาอย่างไรหรือจะพูดถึงข้อจำกัดของแพทย์อย่างไรก็ตามที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผิด จะทำอย่างไรที่จะมีกรรมาธิการหรือทำให้ระบบกฎหมายเล็งไปสู่เป้าหมายในการยกเครื่องทั้งระบบได้ส่วนการเอาผิดคนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่าให้การเสียชีวิตของบุ้งสูญเปล่า พรรคการเมืองต่างๆ มาดูกันว่าต้องปรับปรุงเรื่องไหนในราชทัณฑ์มันต้องปรับปรุงอะไรบ้างรวมถึงการแพทย์การรักษาพยาบาลในเรือนจำ

ธงชัยกล่าวต่อไปว่า ควรจะมีคนเรื่องการปรับปรุงระบบราชทัณฑ์อย่างจริงจังอุทิศชีวิตลุยไปกับเรื่องราชทัณฑ์ ทำจนกว่าคนจะยอมฟังว่าระบบราชทัณฑ์ของไทยมีปัญหาร้ายแรงเพราะมองผู้ต้องขังไม่ใช่มนุษย์ปกติ จะทำให้การเสียชีวิตของบุ้งมีความหมายชัดเจน เพราะนับจากนี้ไปหากมีการปฏิรูปคุกอย่างจริงจัง ทุกคนก็จะบอกว่านี่คือผลพวงจากการเสียชีวิตของบุ้ง ความเปลี่ยนแปลงของราชทัณฑ์ครั้งใหญ่เป็นผลมาจากการทำให้การเสียชีวิตของคนหนึ่งคนอย่างบุ้งมีความหมายอย่างสำคัญขึ้นมาต่อการราชทัณฑ์ของไทยที่เกี่ยวข้องกับคนเป็นแสนที่ติดคุกอยู่ และทำให้คนเป็นแสนเหล่านั้นได้รู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนจำของเขาดีขึ้นเพราะบุ้ง

(https://prachatai.com/journal/2024/06/109555)