ผบ.ตร.ก็ยอมรับนะว่า “ถ้ามันอย่างนี้แล้วพี่น้องประชาชนเขาจะมั่นใจอย่างไร ตำรวจมันยังทะเลาะกันเลย” เกี่ยวกับคดี ‘มินนี’ การพนันออนไลน์ที่มีเสี่ย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พัวพัน แล้วมีการชี้เป้าไปถึง ‘บิ๊กโจ๊ก’ จนกลายเป็นให้สัมภาษณ์ซัดกันไปมารายวัน
คู่กรณีสอง ‘บิ๊ก’ ตำรวจเป็น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว (บิ๊กเต่า) รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่ง ผบ.ตร.แต่งตั้งมา กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ผู้ถูกพาดพิงว่าเส้นทางเงินไปลงที่นั่น
สำหรับรูปคดีและดราม่ารายล้อม เช่น มีความพยายามของฝ่ายสอบสวนที่จะดึงคดีกลับมาจาก ปปช. ที่บิ๊กเต่าบอกว่า ถ้าเป็นคดีพิเศฯษอยู่กับ ‘ดีเอสไอ’ หรือ ปปช.จะมีการทำคดีเข้มงวด ถ้าอยู่กับมือตำรวจแล้ว มีโอกาสสั่งไม่ฟ้องได้
กับประเด็นที่บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า “สื่อก็รู้ว่าวันนี้ตำรวจกลุ่มไหนรับเงินเว็บพนันอยู่ ตำรวจทั้ง ตร. รู้หมดแหละ…ยศตำแหน่งเป็นเรื่องบุญวาสนา อย่ามาอิจฉาผมเลย” นั้น ด้านบิ๊กเต่ายืนยันว่า ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งอะไร
ได้รับแต่งตั้งมาก็อยากทำงานให้เต็มที่ เพราะให้เห็นหลักฐานเส้นทางการเงินแล้ว “มันชัดเจน” เนื่องกลุ่มตำรวจที่โดนฟ้องไปค้นหาหลักฐานมาเพียบ แถมบอกด้วยว่าเห็นใจตำรวจกลุ่มนี้ ที่ต้องทำตามคำสั่งผู้เป็นนาย (คงหมายถึง นายสั่งให้กิน)
ตามสำนวนสอบสวนที่อยู่ในมือ ปปช.นั่นเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ๑๔ คน อันเป็นตำรวจ ๘ คน ซึ่งเป็นลูกน้องของ รอง ผบ.ตร.ผู้ถูกหมายหัว นอกจากนั้นมีการขยายผลเพิ่มเติมโดยฝ่ายสอบสวน ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษตำรวจ ๕ คน นำโดยบิ๊กโจ๊ก
คดีนี้เป็นที่ใส่ใจจี้ติดของนักข่าว จนทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ต้องแถลงบ้างว่าได้เรียกคู่กรณีไปคุยแล้ว แต่ในเมื่อยังมีการให้สัมภาษณ์ซัดกันไปมา “มันไม่ได้มีผลดี ใครเจ๋งก็เก็บไว้สิ ของแท้มันต้องมาพูดเหรอ นักเลงเขาไม่พูดกันหรอก”
ต่อนี้ไปจะออกเป็นคำสั่งให้รวมการแถลงข่าวเป็น ‘วันสต็อปเซอร์วิช’ “คุณมีอะไรคุณตั้งโฆษกขึ้นมาเลย หรือรายงานขึ้นมาแล้วให้โฆษกออกจะดีกว่า” ส่วนพวกน้องๆ นักข่าวจะได้ไม่ต้องไล่ “เอาไมค์ไปจ่อปากคนโน้นทีคนนี้ที ไม่ได้ พี่ขอ”
ทั่น ผบ.ตร.ออกลูกได้สวย ซัดลูกน้องตนเองแล้วยังแซะสื่ออีกด้วยเล็กน้อย
(https://twitter.com/thestandardth/status/1760906001673535516 และ https://www.thaipbs.or.th/news/content/337335)