ชัยธวัช ย้ำสิทธิประกันตัว คดี 112 ต้องเท่าเทียม ยกอานนท์ เทียบทักษิณ เลือกปฏิบัติชัด
20 กุมภาพันธ์ 2567
มติชนออนไลน์
”ชัยธวัช“ ชี้ “แม้ว” ป่วยไม่ใช่เหตุผลได้พักโทษ ย้ำทุกคนต้องได้รับสิทธิเท่าเทียมรวมถึงคดีม.112 แนะเปิดข้อมูลการแพทย์ต่อสาธารณชนเรื่องจบ สังคมเลิกสงสัย ยันกก.พร้อมเกาะติดข้อมูลตรวจสอบเข้มข้น คู่ขนานนิรโทษกรรมคดีการเมือง
เมื่อเวลา 14.06 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่อธิบดีอัยการระบุถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าค่อนข้างวิกฤต จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าป่วยจริงหรือไม่ว่า ตนเข้าใจว่าอาการป่วยไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับการประกันตัว แต่โดยพื้นฐานพรรคก้าวไกลให้การสนับสนุนการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงต้องสันนิษฐานว่าทุกคนบริสุทธิ์ ดังนั้น หากใครไม่ได้รับการประกันตัวต้องเป็นกรณียกเว้นจริงๆ เรื่องนี้จะต้องมีการปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียมทางกฎหมาย และการได้รับการประกันตัว ควรเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับทุกคน แม้แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหาคดี 112 ด้วย
ส่วนอัยการคงไม่มีอำนาจมาวินิจฉัยเรื่องอาการป่วย เพราะต้องว่าตามเอกสารทางการแพทย์ที่จะไปเกี่ยวข้องกับเหตุผลที่นายทักษิณได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ประกาศของกระทรวงในการพักโทษ ดังนั้น คนที่ให้คำตอบได้ไม่ใช่อัยการ แต่ต้องเป็นแพทย์ กรมราชทัณฑ์ ทางที่ดีที่สุดคนที่เกี่ยวข้องควรออกมาเปิดเผยข้อมูลว่านายทักษิณได้รับสิทธิโดยชอบแล้วอย่างไร หากหน่วยงานเกี่ยวข้องมั่นใจว่าเรื่องนี้ทำถูกต้องแล้ว และเปิดเผยเอกสารทางการแพทย์เรื่องนี้ก็จบ สังคมจะได้เลิกสงสัยไม่ตั้งคำถามกับรัฐบาล
“สถานการณ์ที่ผมคิดว่า เรื่องใหญ่คือการไปตอกย้ำความรู้สึกของคนไทยจำนวนมากที่รู้สึกว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรมมีการปฏิบัติต่อประชาชนไม่เท่าเทียมกัน ในกระบวนการนิติรัฐ อภิสิทธิ์ชน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนออกมาต่อสู้เพื่อต้องการให้สังคมเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐาน วิธีใดที่คิดว่าจะเป็นการคืนความยุติธรรมให้กับนายทักษิณที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากอดีตที่ผ่านมา ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยวิธีการตอกย้ำ ผลิตซ้ำความอยุติธรรมที่จะสร้างปัญหา”
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลมีการเชิญนายทักษิณมานั่งที่ปรึกษาจะมีความเหมาะสมหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนคิดว่านายทักษิณก็มีสิทธิให้ความเห็นเหมือนประชาชนทั่วไป แต่ก็เป็นวิจารณญาณของรัฐบาล ส่วนจะมีอิทธิพลทางการเมืองหรือไม่นั้น ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของนายทักษิณจะมีความสำคัญต่อแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน สำหรับฝ่ายค้านก็จะติดตามข้อเท็จจริงว่ามีการใช้ดุลพินิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และคงต้องผลักดันกระบวนการยุติธรรมไม่ควรจะได้รับแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ควรคืนให้กับทุกคน ทุกฝ่ายที่ต้องคดีความที่มาจากความขัดแย้งทางการเมืองทึ่ผ่านมา
ต่อข้อถามว่า มีการตั้งคำถามถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลที่ยังตรวจสอบได้ไม่เข้มข้นพอเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ นายชัยธวัชกล่าวว่า เดี๋ยวรอดู ตนบอกแล้วว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องทำ ในฐานะที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ พร้อมๆ กับการผลักดันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง ซึ่งตอนนี้พรรคก้าวไกลพูดทุกวันอยู่แล้ว ขอรวบรวมข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่า สังคมมีการเปรียบเทียบคดีของนายทักษิณกับนายอานนท์ นำพา นักโทษคดี 112 ทางพรรคก้าวไกล มีความเห็นอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่างที่กล่าวไว้ว่า เรื่องนี้เป็นการตอกย้ำการเลือกปฏิบัติในทางกฎหมาย และตอกย้ำระบบนิติรัฐที่รัฐบาลบอกว่า จะทำให้เข้มแข็ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำลายความเชื่อถือของสังคมว่า รัฐบาลไม่ได้มีนิติรัฐสำหรับประชาชน แต่เป็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชนที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรม จะมีการนำกรณีของนายทักษิณมาเป็นกรณีตัวอย่างหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่จุดมุ่งหมายของการนิรโทษกรรมควรจะครอบคลุมคดีความที่เกึ่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือคดีเกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง หากคดีใดก็ตามของนายทักษิณเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ก็ควรมีการนำมาพิจารณา เพราะไม่ได้ตั้งต้นที่ตัวบุคคล ส่วนคดีไหนที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น คดีการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายนี้
ที่มา https://www.matichon.co.th/politics/news_4434566
#ทักษิณ ต่างกับคดี
— Chayapon_VoiceTV (@malaniyomc) February 20, 2024
'อานนท์-อากง' อย่างมาก!
.
▪️'ชัยธวัช' #ก้าวไกล มองคดีทักษิณ ตอกย้ำระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน ควรเปิดเอกสารการแพทย์มาดูให้หายสงสัย และหากทักษิณเจอคดีการเมืองจริง ก็ควรนำมาพิจารณาในการ #นิรโทษกรรม pic.twitter.com/Y3kABpGnAh