Thanapol Eawsakul
6h
·
ถ้าย้อนไป 30 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง 2540 เราก็ได้เห็นข้อเสนอจากกองทัพอย่างนี้แหละ
แต่ถึงที่สุดก็ทำอะเไรไม่ได้ และไม่คิดจะทำอะไร
การปฏิรูปกองทัพต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมือง
และแรงสนับสนุนทางสังคม โดยเฉพาะผ่านการเลือกตั้ง
กองทัพไม่เคยปฏิรูปตัวเองได้ ถ้าไม่แพ้
..........................
สภากลาโหม เผยแผนปฏิรูปกองทัพ ลดนายพล 50%-ลดกำลังพล 1.2 หมื่นนาย เตรียมแผน 5 ปี ซื้อ-ซ่อมอาวุธ ตามแผนพัฒนากองทัพ
https://www.facebook.com/.../a.17255411.../3352086311750904/
THE STANDARD
8h
.
UPDATE: สภากลาโหม เผยแผนปฏิรูปกองทัพ ลดนายพล 50%-ลดกำลังพล 1.2 หมื่นนาย เตรียมแผน 5 ปี ซื้อ-ซ่อมอาวุธ ตามแผนพัฒนากองทัพ
.
วันนี้ (31 พฤษภาคม) พ.อ. จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน โดยที่ประชุมมีมติให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ สร้างการรับรู้และความเข้าใจอันดีให้กับประชาชนในทุกภาคส่วน ได้ทราบถึงภารกิจ หน้าที่ ความรับผิดชอบและการดำเนินการที่สำคัญของกระทรวงกลาโหมที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมกำลังการใช้กำลัง เพื่อสร้างความพร้อมให้กับกองทัพให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับปรุงโครงสร้างให้มีขนาดกะทัดรัด คล่องตัว ทันสมัย เช่น การยุติแผนการเสริมสร้างกองพลทหารราบที่ 7 และกองพลทหารม้าที่ 3 ของกองทัพบก การปรับลดกำลังทหารพรานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 1,656 อัตรา ประหยัดได้ 600 ล้านบาท
.
การปรับลดนายทหารชั้นยศสูงเพื่อลดงบประมาณด้านกำลังพล โดยในห้วงปี 2570 ให้เหลือ 50% ตามแผนที่กำหนด รวมถึงการปิดการบรรจุกำลังพลและลดกำลังพลในปี 2560-2564 ไปแล้วกว่า 8,000 นาย สามารถประหยัดงบประมาณได้จำนวน 1,500 ล้านบาท และเมื่อถึงปี 2570 จะปรับลดกำลังลงได้ประมาณ 12,000 นาย และประหยัดงบกำลังพลลงได้ 2,900 ล้านบาทเศษ
.
สำหรับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการนั้น จำนวนที่ตรวจเลือกในแต่ละปีจะสอดคล้องกับโครงสร้างการจัดและภารกิจของกองทัพ โดยปัจจุบันมีความต้องการพลทหารปีละประมาณ 90,000 นาย และกำลังปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้สมัครใจเข้าเป็นทหารประมาณ 35,000 นาย ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาไปสู่การใช้ระบบการสมัครใจเข้าเป็นทหารได้ในอนาคต
.
นอกจากนั้น มีการนำกำลังพลสำรองเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราวตามสัญญาจ้างระยะ 4 ปี และการเตรียมการบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และการเตรียมการด้านกำลังพลสำรอง เพื่อรองรับสถานการณ์ยามวิกฤตและยามสงคราม เรื่องพิจารณาให้ความเห็นชอบเรื่องสำคัญๆ ดังนี้
.
รองโฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างแผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวงกลาโหม ระยะที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาศักยภาพกองทัพและเสริมสร้างหน่วยให้มีความสมบูรณ์ พร้อมรบ ในห้วงระยะ 5 ปี เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ แผนพัฒนาขีดความสามารถฯ แบ่งกลุ่มการพัฒนาออกเป็น 3 กลุ่ม
.
1. กลุ่มดำรงสภาพความพร้อมรบ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในระดับความต้องการต่ำสุด และให้สิ่งอุปกรณ์ของกองทัพสามารถใช้งานตามมาตรฐานของสิ่งอุปกรณ์นั้น รวมทั้งการจัดหาให้ครบตามอัตราการจัดยุทโธปกรณ์และการจัดหาทดแทน
.
2. กลุ่มขยายขีดความสามารถ เพื่อเพิ่มเติมขีดความสามารถของสิ่งอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
3. กลุ่มเสริมสร้างความทันสมัย เพื่อให้มีสิ่งอุปกรณ์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และรูปแบบภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป
.
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้เน้นย้ำแผนการปฏิรูปกองทัพว่า มีการทำอย่างต่อเนื่องตามกรอบงบประมาณที่มีอยู่ โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการดำรงขีดความสามารถระดับต่ำที่ต้องมี โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย้ำว่า นี่คือแผนของเราที่ทำอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวว่าใครจะมาหรือไป
.
#TheStandardNews