“จะรื้อให้หมดว่ามูลค่าความเสียหายจากการหากิน สด.๔๓ เป็นปีละเท่าไหร่ และมีการส่งต่อไปยังทหารระดับสูงกี่ขั้น” วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ประกาศต่อหน้า สุทิน คลังแสง “ถ้าเกิดกองทัพมากล่าวหาว่าเป็นการทำปลอมขึ้น
คำถามแรกเลย ใครเป็นคนทำปลอม ผู้ต้องหารายแรกก็คือ เจ้าหน้าที่บางคนของกองทัพ...ผมกำลังหารืออยู่ เพราะมีอาสาสมัครจำนวนมาก จะไปเก็บข้อมูลของสัสดีจำนวนหนึ่ง นำหลักฐานมาให้กรรมาธิการ” ว่ามีการเรียกรับทรัพย์ ในการขายใบ สด.๔๓
และ “หากกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะต้องระบุชื่อ - นามสกุล และลงลายมือชื่อผู้กล่าวหา โดยเฉพาะผู้กล่าวหาจะต้องเป็นผู้รับได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำนั้น...อยากเห็นหน้าเห็นตาเหมือนกันนะ”
อีกรายที่ออกมาป้องกองทัพแต่เนิ่น เป็นทีม ‘ท้อคกิ้งไทยแลนด์’ ของว้อยซ์ทีวี พูดกันถึงประเด็นว่าถ้าหากมีการขาย สด.๔๓ จริง ผู้มีความผิดไม่เพียงแต่สัสดีที่ทำเอกสารขึ้นมากันเองเท่านั้น คนซื้อย่อมมีความผิดด้วยไหม
ทั้ง ธีรัตถ์ รัตนะเสวี และวิโรจน์ อาลี พร้อมหน้ากันย้ำว่าผิดแน่ วิโรจน์ อาลี ยังทิ้งท้ายด้วยว่า “ตลกมาก สี่เดือนไม่ได้ทำอะไรเลย พอมีเรื่อง ส.ส.ตัวเองก็ออกมาแอ็คชั่นกันใหญ่” โอวนี่ อคติทีมว้อยซ์แก่กล้ามาก จนกล่าวหาได้อย่างไร้มูล
ก็เห็น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปคุยกับ ‘ป๋าเต็ด’ ออกอากาศช่วงท้ายๆ รายการว่า นี่ถ้า พิธา ได้เป็นนายกฯ ตามครรลองละก็ ผ่านมาสี่เดือนกว่าๆ นโยบายต่างๆ ของก้าวไกลได้เห็นผลแล้ว “ขนาดเป็นฝ่ายค้านเรายังเสนอกฎหมายเข้าไปในสภากว่า ๓๐ ฉบับแล้ว”
เขาคุยว่า “เราพร้อมขนาดนั้นเลย เพราะเรามีวาระของเราที่จะนำประเทศไปในทิศทางไหนอยู่แล้ว ไม่ใช่เข้ามาก็มานั่งตั้งกรรมาธิการศึกษาโน่นศึกษานี่อยู่อีก เป็นการซื้อเวลาเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาเลย” ตั้งงบประมาณเหมือนกันเปี๊ยบกับรัฐบาลประยุทธ์
(https://twitter.com/SleeplessBKK/status/1753590107926597688, https://twitter.com/skongki2000/status/1753291520474755113 และ https://twitter.com/MatichonOnline/status/1753301572464078909)
